ปู่วัย 70 หมอทักอยู่ได้อีก 3 เดือน ตัดสินใจ "ออกไปท่องเที่ยว" เผยชีวิตเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง!
LIEKR:
การเดินทางครั้งสุดท้ายที่กลายเป็นการเดินทางแห่งการเกิดใหม่! หากให้คุณเดินทางไปต่างประเทศเพื่อดิ่งพสุธาคุณกล้าไหม?
สื่อต่างประเทศเปิดเผยเรื่องราวของสองตายาย ที่เผชิญความท้าทายที่วัยรุ่นยังต้องสั่น แต่คุณปู่วัย 70 ปีคนนี้ที่มีนามว่า กู้ชวินผิง กลับหัวเราะแล้วพูดว่า "มีเหตุผลอะไรที่ต้องไม่กล้า!"
สนามบินแคนส์ควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลียที่มีความสูง 8000 เมตร กู้ชวินผิง และภรรยาของเขา เอ๋อหลู่อ้าย ที่ร่มกระโดดร่มพร้อมกับเขา
เป็นการฉลองครบรอบแต่งงาน 50 ปี ที่แปลกและทันสมัยที่สุดซึ่งแตกต่างไปจากคู่อื่นๆมาก พวกเขาบอกว่านี่คือ "การแต่งงานสีทอง" แสดงถึงความรักอันยาวนาน
.
"มีความสุขจังเลย ~"
พวกเขาเป็นคู่สามี ภ ร ร ย า ที่ไม่เคยจากบ้านไปไหนไกลขนาดนี้มาก่อน การเดินทางท่องเที่ยวในครั้งนี้ทำให้พวกเขาดูเหมือนกลายเป็นเด็กอีกครั้ง ทั้งสนุกและท้าทายมาก
"บินขึ้นสูงมาก - เอาบินให้สูงอีกเลย!"
"งดงามมากจริงๆ"
ลูกชายของเขาเล่าว่า “พ่อของผม ป่ ว ย เป็น โ ร ค ม ะ เ ร็ ง กระเพาะ ร ะ ย ะ สุ ด ท้ า ย ซึ่งมีคน ป่ ว ย เป็น โ ร ค นี้มากมาย แต่ผมไม่อยากคิดอะไรมาก อยากวางแผนให้พ่อแม่ได้ท่องเที่ยวสบายใจ นี่คือความหวังของผม”
เมื่อ 5 ปีก่อนพ่อของผมยังอายุ 70 ปีหมอตรวจพบว่า พ่อ ป่ ว ย เป็น โ ร ค ม ะ เ ร็ ง ใ น ก ร ะ เ พ า ะ ร ะ ย ะ สุ ด ท้ า ย
เพื่อให้ครอบครัวมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะลูกชายเกิดมาในความยากจน บากบั่นมุ่งมั่นในการทำงาน
เขาไม่เคยละเลยในการดูแลพ่อแม่จนถึงปี 2004 เพียง จึงมีเงื่อนไขส่งพ่อแม่วัยชราไปยังบ้านพักผู้สูงอายุ
เมื่อตรวจพบอาการเขาก็รีบเชิญหมอฝีมือดีมาช่วยรั ก ษ า ผ่ า ตั ด ให้พ่อ แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น หลังจากทำการผ่ า ตั ด เสร็จกระเพาะของพ่อก็เล็กลงไป ทำให้จากเดิมน้ำหนัก 65 กก.ลดลงเหลือเพียง 40 กก.เท่านั้น
ชีวิตความเป็นอยู่เริ่มน่าเบื่อ นอกจากกินและนอนตลอดทั้งวัน ก็ไม่ได้ทำอะไรเลย เหมือนกำลัง “นอนรอเวลาเท่านั้น"
จากการรั ก ษ า ทำ คี โ ม บำ บั ด ครั้งที่ 4 ลมหายใจของพ่ออ่อนลง แม้กระทั่งเดินยังเดินทางตัวไม่ไหว
หมอบอกว่า “แม้ว่าจะรักษาต่อไป โอกาสที่จะมีชีวิตก็ไม่มากกว่า 3 เดือน”
ทำให้คุณพ่อเริ่มท้อ เขียนจดหมายต่อสภาพกาชาดว่าจะบริจาคร่างกาย ดูเหมือนว่าโลกจะหมดความสนใจไปแล้ว
และแม่ก็ล้ ม ป่ ว ย เนื่องจากตอนดูแลพ่อ คุณแม่ไม่ระวังหกล้ม จนต้องถือไม้เท้าเดิน
นายกู้ชวินผิงคิดไม่ออกว่า: "ทำไมตนเองถึงแก่ลงเร็วขนาดนี้?"
