"ไทรเกาหลี" กำแพงธรรมชาติ ช่วยกรองลดฝุ่นละอองเข้าบ้าน กันแดด กันเสียง แถมร่มรื่นไม่เบา

LIEKR:

ใบเยอะ พุ่มแน่น กรองฝุ่นพิษได้ รีบหามาปลูกกันเลย!

    หลายบ้านมักเจอกับปัญหาฝุ่นและลม ที่พัดมาเข้าบ้านเสมอ แต่รู้หรือไม่ว่า การปลูกต้นไม้ ก็สามารถช่วยกันลมและฝุ่นได้โดยไม่ต้องเปลืองเงินสร้างกำแพงหนาๆ เลย แถมยังกันแดด กันเสียง เพิ่มความเป็นส่วนตัว พร้อมสร้างความสดชื่นและความร่มรื่นให้กับผู้คนในบ้านไปได้ในตัว

    คุณ สมาชิกหมายเลข 4868021 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ได้ออกมาเผยวิธีการปลูก "ไทรเกาหลี" ไว้หน้าบ้าน ต้นไม้หาง่าย ราคาไม่แพง ที่จะช่วยให้บ้านของเขาสวยงาม สดชื่น ร่มรื่น แถมต้นไทรเกาหลีก็ยังมีพุ่มแน่น ใบเยอะช่วยกันลมและฝุ่นได้อีกต่างหาก มีเทคนิคแบบไหน และมีเคล็ดลับอะไรบ้าง ถ้าหากใครอยากรู้ ก็ตามมาดูกันเลยค่ะ

    สวัสดีครับ ผมชื่อแจ็ค เป็นนักบินของสายการบินยอดนิยมแห่งหนึ่ง ภรรยาเคยเป็นแอร์โฮสเตส ปัจจุบันมาช่วยดูแลลูกที่กำลังซน น่ารัก น่าฟัดที่สุด เวลาทำงานผมก็เต็มที่ บินเหินฟ้าผ่านก้อนเมฆสู่เส้นทางต่างๆ ในแต่ละประเทศ ตอนอยู่บ้านจึงเป็นช่วงเวลาพักผ่อนกับครอบครัวที่มีความสุขที่สุด

.

    - บ้านของเราเป็นบ้านเดี่ยวอยู่ในหมู่บ้านชื่อดังที่มีการจัดการที่ดี หน้าบ้านของเราเป็นสนามหญ้า มีต้นโมกปลูกไว้ที่ริมรั้วด้านใน

    - แรกๆ ก็คิดว่าต้นโมกจะช่วยบังสายตาจากคนภายนอกได้ แต่ปรากฏว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย

    - สภาพของต้นโมกเป็นอย่างที่เห็นในภาพคือ ใบบางมาก เห็นแต่กิ่งก้านลำต้น โหรงเหรงจริงๆ มองเห็นคนที่เดินผ่านไปมา แล้วคนก็มองทะลุเข้ามาได้อีก ไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย แถมยังไม่สวยด้วย สภาพของต้นโมกน่าสงสารเชียว

    - กำแพงด้านนอกแรกๆ ก็สวยดีครับ แต่เมื่อเวลาผ่านไปดันมีคราบสกปรกเลอะเทอะทั้งสีดำและสีขาว แถมยังดูแข็งกระด้าง ไม่สดชื่นเลย แต่พอไปดูบ้านของคนอื่นที่มีการปลูกต้นไม้ริมรั้วบ้าน เขียวขจีใบแน่นมาก ตอนแรกคิดว่าเป็นต้นโมกเหมือนที่บ้าน แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ เป็นต้นไทรเกาหลี เดี๋ยวนี้เกาหลีมาแรงแฮะ ทั้งดาราเกาหลี เพลงเกาหลี นี่ยังไทรเกาหลีอีก!

    เพื่อนบ้านที่น่ารักก็เลยแนะนำฟาร์มที่ปลูกไทรเกาหลีให้ บอกว่าที่นี่ปลูกไทรเกาหลีเอง ขายเอง มีบริการส่งและปลูกให้ด้วย ผมจึงขอเบอร์และโทร. ไปคุยกับ "ไทรเกาหลี ซีซั่นฟาร์ม" โดยที่ฟาร์มนี้มีตั้งแต่ขนาด 1 เมตร จนถึง 3.5 เมตรให้เลือกใช้ โชคดีที่กำลังมีโปรโมชั่นอยู่ด้วย ผมก็เลยเลือกที่ความสูง 2.5 เมตร พร้อมแจ้งพื้นที่ปลูกว่าทั้งหมดรวมแล้วยาวกี่เมตร ทางฟาร์มก็คำนวณให้เสร็จสรรพว่าใช้กี่ต้น สรุปก็คือ พื้นที่ปลูกยาว 1 เมตร ใช้ไทรเกาหลีของที่ฟาร์ม 3 ต้น หากพื้นที่ปลูกยาว 20 เมตร ก็ใช้ 60 ต้น เป็นต้น (555 เป็นต้นแน่นอน เป็นอย่างอื่นไม่ได้)

