เผยสูตรขจัดคราบ "โถชักโครก" สุดเจ๋งด้วยผ้า ทำชีวิตแม่บ้านง่ายขึ้นทันที!!
LIEKR:
หลายต่อหลายครอบครัวคงปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องเสียเวลาในการทำความสะอาดข้าวของภายในบ้านเกือบทุกวัน บางคนทำจนเหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่วันนี้แอดมันจะขอแนะนำเคล็ดลับวิธีทำความสะอาดที่จะทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลากับมันมากเลย แถมยังช่วยประหยัดเวลาอันมีค่าของคุณไปได้มากทีเดียว
1.ขจัดคราบน้ำกระด้างบนก๊อกน้ำของคุณโดยใช้น้ำส้มสายชู
1.1 นำกระดาษทิชชู่ชุ่มน้ำส้มสายชู
1.2 แล้วนำมาพันรอบก๊อกน้ำทิ้งไว้ 30-60 นาที แล้วล้างออก
2.ลบคราบเหนียวจากพรมโดยใช้เตารีด
2.1 เตรียมขวดหัวฉีดพ่น ผสมแอมโมเนียกับน้ำอย่างละครึ่ง
2.2 เตรียมผ้าขนหนูที่ไม่ใช่แล้ววางทับคราบเหนียว จากนั้นฉีดพ่นส่วนผสมลงไปบนผ้าขนหนูเพื่อให้แอมโมเนียซึมลงบนคราบ
2.3 จากนั้นใช้เตารีดที่เปิดไฟแรงสุด รีดลงบนผ้าขนหนูหลายๆรอบ จนกระทั่งคราบเหนียวหลุดออก
3.วิธีขจัดคราบเหลืองบนหมอน
3.1 ตรวจสอบว่าหมอนของคุณล้างทำความสะอาดได้หรือไม่
3.2 นำหม้อขนาดใหญ่ที่ใส่น้ำไปต้ม
3.3 เทผงซักฟอกหรือ น้ำยาล้างจาน 1 แก้ว ผงบอแรกซ์ ครึ่งแก้ว คนให้ละลายเข้ากัน (1 แก้วเท่ากับ 200 มล.)
3.4 เทส่วนผสมนี้ลงในภาชนะหม้อต้มขนาดใหญ่ที่ต้มไว้ แล้วเทสารฟอกขาว 1 แก้วลงไป นำหมอนลงไปแช่ในหม้อต้มเป็นเวลา 30 นาที อย่าลืมพลิกมันไปมาด้วย
3.5 เมื่อครบ 30 นาทีแล้วจึงนำไปซักในเครื่องซักผ้าได้ตามปกติ แค่นี้หมอนก็จะกลับมาใหม่แล้ว
4.ใช้ก้อนน้ำส้มสายชูกับมะนาวแช่แข็งเพื่อกำจัดกลิ่นเหม็นออกจากที่กรองตะกอนอ่างล้างจาน
4.1 วางมะนาวก้อนเล็ก ๆ ลงในแม่พิมพ์น้ำแข็งแต่ละก้อนจากนั้นเติมน้ำส้มสายชูลงไป และนำไปแช่แข็ง
4.2 นำน้ำแข็งไปวางยังที่กรองตะกอนล้างจาน 2-3 ก้อน แค่นี้ก็ช่วยลดกลิ่นเหม็นได้แล้ว
5.รักษาเครื่องล้างจานให้สะอาดเสมอ
5.1ดึงชั้นวางด้านล่างของเครื่องล้างจานออก ตรวจสอบบริเวณท่อระบายน้ำและนำชิ้นอาหารออกหากมี
5.2 เติมน้ำส้มสายชูและน้ำยาล้างจานลงในถ้วยที่ต้องการล้าง
5.3 จากนั้นนำถ้วยไปวางบนตะแกรงของเครื่องล้างจาน ตั้งค่าน้ำที่ร้อนที่สุด แล้วปล่อยให้เครื่องทำงานตามปกติ
5.4 จากนั้นโรยเบกกิ้งโซดาในปริมาณที่พอเหมาะด้านล่างสุด แล้วกดให้เครื่องทำงานสั้นๆ อีกครั้ง
5.5 หากเครื่องล้างจานมีเชื้อรา ให้เติมสารฟอกขาว 1 แก้วที่ด้านล่าง แล้วกดให้ระบบทำงานสั้นๆ อีกรอบด้วยน้ำร้อน
สำคัญ: หากเครื่องล้างจานของคุณมีการตกแต่งภายในสแตนเลสอย่าใช้สารฟอกขาว สารฟอกขาวสามารถกัดเซาะมันได้!
6.ทำให้เสื้อผ้าขาวโดยไม่ต้องใช้สารฟอกขาว
6.1 ผสมน้ำ 12 แก้ว น้ำมะนาว ¼ แก้ว และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 1 แก้ว ในภาชนะขนาดใหญ่
6.2 เทส่วนผสม 2 แก้วลงในเครื่องซักผ้าที่ต้องการซักในแต่ละครั้ง
7.ขจัดคราบบนหัวฝักบัวด้วยน้ำส้มสายชู
7.1 เทน้ำส้มสายชูลงในถุงพลาสติก จากนั้นนำหัวฝักบัวแช่ลงไปให้ท่วม 30-60 นาที
7.1 แนะนำให้ถอดหัวฝักบัวออกปีละ 2 ครั้งแล้วนำไปแช่ในน้ำส้มสายชูเพื่อฆ่าเชื้อ
8.ทำความสะอาดเตาแก้ว
8.1 ผสมน้ำร้อนและสบู่หรือน้ำยาล้างจานลงไปเล็กน้อยลงในภาชนะ แล้วนำผ้าลงไป
8.2 โรยเบกกิ้งโซดาในปริมาณที่พอเหมาะบนเตา
8.3 นำผ้าที่แช่ส่วนผสมวางบนเตา จากนั้นปล่อยให้เตาร้อนจัดด้วยเบกกิ้งโซดาที่โรยก่อนหน้านี้ ทิ้งไว้ 15 นาที
8.4 แล้วค่อยๆถูออก
9.ทำความสะอาดพัดลมติดเพดาน
ใบพัดของพัดลมที่มีฝุ่นอาจทำความสะอาดได้ยาก และมีโอกาสที่คุณจะกระจายฝุ่นไปทั่วห้องของคุณ ไม่ต้องกังวลนี่เป็นวิธีแก้ปัญหาสำหรับที่ดี แค่คว้าบันไดหยิบปลอกหมอนเก่า ๆ แล้วเช็ดใบพัดลมทุกใบ ปลอกหมอนจะช่วยให้คุณจับฝุ่นโดยไม่ให้มันตกลงมาทุกที่
10.ทำความสะอาดเตาแก๊ส
10.1 เทแอมโมเนียลงในถุงพลาสติกเทอร์โม จากนั้นนำชิ้นส่วนเตาใส่เข้าไปในถุงพลาสติกแล้วปิดผนึก
10.2 ทำซ้ำกับส่วนที่สกปรกอื่น ๆ
10.3 ปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืน เช้าวันรุ่งขึ้นคุณจะสังเกตุเห็นว่าชิ้นส่วนที่สกปรกจะลอยอยู่ นำชิ้นส่วนออกมาล้างทำความสะอาดตามปกติ
11.ทำความสะอาดโถชักโครก
11.1 แช่ผ้าขนหนูผืนเล็กในน้ำส้มสายชู
11.2 เหน็บผ้าขนหนูติดใต้ขอบโถชักโครก
11.3 เหน็บติดไว้ 2-3 ชั่วโมงแล้วเอาผ้าขนหนูออก
11.4 จากนั้นทำความสะอาดตามปกติคราบก็จะสะอาดและที่สำคัญสามารถฆ่าเชื้อโรคได้อีกด้วย
12.ขจัดคราบสกปรกออกจากเขียงของคุณด้วยน้ำมะนาวและแสงแดด
12.1 บีบน้ำจากมะนาวแล้วใช้เปลือกมะนาวเพื่อเกลี่ยให้ทั่วคราบบนเขียง
12.2 นำเขียงไปอาบแดด! ทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมงหรือจะมากกว่านั้นก็ได้
12.3 จากนั้นนำเขียงมาล้างทำความสะอาด
13. ไอน้ำทำความสะอาดไมโครเวฟ
13.1 ผสมน้ำและน้ำส้มสายชู 1: 1 เท่ากันใส่ในแก้วน้ำ
13.2 จากนั้นใส่ในไมโครเวฟ เปิดปุ่มทำงานเวฟประมาณ 2 นาที
13.3 จากนั้นใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดไมโครเวฟ
14.ขจัดคราบเหลืองบนเสื้อขาว
14.1 ผสมน้ำยาล้างจานในอัตราส่วน 1: 2 กับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เข้าด้วยกัน
14.2 นำเทลงบนคราบเหลือง ตามด้วยโรยผงโซดาลงไปเล็กน้อย
14.3 ใช้แปรงขัดซักผ้าหรือจะใช้แปรงสีฟันเก่า ๆ ก็ได้ ตามด้วยโรยผงเบกกิ้งโซดาลงบนคราบเหลือง
14.4 แล้วแช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น จากนั้นซักตามปกติ
15.ใช้แว็กซ์รถทำความสะอาดตู้เย็นสแตนเลส
ทาแว็กซ์รถลงบนพื้นผิวตู้เย็น จากนั้นใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาด แว็กซ์ช่วยป้องกันรอยเปื้อนได้ดี
16.กำจัดคราบน้ำบนจานด้วยน้ำส้มสาย
ใส่น้ำส้มสายชูลงชามเล็ก ๆ วางไว้ที่ชั้นบนสุดของเครื่องล้างจานของคุณ ต่อไปจานก็จะไม่มีคราบน้ำอีกต่อไป!
ที่มา :Bright Side
แปลและเรียบเรียงโดย Liekr