ชายเสียสละให้ภรรยาจากไป หลังร่างกายไม่ปกติ จากนั้นลุกขึ้นสู้ หันมาสานไม้ไผ่ขาย

  • 2021-03-18 18:41

LIEKR:

เมื่อขาสองข้างใช้การไม่ได้ ก็ใช่ว่าชีวิตนี้จะหมดหวัง เพราะผมยังมีมืออีกสองข้างนะ

    ชีวิตคนเรามีทั้งขึ้นและลง โดยเฉพาะหากต้องเผชิญหน้ากับปัญหาเรื่องร่างกายที่พิการ หลายคนยอมแพ้ที่จะสู้ต่อไป แต่ก็ยังมีบางคนที่ก้าวต่อไปด้วยความเข้มแข็ง วันนี้เรามาดูเรื่องราวของชาวนาผู้ยากลำบากคนนี้ซึ่งเขาพิการครึ่งตัว

    สื่อต่างประเทศเปิดเผย เรื่องราวของชาวนาที่ชื่อ หลี่ไป่โจว วัย 68 ปี ผู้อาศัยในหมู่บ้านเต้าฮวา เมืองเล่อซาน มณฑลเสฉวน เนื่องจากสภาพร่างกายที่ไม่เป็นปกติ ทำให้เขาไม่ว่าจะทำอะไร ฤดูไหนก็ต้องนอนอยู่กับพื้นแบบนี้ แต่เขากลับไม่คิดว่าตนเองน่าสงสาร หรือลำบากเลย 

    เมื่อพูดถึงสาเหตุที่ทำให้เขากลายเป็นแบบนี้ก็ต้องย้อนกลับไป เมื่อ 42 ปีก่อน ซึ่งในอดีตตอนที่นายหลี่ยังเป็นหนุ่มอยู่นั้น เขาเป็นผู้ชายที่แข็งแรง ทำงานหนักได้สบายมาก ไม่ว่าจะเป็นงานหนักแค่ไหนเขาก็ทำได้เสมอ จนกระทั่งเมื่อปี 1976 ตอนนั้นเขาอายุ 26 ปี เขาได้ร่วมการสร้างคูน้ำของหมู่บ้าน จู่ๆ ก็มีก้อนหินขนาดใหญ่กลิ้งลงมากระแทกโดนบริเวณกระดูกสันหลังของเขาอย่างแรง

    หลังจากนั้น เขาก็กลายเป็นคนพิการอัมพาตขั้นสูง เดิมทีที่เป็นคนเข้มแข็ง เป็นสาเหลักของครอบครัว จู่ๆทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เขาไม่สามารถไปทำงานหาเงินได้ ได้แต่นอนอยู่บนเตียงต้องให้คนอื่นดูแล เริ่มแรกนายหลี่ก็ยอมรับสภาพของตนเองไม่ได้ นอนร้องไห้น้ำตาไหลทุกคืน กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็คิดได้ว่า จะมัวเศร้าไปทำไม มันไม่ช่วยอะไรเลย

    ในตอนนั้นลูกสาวของเขาอายุเพียง 1 ขวบเท่านั้น ในที่สุดนายหลี่ก็คิดได้ และตัดสินใจลุกขึ้นสู้อีกครั้ง เพื่อคนในครอบครัวที่เขารัก หลังจากที่นอนรักษาตัวครึ่งปี เขาก็เริ่มขยับตัวเองได้ และเริ่มคิดว่าจะทำอะไรดี และเขาก็คิดออกว่า จะทำผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ที่นำมาสานกัน เนื่องจากที่บ้านมีไม้ไผ่จำนวนมาก แม้ว่าร่างกายท่อนล่างจะไม่สามารถขยับได้ แต่ยังมีสองมือที่ทำงานได้ สมองก็ยังดีอยู่ก็ใช้ส่วนของร่างกายที่ยังดีอยู่เพื่อประกอบอาชีพสร้างรายได้สิ 

    คนในครอบครัวก็ช่วยกันหาไม้ไผ่จำนวนมากมาไว้ที่บ้าน นายหลี่ก็เริ่มสานไม้ไผ่เอง เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ แม้ว่าอาจมีอุปสรรคนิดหน่อย แต่เขาก็ไม่ย่อท้อเลย