เขาจำได้ว่าสมัยเป็นเด็กเขาต้องพึ่งพาและเรียนรู้ด้วยตัวเองที่โรงเรียน ส่วนพ่อของเขาขับรถไปตามถนนบนภูเขาหลายสิบไมล์เพื่อทำงานหาเงิน
ลูกชายของเขาบอกว่า ตอนเด็กพ่อแม่ดูแลเขาอย่างดี ทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ลูกๆ ได้เรียนหนังสือเหมือนคนอื่น แต่ตนเองกลับไม่เคยได้ใช้ชีวิตที่สุขสบายเลย และไม่เคยไปต่างประเทศดูโลกภายนอกเลย
มีสถานที่ที่ยอดเยี่ยมมากมายบนโลกใบนี้และมีหลายสิ่งที่พวกเขาไม่เคยได้สัมผัส
ทำให้ลูกชายของเขาคิดไอเดียหนึ่งขึ้นมาได้ว่า "ถ้าอย่างนั้นพาพ่อแม่ออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศกันดีกว่า!" แต่ทว่าสุขภาพร่างกายของพ่อยังอ่อนแอ คนทั้งบ้านก็คัดค้านมาก
"หากอาการแย่ลงเกิดปัญหาขึ้นมาจะทำอย่างไร ใครจะรับผิดชอบ!"
ลูกชายบอกว่าเพื่อการเดินทางในครั้งนี้พ่อทำการบ้านอย่างดีมาก เตรียมทุกอย่างเรียบร้อยหมด แต่ละที่ที่ไปโรงพยาบาลอยู่ตรงไหน เบอร์โทรติดต่อเท่าไร ทุกอย่างบันทึกไว้เรียบร้อย
หากว่านี่คือการเดินทางครั้งสุดท้ายของพ่อจริงๆ มันก็จะเป็นการเดินทางที่มีความหมายมากที่สุดในชีวิต เขาเช่ารถบ้านคันโต RV สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ ลูกชายเป็นทั้งคนขับ ไกด์นำทางให้พ่อแม่ และเป็นช่างภาพให้พวกเขาด้วย
ในวันที่สองของพวกเขาขับมาจอดที่ออสเตรเลีย พ่อผู้ซึ่งไม่เคยเห็นทะเลมาก่อนก็รีบเดินตรงไปที่ชายหาดทันที
พ่อบอกว่า “ไม่เคยเห็นทะเลแบบนี้มาก่อน เมื่อมองใกล้ๆเป็นสีดำ พอมองออกไปไกลๆ เป็นสีเหลือง และถ้ามองไกลออกไปอีกก็เป็นสีแดง โอ้ เมื่อคลื่นซัดเขาฝั่งก็เหมือนภูเขาเลย”
ที่นี่ตอนตี 4.30 ท้องฟ้าก็สว่างแล้ว พ่อจึงตื่นนอนแต่เช้าเลย
“บิดขี้เกียจโค้งลำตัวหน่อย ก้มเก็บเปลือกหอย และมองดูสัตว์ทะเลริมชายหาด บางครั้งก็เก็บปลิงทะเลได้ด้วย แล้วก็แอบ ข โ ม ย กลับบ้าน”
เพื่อรอให้น้ำลดพ่อแม่อดนอนเพื่อรอไปจับปูทะเลที่ริมชายหาด ในที่สุดพวกเขาก็จับได้แล้ว “เหมือนได้ชัยชนะ” พ่อเอาปูที่เก็บได้เมื่อวานมาทำอาหารกิน
วันนี้อากาศดีมาก ก็เลยไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ ในสวนสาธารณะมีวัยรุ่นเล่นกีตาร์ ร้องเพลงกันสนุกสนาน พวกเขาก็ขอไปแจมด้วย
และนั่งทำกิจกรรมต่างๆด้วยกันที่นั้น
คุณพ่อจับปลาตัวใหญ่ได้ 1 ตัว "โอ้! มีสมบัติมากมายในทะเล! ว่าแล้วก็มาเดินเล่นริมชายหาดหน่อย เจอสาหร่ายด้วย"
.
