สื่อนอกตีข่าว รายการดัง "เกาหลีมาไทย" จับหอยมือเสือขึ้นมากิน อ้างไม่รู้กฎหมาย เลยคิดว่าไม่ผิด!

LIEKR:

ไม่ได้มีแค่เมืองไทยที่โดน ... อ้างไม่รู้กฎหมาย เลยคิดว่าไม่ผิด

        สื่อนอกรายงาน อี ยอล อึม (Lee Yeoul Eum) ดาราสาวเกาหลี จ่อโดนคุก 4 ปี โทษฐานจับหอยมือเสือกินที่ไทย ในรายการ Law of the Jungle เผยทีมงานรู้กฎ แต่ยังปล่อยให้ทำ

        เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เว็บไซต์บิสซิเนสอินไซเดอร์สิงคโปร์ รายงานข้อมูลอ้างอิงจากโคเรียเฮอรัลด์ ระบุว่า อี ยอล อึม (Lee Yeol Eum) นักแสดงสาวชาวเกาหลีใต้ วัย 23 ปี อาจได้รับโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี หลังจากจับหอยมือเสือมากิน ขณะถ่ายทำรายการ Law of the Jungle ที่ประเทศไทย โดยทางรายการก็ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจง อ้างว่าทำไปเพราะขาดความรู้ความเข้าใจในข้อกฎหมายของไทย แต่อย่างไรก็ตาม พบว่าพวกเขารับรู้ข้อห้ามแล้ว แต่ยังคงปล่อยให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้น

        รายการ Law of the Jungle เป็นเรียลลิตีโชว์แนว Survival ชื่อดัง ทางสถานีโทรทัศน์ SBS ซึ่งจะพาคนดังออกตะลุยป่าและพื้นที่ห่างไกลต่าง ๆ ทั่วโลก และพวกเขาก็ต้องหาวัตถุดิบมากินเพื่อเอาตัวรอด

        สำหรับเทปที่เป็นข่าวนั้น พบว่าถ่ายทำที่ เกาะมุก ซึ่งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน และเผยแพร่ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยในเทปนี้ อี ยอล อึม พร้อมด้วยคนดังผู้เข้าแข่งขันอีก 7 คน ต้องออกลุยหาของกินมายังชีพ

ภาพจาก SBS ENTER PLAY

        อี ยอล อึม ได้ลงไปดำน้ำในทะเลเพื่อมองหาสัตว์น้ำมากิน จนกระทั่งพบหอยมือเสือขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง เธอรีบดำน้ำลงไปงมมันขึ้นมา ซึ่งต้องพยายามอยู่นานกว่าจะสำเร็จ และหลังจากนั้น เธอก็ดำลงไปเก็บหอยมือเสือมาเพิ่มอีก 2 ตัว ก่อนจะนำไปปรุงอาหารกินกันในรายการ

        "ฉันทำได้สำเร็จค่ะ ฉันจับมันขึ้นมาได้ด้วยสองมือของตัวเอง และฉันก็มีความสุขมากที่สุดในโลกเลย" อียอลอึม กล่าวถึงประสบการณ์ดังกล่าวในเวลาต่อมา

        ทางด้านเว็บไซต์ Allkpop รายงานว่า ชาวเกาหลีใต้ได้ตั้งกระทู้ล่ารายชื่อบนเว็บไซต์ Blue House หรือทำเนียบประธานาธิบดี เรียกร้องให้ทีมงานรายการออกมายอมรับความผิด แต่ขอให้ละเว้นโทษ อี ยอล อึม

        เนื้อหาในกระทู้ดังกล่าว มีดังต่อไปนี้

        "เราอยากขอร้องให้ อี ยอล อึม ได้รับการละเว้นโทษจำคุก และขอให้ทางผู้จัดได้รับโทษหนัก เราเชื่อว่าปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะ อี ยอล อึม ผู้ซึ่งทุ่มเทให้กับการรายการเป็นอย่างมาก คนผิดในเรื่องนี้คือทีมโปรดิวเซอร์และทีมงานต่างหาก เพราะถ้าหากเจ้าหน้าที่ประสานงานในและทางทีมงานแจ้งให้เธอทราบอย่างชัดเจนแล้ว ปัญหาคงไม่เกิดขึ้น"

        ทางชาวเน็ตก็ได้เข้ามาแสดงความเห็นกันว่า ผู้ที่ผิดเต็มประตูจริง ๆ ก็คือทีมงาน และอยากให้พวกเขาออกมายอมรับความจริง แล้วเดินทางไปรับโทษที่ประเทศไทย ตามความผิดที่พวกเขาได้ทำ 

และก็จับขึ้นมา

        ขณะที่ข้อมูลจากสำนักข่าวเอพี ระบุว่า นายณรงค์ คงเอียด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับดาราสาว โทษฐานกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท และจำคุกไม่เกิน 4 ปี

