ทำไมเขาดู ถูกเราขนาดนั้น "ลูกนก" เล่าชีวิตกว่าจะเป็น "คุณลำไย" เคยเป็นคนรับใช้-สาวโรงงาน

LIEKR:

กว่าจะเป็นคุณลำไยที่โด่งดังขนาดนี้ ชีวิตคุณลูกนกก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ..

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักเพลง คุณลำไย เพลงที่ดังมากในช่วงหลายปีก่อน และทำให้ชื่อของนักร้องสาว ลูกนก สุภาพร กลายเป็นที่รู้จัก 

        ซึ่งหลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่ากว่าจะมาถึงวันนี้นั้น ลูกนก สุภาพร เคยเป็นแม้กระทั่งคนรับใช้, สาวเย็นผ้า โดน ดู ถู ก ต่างๆ นานา ล่าสุดเจ้าตัวได้ควงสามีและลูกสาวสุดที่รัก มาเปิดใจผ่านรายการ คุยแซ่บShow

ตอนที่เพลงคุณลำไยออก แล้วมันดังเปรี้ยงทั่วประเทศ ตอนนั้นคือดังขนาดไหน ?

        ลูกนก : "มันชั่วข้ามคืน คือมันพลิก จังหวะที่เราทำ แต่การทำงานของเราเหนื่อยมากกว่าที่จะมาได้ เราทำกันมาแสนสาหัส ไม่มีจะกิน ไม่มีที่อยู่ ไม่มีที่นอน ถึงขนาดพรุ่งนี้จะกินข้าวอะไร ค่าเช่าบ้านก็ไม่มี เขาจะตัดน้ำ ตัดไฟ กว่าเราจะให้คนได้เห็นว่าเป็นคุณลำไยเนี่ย ต้องบอกว่าแสนสาหัส ต้องนอนให้น้ำเกลือ นกต้องนอนอยู่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ด้วยความที่นกท้องเสีย นกหลับไปประมาณ 3 ชั่วโมง พอฟื้นก็ต้องขับรถเข้ากรุงเทพฯ สายน้ำเกลือก็ยังอยู่เลย"

พี่โด่งรู้จักกับพี่นกได้ยังไง ?

        พี่โด่ง : "มีผู้ใหญ่แนะนำ ผู้ใหญ่ที่นกเคารพ คือจับมาชนกัน"

พี่นกเคยเป็นคนรับใช้ ?

        ลูกนก : "โห เป็นคนรับใช้นี่เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตคือ นกออกจากโรงเรียนตอน ป.6 แล้วทำไร่ ทำนา แล้วกำลังเข้าบ้าน ป้าไปหาที่บ้านนอก คือนกไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามา แต่มีเด็กที่บ้านบอกว่าหางานให้หน่อย แล้วเด็กคนที่บอกไม่มา ทีนี้นกเป็นหลาน คือถ้าไม่ได้เด็กมานี่ป้าเสียหน้าแน่ ทำไงอะนก ไม่อยากไป อยากอยู่บ้าน ป้าบอกมาเถอะช่วยหน่อย แล้วเรากลายมาเป็นคนใช้ในกรุงเทพฯ เกือบปี เพราะว่าทำงานบ้านตึก 4 ห้อง 4 ชั้น พอมาอยู่มันเป็นจังหวะจุดเปลี่ยน แม่โทร. มาว่าลอยกระทงกลับบ้านไหม แล้วทีนี้เจ้านายผู้ชายรับ แล้วเมียเขาถามว่าโทรศัพท์ใคร เขาก็บอก อ๋อ...โทรศัพท์คนใช้ เขาพูดอย่างนี้แล้วเรายืนอยู่ข้างหลัง แล้วเรารู้สึกว่าฉันไม่ได้มาเป็นคนใช้ ฉันไม่ได้มาเป็นอะไรอย่างนี้ ทำไมต้องพูดกับฉันอย่างนี้ เสียใจ แม่ถามบอกว่าลูกกลับบ้านไหมลอยกระทง หนูบอกไม่ หนูไม่กลับ