    ทุกขั้นตอนในการทำผลิตภัณฑ์นี้เขาก็ลงมือทำเองทั้งหมด ตลอด 42 ปี คิดดูว่ามากมายแค่ไหน เขาได้ทำ ตะกร้า ชะลอม กระออม กระบุง กระจาด กระด้ง มากมายนับไม่ถ้วน และตลอด 30 ปี ที่ผ่านมานี้เขาก็มีผู้ช่วยที่คอยช่วยเหลือเขา นั่นก็คือ ลัวหวังเซิง เขาจะอาสาซื้อจักรสานทุกชนิดที่เขาทำ หลายคนถามเขาว่า “ที่บ้านมีผลิตภัณฑ์จักรสานไม้ไผ่จำนวนมากจะเอาไปทำอะไร ขายก็ขายไม่ออก” เขากลับตอบว่า “ไม่เป็นไร ถ้าขายไม่หมด ยังมีรุ่นต่อไปที่สามารถช่วยขายต่อได้ หากนายหลี่ลำบากมันก็คือธุระของผมด้วย”

    นายหลี่คิดรอบคอบว่า ไม่อยากให้ภรรยาต้องมาลำบาก หลังจากที่ลูกสาวอายุ 10 ขวบเขาก็เสนอว่าจะหย่ากับภรรยา เพื่อให้เธอไปตามหาฝันและคนที่จะดูแลเธอได้ตลอดชีวิต หลังจากที่ภรรยาจากไป เขาก็ทุ่มเทในการทำจักรสานมากขึ้น ตื่นแต่เช้ามืดเพื่อมาสานไม้ไผ่ ลูกสาวของเขาก็กตัญญูมาก ตื่นขึ้นมาช่วยพ่อทำอาหารและเช็ดหน้าให้ ทำกับข้าวให้เสร็จแล้วค่อยไปโรงเรียน 

    ลูกสาวไม่สามารถทนเห็นพ่อต้องลำบากอีกต่อไป หลังจากเรียนจบก็ไปทำงานในตัวเมือง ต่อมาไม่นานก็แต่งงานมีครอบครัว มีลูก แต่ทว่าความกตัญญูของลูกสาวก็ไม่มีวันลดน้อยลง ทุกวันก่อนไปทำงานเธอก็จะมาล้างหน้าให้พ่อ ทำอาหารเช้าให้เสร็จก่อนออกไปทำงาน แม้ว่านายหลี่จะต้องเผชิญหน้ากับภาระมากมาย และความยากลำบากแต่เขาก็ไม่เคยมองโลกในแง่ลบเลย กลับเป็นตัวอย่างที่ดีในการสู้ชีวิตให้ลูกหลานได้เห็น 

    โชคดีก็คือ ในปี  2014 รัฐบาลได้พิจารณาระบุว่า ครอบครัวของเขาเป็นครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ จึงได้ให้เงินสนับสนุนในด้านต่างๆ เขาบอกว่า รู้สึกซาบซึ้งและดีใจมากสำหรับเงินก้อนนี้มาก แต่ตราบใดที่เขายังมีแรงเขาก็สู้ต่อไป และจะไม่ยอมหยุดทำงาน หารายได้ ด้านรัฐบาลท้องถิ่นก็บอกว่า หากนายหลี่ต้องการไม้ไผ่ก็สามารถบอกได้ พวกเขาจะไปหามาให้เอง

    นายหลี่เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้หลายคนที่คิดท้อ ได้ลุกขึ้นมาสู้ต่อ เรื่องราวของเขาได้เผยแพร่ออกไปมากมายทั้งในโลกโซเชียลมีเดียและอื่นๆ อีกมากมาย หลายคนรู้สึกประทับใจมาก และก็มีหลายคนที่ติดต่อเขาเพื่อขอซื้อผลิตภัณฑ์จักรสานไม้ไผ่ที่เขาทำ และก็มีผู้ใจดีสอนลูกสาวของเขาให้รู้จักเปิดร้านออนไลน์เพื่อขายสินค้าของพ่อ และก็มีคนบริจาคเงินเป็นทุนในการสร้าอาชีพต่อไป และหลานชายของเขาตอนนี้เรียนอยู่ชั่นป.6 แล้ว เป็นหลานที่กตัญญูเช่นกัน หวังว่าความดีของนายหลี่จะทำให้ครอบครัวของพวกเขาประสบความสำเร็จนะคะ

ที่มา : happyday543 | เรียบเรียงโดย  หมื่นพันเหตุผล