ส่อแววคดีพลิก! รพ.เผย นัดมาตรวจซ้ำ แต่ผู้ป่วยไม่มาตามนัด แถมยังไปมีลูกอีกหลายคน

LIEKR:

ให้กำลังใจบุคลากรแพทย์ พยาบาล น้องเทคนิคการแพทย์ ทำดีที่สุดแล้วค่ะ

    สืบเนื่องจากสาววัย 31 ร้อง รพ.ตรวจเลือดผิดติด เ อ ช ไ อ วี  ระบุตัวเองกับลูก 2 คนติด เ อ ช ไ อ วี ลูกถูกเพื่อน ล้ อ แม่เป็น เ อ ด ส์ สังคม รั ง เ กี ย จ ต้องหนีไปอยู่ที่อื่นกว่า 5 ปี จนมารู้ภายหลังไม่ได้ติดเชื้อ ล่าสุดดูเหมือนว่าความจริงจะถูกบิดเบือนไป หลังจากที่ทางนายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดแถลงผลการรวบรวมข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวข้องต่อข้อร้องเรียนเรื่องนี้ 

    โดยยืนยันว่าการให้ข้อมูลการร้องเรียนของนางมณีรัตน์ รวมทั้งการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนนั้นเป็นข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน หรืออาจกล่าวได้ว่าพูดไม่หมด เพราะการบันทึกผลตรวจของแพทย์นั้นระบุภาษาแพทย์เพียงว่า “In conclusive” หรือเป็นลักษณะผลของการตรวจที่ “ยังสรุปไม่ได้”

    นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดนครศรีธรรมราช  บอกต่อว่า เหตุเพราะนางมณีรัตน์ไม่ได้รับการตรวจอย่างครบถ้วนตามมาตรฐานที่ควรได้รับการตรวจ เพราะนางมณีรัตน์ไม่มาพบแพทย์ตามนัดถึง 2 ครั้งหลังจากคลอดบุตรจากการตั้งครรภ์ที่ 4 และครรภ์ที่ 5 นั้น เธอไม่ได้รับการตรวจซ้ำเพื่อยืนยัน

    ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2562 ได้มีการเจรจาทำความเข้าใจพร้อมทั้งทำบันทึกร่วมกัน และนางมณีรัตน์รับว่าเป็นผู้ผิดเองที่ไม่ได้มาตามนัดของโรงพยาบาล ขณะที่โรงพยาบาลได้เตรียมใช้เงินกองทุนจำนวน 50,000 บาทเพื่อแสดงความเอื้ออาทรต่อผู้ป่วย พร้อมทั้งได้นำผู้ป่วยทำการตรวจเลือดใหม่ตามมาตรฐานอย่างครบถ้วนที่ โรงพยาบาลทุ่งสง และโรงพยาบาลมหาราช ปรากฏว่าได้ผลทั้งสองที่ตรงกันคือครั้งแรกเป็นบวก ครั้งที่สองเป็นลบ และตรวจครั้งสุดท้ายเพื่อยืนยันปรากฏผลเป็นลบคือไม่ปรากฎเชื้อ

    นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังกล่าวด้วยว่าเงิน 50,000 บาทนางมณีรัตน์ยังไม่ได้มารับ แต่ได้ไปเคลื่อนไหวอย่างที่ปรากฏเป็นข่าวซึ่งเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ครบทำให้เกิดการเข้าใจผิดและเกิดผลเสียกับโรงพยาบาลทุ่งสง ยืนยันว่าโรงพยาบาลทุ่งสงปฏิบัติตามขั้นตอนมาตรฐานสากล สถิติผู้ป่วยที่คลอดตลอด 4 ปีที่ผ่านมาจำนวนมากถึง 11,436 คน พบปรากฏการติดเชื้อจากแม่สู่ลูกเพียง 1 คนเท่านั้น ตัวเลขนี้ถือเป็นมาตรฐานดีระดับโลกจึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับผู้ที่ติดตามเรื่องนี้โดยมีข้อมูลที่ครบถ้วน

นางสาวมณีรัตน์  คงหอม ผู้เสียหายจากกรณีตรวจเอชไอวีผิดพลาด จากโรงพยาบาล แห่งหนึ่ง ใน จ.นครศรีธรรมราช จนเข้าใจผิดคิดว่าตนเองเป็นโรคร้ายมานาน 5 ปี ได้มาเปิดใจในรายการ เป็นเรื่องเป็นข่าว  พร้อมด้วยนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความและประธานเครือข่าวรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม โดยนางมณีรัตน์ยอมรับว่า ตกใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ทั้งกรณีที่ทราบผลเลือดเมื่อ 5 ปีก่อนที่โรงพยาบาลในอำเภอทุ่งสงจะตรวจว่ามีเชื้อ HIV และกรณีแพทย์จากโรงพยาบาลชาติตระการ ตรวจไม่พบเชื้อ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านถือเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อชีวิต

    นางสาวมณีรัตน์  เปิดเผยว่า ตอนนี้ผลยืนยันออกมาแล้วว่า ไม่พบเชื้อ เ อ ช ไ อ วี ที่ผ่านมาตนเองไม่เคยกินยาต้านไวรัสแม้แต่เม็ดเดียว ได้มาก็ทิ้งหมด เพราะอยากตาย แต่ให้ลูกกิน ขอให้ลูกหาย ส่วนกรณีที่บอกว่ารับเงินเยียวยาจาก รพ.ทุ่งสงมาแล้ว 50,000 บาท ไม่ใช่เรื่องจริง ไม่เคยได้รับ เพราะเพิ่งรู้ตัวและไปร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมเมื่อปี 2561 ขอฝากสังคมในฐานะที่เคยกลายเป็นคนติดเชื้อ ต้องทุกข์และลำบากจากการติดเชื้ออยู่แล้ว ขอสังคมอย่ารังเกียจ แต่ให้กำลังใจเพื่อให้สู้ต่อดีกว่า

    ด้านแพทย์หญิง นิตยา ภานุภาค หัวหน้าหน่วย PREVENTION ศูนย์วิจัยเอดส์ สภากาชาดไทย ยืนยันว่าผลการตรวจเลือดของนางสาวมณีรัตน์ ไม่พบเชื้อ H I V แต่ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ที่ในช่วงของการตั้งครรภ์ อาจเกิดสภาวะแทรกซ้อนของร่างกาย จนทำให้ผลการตรวจเลือดผิดพลาด

    ด้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความและประธานเครือข่าวรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้ตั้งคำถามเพิ่มเติมต่อการให้บริการด้านสาธาณสุข ถึงมาตรฐานทางการเมือง เพราะเหตุการณ์นี้  แลกมาด้วยเวลา 5 ปี ที่ผู้เสียหายต้องถูกสังคมประนามว่า เป็นผู้ติดเชื้อ H I V

    ทางด้านเพจ Infectious ง่ายนิดเดียว ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน โดยมีเนื้อหาว่า

    เพจ Med Tech Smoothies ก็ได้ออกมาทวงคืนความเป็นธรรมให้กับเทคนิคการแพทย์ โดยเรื่องนี้ ทางห้องปฏิบัติการจะได้รับการเยียวยาอย่างไร ในเมื่อไม่ใช่เรื่องของห้องปฏิบัติการเลย

ข้อมูลและภาพจาก msn,Med Tech Smoothies,Infectious ง่ายนิดเดียว