        จุดเปลี่ยนคำว่าคนใช้ ก็คือนึกเลย คือ 1. เขา ดู ถู ก เรา ทำไมเขาว่าเราอย่างนี้ แล้ว 2. พ่อ แม่ ทำไร่ ทำนา มาตลอดชีวิต ก็ไม่เห็นมีรถเก๋งขับกับเขาเลย เพราะฉะนั้นถ้าฉันไม่มีรถ ฉันจะไม่กลับบ้าน ก็ลาออกจากการเป็นคนใช้ พอ 2-3 วัน นกก็ไปสมัครที่เขารับเย็บผ้าแล้วอยู่ที่โรงงานด้วย นกไปสมัครแล้วไปอยู่กับเขา ทำอย่างนี้มา 5-6 ปี แล้วมาร้องเพลง"

จากตรงนั้นมาร้องเพลงได้ยังไง ?

        ลูกนก : "จังหวะนั้นไปอาศัยเขาอยู่ แล้วเขาบอกว่าเขาไปร้องเพลงในคาเฟ่ แล้วเขาบอกว่าวันนั้นเขาได้พวงมาลัยมา 2 พัน นึกในใจ ฉันร้องเพลงเป็น ฉันอยากร้อง ก็เลยแอบไปกับเขา เราก็ไปดูเขาทำยังไง หลังจากนั้นไปฝึกได้วันเดียว นกเข้าคาเฟ่ แล้วจังหวะที่เข้าคาเฟ่เราไม่รู้เลยว่าสังคมกลางคืนมันเป็นยังไง พอไปถึงปุ๊บ เจอแขก นักร้องใหม่ใช่ไหม ไ ข่ แ ต ก หรือยัง คือภาษาของเขาก็คือได้พวงมาลัย ได้เงินหรือยัง เราบอกไม่ค่ะ เขาบอกว่าถ้าอยาก ไ ข่ แ ต ก ให้เขา จู บ ป า ก 1 ที เราก็ร้ อ ง ไ ห้ กลับบ้าน คือเราไม่รู้ว่าเขาเป็นกันอย่างนี้เหรอ เรารู้แต่เขาได้ตังค์เราก็อยากได้มั่ง"

แล้วหลังจากนั้นกลับไปไหม ?

        ลูกนก : "อาทิตย์นึงกลับไปร้อง พอไปทำงานตรงนั้นไม่มีใครบังคับเรา เราก็นั่งอยู่เฉย ๆ เหมือนเขาถูกใจเขาก็ให้พวงมาลัย แล้วทีนี้โดนเจ้านายเย็บผ้าว่า คอยดูนะนกมันไปร้องเพลงเดี๋ยวมันต้อง ใ จ แ ต ก คำนี้ก็คือจุดเปลี่ยน ลาออกจากงานเย็บผ้า ฉันจะไปร้องเพลงอย่างเดียว อยู่ตรงนี้นกโชคดีอย่างไม่มีใครเป็นเจ้านาย เราเป็นเจ้านายตัวเอง อันไหนไม่ทำเราก็ไม่ต้องทำ แต่ในยุคนั้นมันจะไม่มีการที่จะมีแขกมาลวนลามหรือชวนไปนอน ของนกไม่ค่อยมี ส่วนใหญ่จะมีคนมาฟังเพลงมากกว่า"

เส้นทางความรักกับพี่โด่งเป็นไงบ้าง ?