    เนื่องจากผมหาคนปลูกแถวนี้ไม่ได้ ลองคุยกับบางคนดูแล้วก็ไม่แน่ใจว่าไทรเกาหลีจะรอดมั้ย โชคดีที่ทางฟาร์มมีบริการปลูกในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียงด้วย ค่าใช้จ่ายก็จะประกอบด้วย ค่าไทรเกาหลี ค่าขนส่ง ค่าปลูก และค่าดินปลูกต้นไม้ที่ทางฟาร์มแนะนำให้ซื้อจากทางฟาร์ม โดยเป็นดินปุ๋ย ราคาถุงละ 10 บาท เพราะดินตามบ้านเป็นดินถมที่ การใช้ดินปลูกต้นไม้ จะเหมาะสมและส่งผลดีกับต้นไม้ ทำให้เจริญงอกงาม แจ่มจรัส

    ที่นี่มีขายไทรเกาหลีทั้งถุง 8 และถุง 10 ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าคืออะไร และไม่เคยได้ยินใครพูดถึงเลย ทางฟาร์มอธิบายว่า ถุง 8 ก็คือถุง 8 นิ้ว ส่วนถุง 10 ก็คือถุง 10 นิ้ว เป็นถุงที่ทางฟาร์มใช้เลี้ยงไทรเกาหลีมาเป็นปีหรือหลายปี เคยเห็นมั้ยครับที่เป็นถุงพลาสติกสีดำ ทางฟาร์มแนะนำให้ใช้ถุง 10 เพราะพุ่มแน่นกว่า ใบเยอะกว่า ลำต้นใหญ่กว่า และแข็งแรงกว่า สรุปก็คือผมใช้ถุง 10 ครับ

    - ฟาร์มแจ้งว่าปรกติจะมาถึงบ้านลูกค้าช่วง 07.00-08.00 น. ถึงวันนัด ทีมงานก็มา รถจอดที่หน้าบ้านแล้ว โอ้! ต้นไม้สูงท่วมรถเลย ตอนแรกคิดว่าต้นไม้จะตั้งบนรถ ปรากฏว่านอนมา 555 ทางฟาร์มคงกลัวไทรเกาหลียืนนานจะเมื่อยขา เลยวางต้นไม้นอนมา จริงๆ ทีมงานบอกว่าต้องวางแบบนี้ ต้นไม้ถึงจะไม่เสียหายครับ

    - พอแนะนำตัวเสร็จ ทีมงานก็จัดแจงยกต้นไทรเกาหลีลงมาจากรถ แต่ละต้นท่าทางหนักไม่ใช่เล่น

    - ยกทีละต้นลงมาวางนอนที่พื้น แต่ละต้นพุ่มแน่นเชียว

    - นี่ครับดินปลูกต้นไม้หรือดินปุ๋ย

    - อาวุธจัดเต็มมาเลย

    - รถเข็นก็เอามาด้วย สีแดงโดดเด่น ท่าทางจะกรำศึกมาไม่ใช่น้อย

    - ผมบอกกับทีมงานว่าจะปลูกตรงไหนบ้าง ทีมงานเริ่มต้นด้วยการนำเสียมมาทำแนวที่จะขุดหลุม คล้ายๆ กับที่เราตีเส้นบนกระดาษ แต่นี่ทำแนวบนพื้นดิน ยาวตลอดเลย

    - ต่อด้วยการใช้จอบขุด

    - สังเกตว่าขุดหลุมโดยไม่ได้ชิดกำแพง มีการเว้นที่ไว้ด้วย ห่างเท่าไรก็ลืมถาม

    - ขุดๆๆ

    - เมืองไทยอากาศหนาวมาก เหงื่อโชกเลย

    - จากนั้นก็เทดินปลูกต้นไม้ลงไปที่ก้นหลุม ไม่เคยรู้มาก่อนว่าต้องทำแบบนี้ เคล็ดลับสินะ

    - แล้วใช้ไม้กวาด ไม่ได้กวาดให้สะอาดแบบกวาดบ้าน แต่เป็นการเกลี่ยดินปุ๋ยให้เสมอกันจนทั่วทั้งหลุม

