เจ้าของร้านอาหาร เห็นใจคนงบน้อย ทำ "ข้าวแกง 10บาท" ขายไม่หวังกำไร ให้จนกว่าอาหารจะหมด

LIEKR:

ทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "ข้าวแกง 10 บาท ทำให้หลายคนอยู่รอดได้!"

    กลายเป็นเรื่องราวที่น่าซาบซึ้งใจ ของน้ำใจที่คนในสังคมมีให้แก่กัน เมื่อเจ้าของร้านอาหารเชียงราย ทำข้าวราดแกง 10 บาท ขายช่วยเหลือชาวบ้าน หลังก่อนหน้านี้ได้ทำผัดกะเพรา 9 บาทมาแล้ว

    ที่ร้านอาหารฟอร์เก็ตมีน๊อต (forget me not) ใน ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย มีการใช้พื้นที่ด้านหน้าร้าน เปิดซุ้มขายข้าวราดแกง 10 บาท โดยสามารถนั่งทานที่ร้านและซื้อกลับบ้านได้ มีทั้งผัดกะเพราไก่ ผัดเผ็ดถั่วหมู แกงเขียวหวานไก่ และผัดบวบใส่ไข่

    โดยเมนูทุกเมนูจะปรุงสดใหม่ทุกวันจากเชฟประจำร้าน เริ่มขายตั้งแต่เวลา 11.00 น. ไปจนกว่าอาหารจะหมด ซึ่งร้านอาหารฟอร์เก็ตมีน๊อตแห่งนี้ เคยมีข่าวการทำผัดกะเพราราคากล่องละ 9 บาทมาก่อนแล้ว เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ที่เดือดร้อน

ผัดกะเพราไก่ และแกงเขียวหวานไก่

    คุณธเนตร ติ๊บโท๊ะ หรือ "ต้นอ้อ" เจ้าของร้านอาหารฟอร์เก็ตมีน๊อต ได้เปิดใจถึงจุดเริ่มต้นว่า ได้ต่อยอดมาจากผัดกะเพรา 9 บาท เพราะอยากให้ทุกคนได้อิ่มท้องในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่มั่นคงแบบนี้ ส่วนตัวยอมรับว่าไม่ได้กำไรเลย แต่อะไรที่ช่วยสังคมได้ก็พร้อมช่วย

    นอกจากนี้ เมื่อเพื่อนๆ หลายคนเห็นว่าตนเปิดขายข้าวราดแกง 10 บาท ก็เห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์ต่อสังคม ก็ยังได้ร่วมด้วยช่วยกันสมทบทุนมาให้ทำข้าวราดแกงในราคานี้ บางคนยังมาช่วยตักอาหารใส่กล่องให้ลูกค้าที่มาซื้อด้วย

    ลูกค้าหลายๆ คนที่ซื้อ ก็จะร่วมทำบุญให้กับสมาคมศิริกรณ์เชียงรายบรรเทาสาธารณภัย ที่ตั้งกล่องรับบริจาคไว้ เพื่อนำเงินไปซื้ออุปกรณ์สนับสนุนงานของเจ้าหน้าที่ในจังหวัดเชียงราย

    ยิ่งไปกว่านั้น ทางด้านเจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง อ.เมือง จ.เชียงราย "พระไพศาลประชาทร วิ. (หลวงพ่อพบโชค)" ก็ยังได้ให้ลูกศิษย์ นำไข่ไก่จำนวน 3,000 ฟอง ผักสดนานาชนิด และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง มามอบให้กับทางร้าน เพื่อเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารอีกด้วย

    พระไพศาลประชาทร วิ. (หลวงพ่อพบโชค) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง กล่าวว่า อาตมาทราบดีว่าทางร้านทำอาหารในราคานี้ ไม่ได้กำไรเลย ทางวัดจึงได้นำข้าวของที่ทางญาติโยมนำมาทำบุญ มาส่งต่ออีกทอดหนึ่ง เพื่อให้ผลประโยชน์นั้นกลับไปที่ชาวบ้านเอง นับว่าผู้ที่มาทำบุญกับทางวัดนั้น ได้สร้างบุญมหาศาลให้กับสังคมด้วย

ที่มา : chiangmainews