        พี่โด่ง : "จังหวะที่นกไปเดินแจกแผ่นที่ระยอง ตอนนั้นผมอยู่ศูนย์ข่าวที่ระยอง แล้วเขาไปแจกแผ่นที่สถานีดังของระยอง ผมสนิทกับเจ้าของสถานี ก็ไปนั่งคุยกันตลอด ก็ไปเห็นเขา เขามาแบบชุดขาวจะไปชวนเมียเจ้าของสถานีไปถือศีล เขาก็แนะนำให้รู้จัก ผมมอง ตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่าเป็นลูกนก มาแบบไม่แต่งหน้า ใส่ชุดขาว ผมก็รับไหว้ไปแบบนั้น ตอนขากลับเขาก็มาอีก ห่างจากนั้นปีนึงเขาก็มาจุดเดิมอีก ซึ่งมาเจอผมที่เดิมอีก ผมก็สวัสดี เขาก็ไป จนผู้ใหญ่คิดว่ามันบังเอิญทำไมต้องมาเจอกันที่นี่ ซึ่งผมก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นตลอด ไป ๆ มา ๆ กรุงเทพฯ-ระยอง จังหวะเขามาเราจะต้องมาพอดี เขาก็สงสัยมันเป็นเนื้อคู่กัน งั้นนัดกินข้าว ก็ไม่กล้าคุย เพราะว่าตอนนั้นเขาก็ดังกลัวเขาไม่คุยด้วย ตอนนั้นยังไม่คิดอะไรเพราะเขาไม่ใช่สเปก เขาให้คุยก็คุย ไม่ได้คิดอะไร ถ้าแยกย้ายกันไปก็จบ พี่สาวที่เขานับถือบอกว่ายืมโทรศัพท์หน่อย แล้วเขาก็กดเบอร์โทรศัพท์นกเข้าเครื่องผม"

        ลูกนก : "หลังจากนั้นก็เป็นจุดเปลี่ยน เขาก็จะโทร. มาคุยทุกวันตอนเย็น แล้วเรามองว่าผู้ชายคนนี้น่าจะมีครอบครัวแล้ว แก่ซะขนาดนี้ ช่วงนั้นนกพูดจริง ๆ ว่านกจะไม่มีครอบครัว จะไม่มีแฟน ไม่มีลูก ขอหยุดเชื้อความจนไว้ที่นก จะไม่ให้สืบพันธุ์อีกต่อไป"

แล้วอะไรที่ทำให้ตัดสินใจแต่งงานกัน ?

        ลูกนก : "เขาเป็นคนที่อบอุ่น มันมีผู้ชายแบบนี้ด้วยเหรอ มันเหมือนดวงด้วย มีคนเคยทักว่านกอายุ 30 ปีกว่าจะเจอเนื้อคู่โดยที่ไม่ได้รักกัน แต่ผู้ใหญ่จะแนะนำให้เรารู้จัก นกก็คิดว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ที่ดี"

ไม่ได้จัดงานแต่ง ไม่ได้จดทะเบียนสมรสด้วย ?

        ลูกนก : "ใช่ คนนี้เขาบอกจะแต่ง แต่นกไม่ โดยส่วนตัวเกรงใจคนอื่นที่จะต้องมางานเราหรือเขาต้องใส่ซอง เดินทางมาหาเรา นกมีความรู้อย่างนั้น เขาบอกว่าถ้าไม่แต่ง งั้นจดทะเบียน นกบอกไม่จด"

        พี่โด่ง : "เราเตรียมเซอร์ไพรส์เลยนะ เรามาบอกเขา เขาบอกไม่ต้องเลยนะ ไม่เอา"

งั้นแสดงว่าตอนนี้สองคนนี้คือเพื่อนร่วมโลกที่ตัดสินใจอยู่ด้วยกัน ?

        ลูกนก : "ใช่ จังหวะที่มีลูก ตอนแรกเราคิดว่าจะไม่มี เราปล่อยมาประมาณ 2-3 ปี เราคิดว่าคงไม่มีแล้ว เราอายุเยอะแล้ว แล้วอยู่ ๆ นางมาแบบไม่ทันตั้งตัว"

มีคนถามว่าที่ไม่จดทะเบียน ไม่แต่งงาน เกี่ยวกับเรตติ้งด้วยไหม ?

        ลูกนก : "ตอนนั้นด้วย นักร้องลูกทุ่งสมัยก่อนผู้ใหญ่บอกว่ามีแฟนปิดไว้ ห้ามบอกใคร ห้ามพูด ผู้ใหญ่บอกให้ปิดเราก็ปิด แล้วพอจังหวะมีลูกมา ถามผู้ใหญ่ว่าจะทำยังไงดี เขาบอกเอ็งหลบไปก่อน ห้ามพูด ห้ามบอก จนนกคลอด"

ช่วงท้องไม่มีงานเหรอ ?