    - คราวนี้ก็นำมีดมากรีดถุงดำ ทีมงานบอกว่าต้องกรีดด้วยความระมัดระวัง

    - อีกคนเข้ามาช่วยแกะถุงดำออก

    - คราวนี้ก็ยกต้นไทรเกาหลีไปวางไว้ในหลุมทีละต้น

    - มีการหมุน ขยับแต่ละต้นด้วย คงจะเล็งเหลี่ยมเล็งมุมให้เหมาะ

    - ปลูกไล่ไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน แต่อากาศร้อนจริงๆ ผมนี่ต้องรีบเอาน้ำขวดมาแจกเลย

    - พอลงไทรเกาหลีครบหมดทุกต้นแล้ว ทีมงานก็นำดินที่ขุดออกมาตอนแรกไปกลบคืนที่หลุม

    - มีการใช้ขาไปเหยียบย่ำให้ดินแน่นด้วย แต่อย่าเหยียบแรงเกินไปนะครับ เดี๋ยวต้นไม้จะเจ็บ เอ๊ย ! ไม่ใช่ พี่ทีมงานบอกว่าเดี๋ยวจะกระทบกระเทือนกับราก

    - เมื่อกลบดินจนครบแล้ว ก็นำดินปุ๋ยมาเททับหน้าอีกทีจนครบทุกต้นเลย เทคนิคการปลูกของมืออาชีพเป็นอย่างนี้นี่เอง แอบจำเอาไว้

    - คนเทดินปุ๋ยก็เทไป ที่เหลือก็เก็บกวาด กวาดจนไปถึงหน้าหมู่บ้าน เอ๊ย ! ไม่ใช่ 555

    - กวาด โกย เก็บขยะ ทำงานกันคล่องแคล่ว ไม่มีใครสั่งงานใคร ต่างก็รู้หน้าที่ของตัวเอง

    - ต่อด้วยการใช้น้ำฉีดทำความสะอาดที่พื้นจนเอี่ยม

    - แถมด้วยการรดน้ำไทรเกาหลีให้อีก เยี่ยมจริงๆ ไทรเกาหลีกำลังหิวน้ำอยู่พอดี

    - นี่คือผลลัพธ์จากฝีมือการปลูกของผม เอ๊ย ของทีมงาน ตอนนี้หน้าบ้านร่มรื่นเขียวขจี จากในบ้านมองออกไปมีไทรเกาหลีที่ใบแน่นสวย ถ้าอยู่ข้างนอกมองเข้าไปก็ไม่เห็นข้างใน เป็นส่วนตัว ถูกใจจริงๆ

    - Before & After ภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังการปลูกไทรเกาหลี ไม่นึกเลยว่าจะสวยสดชื่นขนาดนี้ ปลื้มปริ่ม

    - Before & After ภาพเปรียบเทียบรั้วเหล็กที่เป็นซี่ ถูกแทนที่ด้วยสีเขียวสดของไทรเกาหลี ใบแน่นมากครับ

    - Before & After ภาพเปรียบเทียบ ร่มรื่นมากมาย กำแพงที่เป็นคราบมอมแมมไม่เห็นแล้ว มีแต่สีเขียวสดของไทรเกาหลี ไม่น่าเชื่อเลยว่าเพียงไม่กี่ชั่วโมง จะเปลี่ยนแปลงไปได้ถึงขนาดนี้

    - Before & After ภาพเปรียบเทียบจากในบ้านมองออกไปที่หน้าบ้าน เดิมต้นโมกดูโหรงเหรง คราวนี้มีไทรเกาหลีมาช่วยชีวิต โมกบอกว่าดีใจที่ได้เพื่อนใหม่

    - Before & After ภาพเปรียบเทียบช่องโหว่ๆ หายหมดแล้ว กลายเป็นโลกส่วนตัว คราวนี้ครอบครัวของเราจะได้ใช้สวนอย่างเต็มที่แล้ว ดีใจจริงๆ

    - ตัดสินใจถูกที่เลือกไทรเกาหลี งานดี พุ่มแน่น ถูกใจจริงๆ

    การทำให้บ้านน่าอยู่เป็นรางวัลของชีวิต การปลูกต้นไม้ให้เขียวขจี นอกจากจะสร้างความเป็นส่วนตัวแล้ว ยังช่วยกันฝุ่น กันเสียง และช่วยลดโลกร้อนด้วย ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาจนจบ หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ ขอตัวไปขับเครื่องบินแป๊บ

ที่มา : คุณ สมาชิกหมายเลข 4868021 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม