"เธอคือรักแรกและรักสุดท้ายของผม" หญิงอายุ16ปี ยอมสละโอกาสเรียนต่อ ครองรักตลอด73ปี

    “รักครั้งแรก” นั้นดูเหมือนจะเป็นความทรงจำที่ดีในชีวิต และทุกครั้งที่พูดถึงชื่อของเขาหรือเธอคนนั้น ก็จะรู้สึกตื่นเต้นและรู้สึกดีใจอย่างไงไม่รู้ บอกไม่ถูก แม้ว่ารักครั้งแรกจะสมหวังหรือไม่สมหวังก็ตาม แต่นั้นก็เป็นประสบการณ์ความรักครั้งแรกของชีวิตที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น และท้าทายมาก

 

    วันนี้แอดมินจะพามารู้จักกับรักครั้งแรกของคู่นี้ ที่เดินจับมือกันตลอด 73 ปี เธอคือ บาร์บาร่า บุช (Barbara Bush) อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐ ภรรยาอดีตประธานาธิบดี จอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช (George H. W. Bush) ของสหรัฐฯคนที่ 41 และนอกจากนี้ ลูกชายของเขา จอร์จ ดับเบิลยู บุช (George W. Bush) ก็เคยเป็นอดีตประธานาธิบดีของสหรัฐฯคนที่ 43 เช่นกัน 

 

    ความรักของเธอกับ จอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช ก็เป็นรักแรกพบและเป็นรักเดียวตลอดไป นั้นเป็นความรักในโหมดที่หลายคนอยากให้เกิดขึ้นกับตนเอง เธอและเขาพบกันครั้งแรกในงานเต้นรำ แม้ว่าบนเวทีจะมีผู้คนมากมาย แต่พวกเขาก็ได้มาจับคู่กัน ในตอนนั้น บาร์บาร่า อายุเพียง 16  ปีเท่านั้น และจอร์จ เอช ก็อายุ 17 ปี หลังจากนั้นเรื่องราวของพวกเขาก็เป็นเหมือนละคร ทั้งคู่เริ่มสานต่อความรัก  เหมือนดั่งดอกไม้ไฟที่ติดไฟเกิดเป็นประกายแห่งความรักที่สวยงาม

     แต่เนื่องจากทั้งคู่อาศัยอยู่ต่างที่ห่างไกลกัน จึงทำได้เพียงแค่เขียนจดหมายหากันเท่านั้น พวกเขาเขียนจดหมายหากันบ่อยครั้งมาก 

     นี่คือหนึ่งในข้อความที่จอร์จ เอช เขียนจดหมายรักถึงบาร์บาร่า “ผมอาจปีนขึ้นไปบนยอดที่สูงสุด แต่ก็ไม่สามารถเป็นสามีของคุณได้ ผมต้องพยายามโน้มตัวไปข้างหน้าอย่างเร่งรีบก็เพื่อเหมาะที่จะเป็นคู่กับคุณ”

 

    จอร์จ เอช แสดงออกถึงความรักที่มีต่อเธอในทุกที่ ทุกเวลาสม่ำเสมอ ในฐานะที่เป็นอดีตนักบินเครื่องบินทิ้งระเบิด เขาได้ตั้งชื่อเครื่องบินทั้ง 3 ลำของเขาเป็นชื่อของ บาร์บาร่า หลังจากที่จอร์จ เอช ต้องแยกจากกับบาร์บาร่าไปนานกว่า 4 ปี ในที่สุดเมื่อจอร์จ เอช กลับมาจากสนามรบ เขาก็ตัดสินใจแต่งงานกับเธอ บาร์บาร่าเป็นผู้หญิงที่มีความคิด หลักการของตนเอง หลังจากแต่งงานเธอก็ยอมสละโอกาสที่จะได้เรียน

 

    คุณพ่อของเธอก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งวุ่นวายมากนัก แต่ได้ให้คำแนะนำที่สำคัญ 3 อย่างคือ 

    1.หลังจากที่มีลูกแล้ว จำเป็นที่จะต้องให้เด็กได้รับการศึกษาที่ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ 

    2.ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็ก ๆ

    3.ต้องให้เด็ก ๆ รู้สึกถึงความรักของพ่อแม่ที่มีต่อพวกเขา

    นี่คือ 3 ข้อที่ทำให้บาร์บาร่าสามารถครองชีวิตสมรสของเธอได้ยาวนาน

 

    หลังสงครามเสร็จสิ้น จอร์จ เอช ก็เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเยล (Yale University) พวกเขาต้องย้ายบ้านมากถึง 29 ครั้ง และเดินทางย้ายที่อยู่กว่า 17 เมือง ไม่ว่าจอร์จ เอช จะย้ายไปอยู่ที่ใด ข้างกายของเขาก็ต้องมีบาร์บาร่าเสมอ ในขณะที่จอร์จ เอช กำลังดิ้นรนอยู่ข้างนอกบ้าน บาร์บาร่าหญิงสาวผู้บอบบาง ร่างน้อยก็เป็นที่หนุนหลังให้กับสามี ด้วยพฤติกรรมที่ชาญฉลาดและมั่นคงอย่างเงียบๆ 

 

    เธอเลี้ยงดูลูก 5 คน และทุกคนก็ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ลูกชายของพวกเขา จอร์จ ดับเบิลยู บุช เป็นคนที่โดดเด่นที่สุด เพราะเขาเป็นอดีตประธานาธิบดีของสหรัฐฯคนที่ 43 

    บาร์บาร่า ติดตามสามีไปทุกที่ จากผู้หญิงที่ไร้เดียงสา โรแมนติก จนกลายเป็นสุภาพสตรีหมายเลข 1 ที่สง่างาม ไปจนถึงคุณย่าชาวอเมริกันที่หลายคนต่างพากันยกย่อง

 

    ในวันครบรอบแต่งงาน 72 ปีของเธอ บาร์บาร่าให้สัมภาษณ์ว่า "แม้ฉันจะแก่แล้ว แต่ฉันยังคงรักผู้ชายคนนั้นเหมือนเมื่อ 72 ปีก่อน ที่ฉันตัดสินใจแต่งงานกับเขา เป็นความรักจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เขาได้มอบโลกทั้งใบให้กับฉัน" 

    ในงานอำลาของบาร์บาร่า จอร์จ เอช ได้พิมพ์ข้อความที่ทำให้คนทั้งประเทศน้ำตาไหลว่า "73 ปีแห่งการแต่งงาน บาร์บาร่าจะเป็นผู้หญิงที่ผมรักตั้งแต่แรกเห็นตลอดไป"

 

    มีคนมักพูดว่า “การอยู่เคียงข้างจนถึงแก่เฒ่าคือ คำสารภาพรักที่ดีที่สุด” เหมือนเช่นความรักของ บาร์บาร่าและจอร์จ เอช ที่สามารถไปจับมือกันตั้งแต่วัยอ่อนเยาวร์ไปจนถึงแก่เฒ่า จากกระดาษจดหมายธรรมดาจนกลายเป็นชีวิตสมรสที่ประสบความสำเร็จ เป็นความรักที่น่าอิจฉา แม้ว่าสุดท้ายความชราภาพจะทำให้พวกเขาต้องพรากจากกัน แต่ความทรงจำที่มีความสุขเหล่านั้นจะกลายเป็นอาหารทางจิตวิญญาณที่ดีที่สุดไปตลอดชีวิตของทั้งสอง

 

ที่มา : good543 | เรียบเรียงโดย LIEKR