        ลูกนก : "มี นกร้องเพลงจนถึง 7 เดือน ตอนแรกทุกวันนี้ไม่ว่าจะออกรายการ หรือใครถามนกก็จะกราบขอโทษ คือแฟนเพลงที่อยู่ชัยนาท คือตอนนั้นนกท้อง นกไม่รู้จะพูดยังไง เราก็ไม่ได้แต่ง ก็กลัวคนหมั่นไส้ ตอนนั้นก็ท้อง มีช่วงนั้นช่วงสุดท้าย ท้อง 7 เดือน ท้องใหญ่ เราก็ใส่ชุดใหญ่ ๆ ไป แต่ลมมันทำให้เห็นชัด มีแฟนเพลงเข้ามาถามว่าท้องหรือเปล่า เราก็ไม่รู้จะพูดยังไง คือเราก็บอกว่าหนูอ้วน แต่ในใจเรารู้สึกผิดมาก ผิดจนถึงทุกวันนี้ เพราะไม่อยากโกหก"

สาเหตุที่ไม่ให้ลูกร้องเพลง เพราะว่าแม่เคยโดนโกง ?

        ลูกนก : "มีส่วนด้วย โดนโกงไม่ได้ตังค์ตลอดเลย สมัยก่อนเราเป็นนักร้องลูกทุ่ง ถ้าเงินเข้าบริษัท เราไม่สามารถเอาออกมาได้ พูดง่าย ๆ เขาได้เงินร้อยล้าน เราได้แสนนึง เราก็ไม่เป็นไร ไม่ได้ก็ไม่เอา"

เพราะอย่างนี้ไหมที่เข็ดขยาดกับวงการเพลงไปเลย ?

        ลูกนก : "นกรู้สึกว่าที่ผ่านมามันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุกอย่างเราได้มาด้วยความเจ็บปวด เราก็เลยรู้สึกว่าไม่อยากให้ลูกเราเจอ ถ้าเกิดลูกจะทำเดี๋ยวแม่ทำให้"

เห็นว่าเคยเอาเงินตัวเอง 2 ล้านบาท ออกให้นายทุนที่เขาบอกว่าจะทำเพลงให้ ?

        ลูกนก : "จังหวะที่เราหมดสัญญา สัญญาว่าจะทำเพลงกัน นายทุนใหญ่ ถ้าเอ่ยชื่อในวงการก็คงรู้จักกัน วันนี้จะทำ เย็นนี้นะนกมาเอาตังค์ นกขับรถไปเอาเลย แล้วพรุ่งนี้ต้องออกรายการ รายการหนึ่งฉันมีค่ายเทปแล้ว พอถึงเย็นนี้ไปเอาตังค์ปุ๊บ เขาบอกว่าที่นัดมาวันนี้ไม่ให้ตังค์นะ ไม่ทำแล้ว คือเราลงทุนไปหมดแล้ว พรุ่งนี้จะอัดรายการแล้วจะทำไง นกก็เลยบอกว่าหนูทำเองแล้วกัน ก็หมดไป 2 ล้าน ก็มีความรู้สึกว่าหยุด พอ แต่ก่อนที่จะทำเราก็อยากมีอัลบั้มที่เป็นลิขสิทธิ์ของเราเอง ไปร้องที่ไหนก็ได้ พอมีนายทุนมาเราดีใจ มีกำไร แต่สุดท้ายมันไม่ได้ นกก็เลยทำด้วยตัวเอง ตอนนั้นก็ไม่ได้เงินกลับมาเลย แล้วก็มีคนที่บอกว่าไม่ให้ตังค์แล้วนี่แนะนำให้รู้จักกับกลุ่มนายทุน เขาเห็นว่านก ร้ อ ง ไ ห้ เสียใจกลับบ้าน เขาบอกว่าเดี๋ยวให้ล้านนึงเอาไปทำ นกบอกว่าล้านนึงมันทำไม่ได้หรอก ก็คือมันมีปัญหาหลาย ๆ อย่าง หลังจากนั้นนกรู้สึกว่าพอมีลูกด้วยก็ทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุดแล้วกัน"

ชมคลิป..

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<

        อย่างไรก็ตามสามารถติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.30-14.30 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก รายการ คุยแซ่บShow, เฟซบุ๊ก ลูกนก สุภาพร, kapook