"เสือเย็น" ตำนานสมิงร้ายแห่งล้านนา กับที่มาของชื่อ "วัดหมื่นสาร"

LIEKR:

"เสือเย็น" ตำนานสมิงร้ายแห่งล้านนา กับที่มาของชื่อ "วัดหมื่นสาร"

    อย่างที่มีคำกล่าวเอาไว้ ว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีที่มาของมัน ชื่อเรียกสิ่งของต่างๆ ต้องมีมูลเหตุที่มาที่ไปของมัน เช่นวัดหมื่นสาร ที่ตั้งอยู่ในย่านถนนวัวลาย จังหวัดเชียงใหม่ เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของเมืองเชียงใหม่ 

    หากใครได้มาเยี่ยมเยียนเป็นต้องไม่พลาดแวะมาวัดแห่งนี้อยู่เป็นนิจ นอกจากการเป็นวัดที่ตกแต่งด้วยเครื่องโลหะเงินโดยฝีมือของชุมชนชาววัวลายแล้ว ตำนานที่มาของชื่อ "วัดหมื่นสาร" ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะมันเกี่ยวเนื่องกับตำนานอาถรรพ์ของล้านนา ว่าด้วยเรื่องราวความน่ากลัวของเสือเย็น สมิงร้ายที่หลอกหลอนผืนป่ายามค่ำคืน

    ตามตำนานเล่าว่า ในสมัยก่อนเป็นยุคที่คาถาอาคมเป็นที่เฟื่องฟู ชายหนุ่มอกสามศอกมักจะร่ำเรียนวิชาอาคมไว้ติดตัวอยู่เสมอ ทั้งคาถาคงกระพัน คาถาปราบผี คาถาเมตตามหานิยม คาถาแปลงกาย อื่นๆอีกมากมาย ซึ่งวิชาเหล่านี้ก็เปรียบได้กับดาบสองคม หากผู้ใช้ประพฤติตนหลุดจากศีลธรรมอันดี อาคมทั้งหมดก็จะเข้าตัวและส่งผลร้ายต่อตัวผู้ใช้ 

    เช่นบางคนถูกวิชาอาคมเข้าตัวจนกลายเป็นเสือเย็น เล่าก่อนว่าเสือเย็น เป็นเสือสมิงชนิดหนึ่งที่มีอาคมแก่กล้า เล่าขานมาช้านานในดินแดนล้านนา มีจุดกำเนิดหลากหลายด้วยกันตามแต่ท้องถิ่น บ้างว่าเป็นสัตว์เดรัฉานที่โปรดปรานเนื้อคน ไล่ล่าจนวิญญาณคนเข้าสิงจนสามารถแปลงกายเป็นคนเข้าไปหลอกเหยื่อมากินได้

    บ้างว่าเป็นศาสตร์ดำอีกวิชาหนึ่ง ชาวไทใหญ่เชื่อว่าเสือเย็นเป็นวิชาที่ต้องร่ำเรียนกันอย่างเป็นจริงเป็นจัง ผู้เรียนจะต้องเป็นผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ คิดดีทำดีจึงจะสำเร็จวิชาแปลงกายเป็นเสือเย็นได้ แต่ถ้าหากประพฤติตัวไม่เหมาะสม วิชาก็จะเข้าตัวทำให้กลายเป็นเสือใหญ่ออกไล่กินคนไปตลอดชีวิต ส่วนวีรกรรมความหลอนของเสือเย็นนั้น ตามคำบอกเล่าของคนเหนือคือ เสือเย็นมักจะแปลงกายเป็นพระ มาหลอกให้พรานล่าสัตว์ที่นั่งอยู่บนห้างให้ลงมาบิณฑบาต พอสบโอกาสจึงกระโจนจับกินเป็นอาหาร บ้างก็แปลงกายเป็นคนมาหลอกว่าเมียที่บ้านคลอดลูก เป็นต้น

    แต่ที่โด่งดังที่สุด แม้จะต่างสำนวนกันไปตามท้องที่ คือเสือเย็นเกิดจากพระที่ร่ำเรียนอาคมในทางไสยศาสตร์จนกลายร่างเป็นเสือเย็นจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ไล่กัดกินควายในวัดและพระเณรจนหมด เหลือแต่เพียงเจ้าอาวาสที่เป็นเสือเย็นจำวัดอยู่คนเดียว หลังจากนั้นจึงได้ล่าเหยื่อโดยอาศัยกลุ่มพ่อค้าที่มาขอพักแรมภายในวัด ซึ่งที่มาของชื่อ "วัดหมื่นสาร" ก็มีเรื่องเล่าตั้งต้นมาจากตำนานข้างต้น กล่าวกันว่า เมื่อนานมาแล้วมีเจ้าอาวาสรูปหนึ่ง ศึกษาอาคมจนควบคุมตัวเองไม่ได้วิชาเข้าตัว จากนั้นพอตกดึก็มักจะมีเหตุพระเณร หรือเด็กที่อาศัยวัดนอนสูญหายไปอย่างลึกลับบ่อยครั้ง 

    กระทั่งวันหนึ่ง มีพ่อค้าและคณะเดินทางมาที่วัดแห่งนี้เพื่อขอค้างแรมเนื่องจากใกล้มืดค่ำ ซึ่งเจ้าอาวาสก็ไม่ขัดข้องแต่อย่างใด จนกระทั่งตกดึกกำลังจะเข้านอน พ่อค้าได้ยินเสียงเจ้าอาวาสถามว่า “โยมหลานหลับแล้วกา” (โยมหลานหลับแล้วหรอ) ตนตอบไปว่ายังไม่หลับ สักพักเจ้าอาวาสตะโกนถามอีกครั้ง ทำให้พ่อค้านึกถึงคำเตือนชาวบ้านที่ว่าเจ้าอาวาสวัดนี้เป็นเสือเย็น จึงไม่ตอบและแกล้งหลับไป ทันใดนั้นเจ้าอาวาสก็แปลงร่างเป็นเสือเย็น กระโจนเข้ามาหาพ่อค้าหมายจับกินเป็นอาหาร 

    แต่พ่อค้าเป็นผู้มีวิชาอาคม ได้ร่ายมนตร์เสกความธนูปล่อยออกไป พอรุ่งเช้าพ่อค้าและลูกหาบได้พบศพเจ้าอาวาสมีร่องรอย บาดแผลเหวอะหวะราวกับถูกควายขวิด ด้านชาวบ้านทราบเรื่องจึงเข้ามาช่วยกันรวบรวมข้าวสารให้น้ำหนักถึงหนึ่งหมื่นเป็นรางวัลแก่พ่อค้า หรือไม่ก็เป็นข้าวสารหมื่นเม็ดตามบางสำนวนที่เล่า จึงเป็นที่มาของชื่อ "วัดหมื่นสาร" จนทุกวันนี้...

.

.

.

ข้อมูลและภาพจาก ตำนานอาถรรพ์ อาชญากรโลกไม่ลืม ฆาตกรรมบันลือโลก