นักศึกษาวัย 23 ปี พัฒนาพลาสติกจาก "เกล็ดปลา-สาหร่ายทะเล" ย่อยสลายได้ใน 1-2 เดือน
LIEKR:
ในปัจุบันปัญหาเรื่องมลภาวะที่เกิดจากถุงพลาสติกเริ่มที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ มันส่งผลกระทบถึงสิ่งแวดล้อมทุกด้าน หลายหน่วยงานพยายามที่จะแก้ไขปัญหาจากพลาสติกเหล่านี้มาเป็นเวลานาน แต่ดูเหมือนว่ามันก็เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาได้เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น
ล่าสุดมีนักศึกษาชาวอังกฤษชื่อว่า ลูซี่ฮิวจ์ (Lucy Hughes) เธออายุเพียงแค่ 23 ปี ปัจบุบันเธอกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยซัสเซ็กซ์ในสหราชอาณาจักร (University of Sussex)เธอได้ทำโครงการตัวหนึ่งได้สำเร็จ และเธอเชื่อว่ามันจะเป็นทางออกที่ดีต่อปัญหาเรื่องปัญหาของพลาสติกได้อีกด้วย เธอได้สร้างวัสดุทดแทนพลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่เรียกว่า "Marinatex" เพื่อเอาไว้ใช้แทนแผ่นพลาสติกชนิดบาง
เธอกล่าวว่า “พลาสติกแบบดั้งเดิมจะไม่สลายตัวหลังจากผ่านไปหลายร้อยหรือหลายพันปี และในปัจจุบันก็ดูเหมือนว่ามันจะถูกใช้มากขึ้นทุกวัน”
เธอกล่าวอีกว่า “ไม่ใช่เธอแค่คนเดียวที่กำลังพัฒนาวัสดุทดแทนพลาสติกดั้งเดิมที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน หลายหน่วยงานกำลังพัฒนาสิ่งนี้ เพราะตระหนักได้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้”
เริ่มแรกเธอได้พัฒนาวัสดุทดแทนเหล่านี้ขึ้นมาจากสาหร่าย แต่ผลที่ได้คือสาหร่ายมันหดตัวกลับเป็นรูปร่างของสาหร่ายได้อย่างง่ายดาย
ต่อมาเธอได้ไปเยี่ยมชมบริษัท ประมงแห่งหนึ่ง เธอได้เห็นปริมาณขยะอินทรีย์ที่ผลิตโดยโรงงานอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก เธอจึงได้ลองนำขยะพวกนั้นกับมาทำการวิจัย และก็พบว่าผิวหนังของปลา , เปลือกหอย , เปลือกกุ้ง สามารถเอามาใช้งานได้ และแก้ปัญหาจากการใช้สาหร่ายอย่างเดียวได้
โครงการวิจัยของเธอนั้นมันไม่ได้ใหญ่มาก แต่ลูซี่ฮิวจ์ ได้คำนวณแล้วว่าวัสดุเหลือใช้จากปลาในมหาสมุทรแอตแลนติกของเรือหนึ่งลำสามารถให้ผลผลิตถุง Marinatex ประมาณ 1,400 ถุง
สิ่งประดิษฐ์อันยอดเยี่ยมนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศในระดับนานาชาติปี 2019 จากมูลนิธิ James Dyson เมื่อวันที 13 พฤศจิกายน 62 ที่ผ่านมา โดยผู้ก่อตั้งมูลนิธิ James Dyson ได้อธิบายถึงไบโอพลาสติก “MarinaTex” นี้ว่ามีความแข็งแรง ปลอดภัย กว่าพลาสติกโพลีเอธิลีน ทั้งยังย่อยสลายได้ง่ายซึ่งมันจะกลายมาเป็นปุ๋ยในกรณีที่ย่อยสลายในดิน ทำให้เหมาะสมที่จะนำมาใช้แทนพลาสติกโพลีเอธิลีน ที่เป็นวัสดุที่ใช้ผลิตถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งในทุกวันนี้ โดยเขาได้มอบเงินรางวัล 41,000 ดอลลาร์แก่ Lucy Hughes เจ้าของสิ่งประดิษฐ์นี้ด้วย
ที่มา : lp-yaem