ป้าชาวพะเยาใจสู้ นำเงินเยียวยา 5000 บาท พลิกวิกฤติเป็นโอกาส ทำทุนขายน้ำพริก
LIEKR:
เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการสู้ชีวิต ต่อยอดทำกำไรด้วยลำแข้งตัวเอง นำเงิน5 พันที่รัฐบาลให้ มาสร้างรายได้สร้างอาชีพเลี้ยงตัวเอง โดยคุณป้าอรุณี เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าชื่นชม
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ชุมชนหน้าวัดป่าลานคำ ต.แม่ต๋ำ อ.เมือง จ.พะเยา เพื่อเยี่ยมชมกระบวนการผลิตน้ำพริกกากหมู "บ้านครู" ซึ่งเป็นผู้ผลิตอาหารรายใหม่ ที่เกิดขึ้นมาได้เพราะเงินช่วยเหลือเยียวยาในโครงการ "เราไม่ทิ้งกัน" ของรัฐบาล ที่มอบช่วยเหลือประชาชนในยามเกิดวิกฤติ จนสามารถสร้างรายได้ และเกิดธุรกิจครอบครัวขนาดเล็กแต่ทำเงินให้ในช่วงสั้นๆ อย่างงดงาม ทั้งปริมาณการขายและการตลาด
นางอรุณี ชลฤทธิ์ อายุ 56 ปี เจ้าของน้ำพริกกากหมูและน้ำพริกหมูฝอย "อิ่มอร่อย กับ Baan Kru" เปิดเผยว่า ก่อนที่จะเกิดวิกฤต ตนเองมีหน้าที่เลี้ยงดูหลานๆ เนื่องจากลูกๆรับราชการครูทั้งหมด พอเกิดปัญหาประกอบกับเป็นช่วงที่หลานๆจะเข้าเรียนในเทอมหน้าพอดี จึงว่าเลยปรึกษาลูกๆว่าเวลาว่างๆนี้อยากทำอะไรสักอย่าง ไม่อยากอยู่เฉยๆ จึงได้ลองขอเงินทุนจากโครงการ “เราไม่ทิ้งกัน“ และได้รับเงินงวดแรก 5,000 บาท เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา
เจ้าของน้ำพริกกากหมูและน้ำพริกหมูฝอย กล่าวต่อว่า หลังจากที่ปรึกษาลูกๆแล้วก็สรุป ได้ว่าจะทำน้ำพริกกากหมู เพราะยังมีคนทำไม่มาก จึงลงมือทำแล้วแจกให้เพื่อนบ้านและญาติๆชิม เมื่อทุกคนเห็นพ้องก็ลงมือทำทันที โดยตนเองมีหน้าที่ทำน้ำพริก ส่วนลูกๆ ก็ทำหน้าการตลาดสร้างเฟศบุ๊กเพจ ” อิ่มอร่อย กับ Baan Kru“ ขึ้นมาเพื่อประชาสัมพันธ์ เพียงไม่ถึง 1เดือน ก็มียอดสั่งจองจากทุกภาคของประเทศไทย ยกเว้นภาคใต้ ทำให้เงินที่รับมา 5,000 บาทงอกเงยเป็นเกือบ 8,000 บาทแล้วในช่วงเวลาสั้นๆ จึงคิดขยายตลาดต่อไปด้วยการทำน้ำพริกหมูฝอย ที่ก็ขายดีพอๆกัน
เจ้าของน้ำพริกกากหมูและน้ำพริกหมูฝอย กล่าวด้วยว่า ขอขอบคุณรัฐบาลที่ได้ให้โอกาสกับตนเองและครอบครัวได้สร้างรายได้เพิ่มจากเงินเยียวยา และอยากให้ทุกคนที่ได้เงินเยียวยาลองหาลู่ทางเพื่อนำเงินไปต่อยอดสร้างสินค้า สร้างรายได้ให้มันพอกพูนมากยิ่งๆขึ้นไป ซึ่งอาจจะเป็นธุรกิจที่ทำเงินได้มากมายใน อนาคตก็ได้ หากท่านใดต้องการสั่งน้ำพริกกากหมู น้ำพริกหมูฝอย สามารถสั่งได้จากเพจ. ว่า "อิ่มอร่อย กับ Baan Kru"
.
.
.
ที่มา : thairath, อิ่มอร่อย กับ Baan Kru