ทำความรู้จัก "เอริค เซี่ย" วัย 27 หลานชาย "เจ้าสัว ซีพี" ผู้กลายเป็นเศรษฐีพันล้านในชั่วข้ามคืน

LIEKR:

เปิดผังครอบครัว "เอริค เซี่ย" เศรษฐีหนุ่มไฟแรง ผู้ถือหุ้นใหญ่ซิโนแวค หลานชาย "เจ้าสัว ซีพี"

    เรียกได้ว่าเป็นเศรษฐีหนุ่มอายุยังน้อยเลยก็ว่าได้ สำหรับ เอริค เซี่ย(Eric Tse) หนุ่มวัย 27 ปี ที่หลังจากจบการศึกษาการบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัย Pennsylvania ได้เพียงไม่นานเขาก็ได้รับสินทรัพย์เป็นของขวัญเรียนจบประมาณ 3.88 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.17 แสนล้านบาท) จากครอบครัว และทำให้เขาขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยแซงหน้า โดนัลด์ ทรัมป์ เพียงชั่วข้ามคืน[อ่านข่าวก่อนหน้า : หนุ่มจบใหม่วัย 24 ปี ได้ของขวัญจากพ่อแม่ มูลค่าแสนล้าน กลายเป็นเศรษฐีพันล้านในข้ามคืน]

    และที่กลายเป็นที่ฮือฮาและได้รับความสนใจจากสื่อในประเทศไทย หลังมีการเปิดเผยว่าหนุ่มเอริค มีศักดิ์เป็นหลานชายของเจ้าสัวซีพี ธนินท์ เจียรวนนท์ 

    เอริคเติบโตในประเทศสหรัฐอเมริกา พ่อและแม่ของเขาเป็นกรรมการผู้บริหารระดับสูงของบริษัท Sino Biopharmaceutical Limited ซึ่งมีวงในได้ออกมาเปิดเผยว่า         เอริคดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้บริหารของบริษัท เงินเดือนรายปีของเขาอยู่ที่ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราวๆ 150 ล้านบาท

    นอกจากนี้ ตามรายงานของสำนักข่าวไทย ได้จัดทำแผนผังเผยรายละเอียดว่า ต้นตระกูลเซี่ย 2 สายคือ สายประเทศจีน และสายประเทศไทย

 ต้นตระกูลคือ เซี่ยอี้ชู คหบดี เมืองซ่านโถว ซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อของ เซี่ยเจิ้งหมิน(ปู่ของเอริค) และ เซี่ยกั๋วหมิน (นายธนินท์ เจียรวนนท์)

    เซี่ยเจิ้งหมิน(ปู่) คือพ่อของ เซี่ยปิ่ง (เซี่ยปิง คือพ่อของ เอริค) นั่นเท่ากับว่า นายธนินท์ เจียรวนนท์ จะเป็น "ลุง, อา" ของ เซี่ยปิง และมีศักดิ์เป็นปู่ ของ เอริค เซี่ย ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Sino Biopharmaceutical

.

เซี่ยเจิ้งหมิน(ซ้าย)

ครอบครัวของเซี่ยปิง (เอริค เสื้อเขียว)

เซี่ยปิงและเอริค

    แต่อย่างไรก็หลังจากมีข่าวออกไป ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าทางเจ้าสัวซีพีมีหุ้นในบริษัทซิโนแวค และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อซิโนแวคของรัฐบาล ด้านเครือเจริญโภคภัณฑ์(ซีพี)ก็ได้ออกมาชี้แจ้งบอกว่า ข่างลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง และทางซีพีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อใดๆทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม

    โดยมีการชี้แจงข้อเท็จจริงข้อหนึ่งว่า "Sino Biopharmaceutical เข้าไปถือหุ้นใน Sinovac Life Sciences จำนวน 515 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 15.03 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการดำเนินธุรกิจของบริษัทดังกล่าวเอง โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้มีหุ้นใดๆ และไม่ได้มีสิทธิ์การเป็นเจ้าของในบริษัท Sinovac Life Sciences ใดๆ ทั้งสิ้น

    สำหรับ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นเพียงผู้ถือหุ้นรายย่อยใน Sino Biopharmaceutical ที่เข้าไปลงทุนผ่านทางตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ไม่มีสิทธิ์ในการบริหารและแทรกแซงการตัดสินใจใดๆ ในซิโนแวค และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อมกับการสั่งซื้อของรัฐบาล

    ทั้งนี้ทางเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้มาประกาศว่า หากผู้ใดมีการเจตนานำข้อมูลไปบิดเบือน และสร้างความเสียหาย ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด เครือเจริญโภคภัณฑ์มีความจำเป็นต้องดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

.

.

.

.

.

.

ที่มา : สำนักข่าวไทย, erictse0816