        นายณรงค์ กล่าวว่า ผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบเต็ม ๆ ในเรื่องนี้คือนักแสดงสาวที่ดำน้ำไปงมหอยมือเสือขึ้นมา เพราะเป็นการกระทำผิดโดยตรง ส่วนคนอื่น ๆ ที่กินหอยมือเสือ ก็อาจโดนข้อกล่าวหาด้วยเช่นกัน 

        ส่วนกรณีที่ทางสถานีโทรทัศน์ SBS แถลงการณ์ชี้แจงว่าทางทีมงานทำไปเพราะขาดความรู้นั้น มันเป็นสิ่งที่ฟังไม่ขึ้น โดย นายณรงค์ ให้ความเห็นว่า ทางอุทายานฯ ได้มีการแจ้งกฎข้อปฏิบัติให้ทางรายการทราบตั้งแต่ก่อนถ่ายทำแล้วว่า ห้ามล่าสัตว์ทะเลทุกชนิดในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม รวมทั้งห้ามจับมากิน ซึ่งทางโปรดิวเซอร์และทีมนักแสดงก็รับรู้กฎข้อนี้แล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงกระทำการละเมิดมัน

        ขณะที่ผู้ผลิตรายการได้ออกมาเคลื่อนไหวหลังจากที่มีข่าวนี้ออกมา โดยได้ระบุว่า “รายการได้รับการอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ และมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดการถ่ายทำ” จากการเปิดเผยนี้เองทำให้เจ้าหน้าที่ประเทศไทยออกมาโต้กลับทันทีว่าผู้ผลิตรายการได้แอบขึ้นเรือไปนอกพื้นที่ที่อนุญาตให้ถ่ายทำ และไปดำน้ำจับหอยมือเสือโดยพลการ

“อียอลอึม” จับหอยมือเสือ 3 ตัวขึ้นมารับประทานในประเทศไทย

        ต่อมาเจ้าหน้าที่ไทยได้ทำการขึ้นแบล็คลิสต์ โปรดิวเซอร์รายการดังไม่ให้เข้ามาถ่ายทำในไทยอีก ขณะที่ทางด้านเกาหลีใต้ประเด็นนี้ก็กลายเป็นวาระแห่งชาติเช่นเดียวกัน เพราะมีการร่วมลงชื่อถอดรายการนี้และเรียกร้องให้สถานีโทรทัศน์ SBS ที่ออกอากาศ Law Of The Jungle แสดงความรับผิดชอบด้วยการถอดรายการนี้ออกจากผัง

ผู้ดำเนินรายการหลัก”คิมบยองมัน” ล่าหอยมือเสือที่มัลดีฟ

        อย่างที่ทราบกับว่า “หอยมือเสือ” (Giant clam) สำคัญต่อระบบนิเวศของทะเล เพราะช่วยบำบัดน้ำเสียและ กรองกินตะกอน และของเสียจากสัตว์ ที่ลอยมาตามน้ำ ทำให้น้ำใสสะอาด แต่ในช่วงหลัง “หอยมือเสือ” ถูกจับขึ้นมาใช้ประโยชน์มากจนเกินกำลังธรรมชาติจะทดแทนได้ทันในทุกแหล่งการแพร่กระจายจนกระทั่งอยู่ในสภาวะใกล้สูญพันธุ์ หรือบางชนิดถูกทำลายจนหมดไปจากบางแหล่ง จึงเป็นหนึ่งในจำนวนสัตว์น้ำที่ได้รับการขึ้นบัญชีในรายชื่อสัตว์และพืชที่ใกล้สูญพันธุ์หรือหายากในอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดของสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ หรือ CITES และจัดอยู่ในบัญชีสัตว์สงวนและคุ้มครองประเภท 2 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ของกฎหมายไทยด้วย

“อีจุนยอง” ในเทป Indian ocean ศรีลังกา&มัลดีฟ

“มินฮยอก” วง BTOB ในเทป Indian ocean ศรีลังกา&มัลดีฟ

        ถึงแม้ทางผู้ผลิตรายการจะออกมาแถลงขอโทษเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รายการนี้ได้นำเสนอการกิน “หอยมือเสือ” เพราะรายการดังกล่าวได้เคยทำคณะแขกรับเชิญไปลิ้มรสชาติมาแล้ว ทั้งใน มัลดีฟ,อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งใน 2 ประเทศหลัง ก็เคยเกิดดราม่าคล้ายกับที่เมืองไทย แต่ดูเหมือนว่าประสบการณ์ในครั้งนั้นจะไม่ทำให้พวกเขาเข็ดหลาบสักเท่าไหร่

ข้อมูลและภาพ จาก kapook