จากนั้นเราก็ไปดูหนังในโรงภาพยนต์ด้วยกัน ขอโรแมนติกกับเขาบ้างนะ
วันถัดมา พวกเราก็ไปนั่งเรือชมวิวกันต่อ
วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงาน 50 ปีของเรา ในวันพิเศษแบบนี้ กูชวินผิงบอกว่า "ผมจึงคุกเข่าของ ภ ร ร ย า ที่รักแต่งงานอีกครั้ง คุณจะยินยอมไหม?" ในตอนนั้นภ ร ร ย า ของเขาดีใจจนยืน อึ้ งไปสักพัก จากนั้นก็หัวเราะแล้วตอบกลับไปว่า "ฉันยินยอม และจะขอเคียงข้างคุณไปอีก 50 ปี"
.
คุณปู่กูชวินผิงเล่าว่า "ตอนที่แต่งงานกันฐานะยากจนมาก จึงไม่มีเสื้อผ้าดีดีใส่ ส่วนข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านก็ยืมหรือเอาของที่เพื่อนบ้านไม่ใช้แล้วมาใช้ต่อ ฉะนั้นก็เลยอยากฉวยโอกาสนี้โรแมนติกบ้างสักครั้งในชีวิต"
.
.
.
.
กู้ชวินผิงเล่าว่า "ชีวิตแต่งงาน 50 ปีผ่านไปเร็วจริงๆ"
พวกเขาทำเสื้อคู่ที่ข้างหลังเขียนว่า ชีวิตแต่งงานสีทองพร้อมกับลงปีที่พวกเขาแต่งงานจนถึงปีที่พวกเขาออกไปเที่ยวด้วยกัน 1965-2016
ตกเย็นทั้งคู่ก็ไปเดินเล่นชมพระอาทิตย์ตกด้วยกัน
กู้ชวินผิงเล่าว่า "ผมมีของขวัญมาเซอร์ไพรส์คนรักของผมด้วย เรานัดเดทกันที่สวนใกล้ๆ อากาศดีมาก"
นั่งๆอยู่ก็มีนกบินมาเกาะที่มือของภ ร ร ย า ด้วย น่ารักมากเลย
ตอนนี้กู้ชวินผิงบอกว่า "ตอนนี้ผมปลงแล้ว ทุกวันต้องมีความสุข หัวเราะสดใส ต่อให้ต้องมีชีวิตอีก 70 ปีก็ไหว นี่คือการท่องเที่ยวครั้งสุดท้าย ที่เป็นเหมือน ย า เสริมพลังให้กับชีวิต เหมือนได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ครั้งที่ 2 เลย"
ตอนนี้น้ำหนักของกู้ชวินผิงน้ำหนักเพิ่มขึ้น 5 กิโลกรัมแล้ว ผมหงอกขาวเริ่มมีสีดำเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ เขามีความคาดหวังกับชีวิตใหม่ครั้งนี้มาก
นี่เป็นการท่องเที่ยวที่ใช้ระยะเวลา 88 วันกัลภาพที่ลูกชายบันทึกให้พวกเขากว่า 100,000 ภาพ แต่นายกู้ชวินผิงยังรู้สึกไม่พอด้วยซ้ำ
ตกดึกนายกู้ชวินผิงก็หยิบกีตาร์ขึ้นมาเล่นบรรเลงให้คนในครอบครัวได้ฟัง
รุ่งเช้าก็มานั่งตากแดด เล่นกีตาร์กับคนที่รัก มันช่างสบายใจอะไรอย่างนี้
พอช่วงบ่ายก็นั่งกินข้าวที่สวนสาธารณะ ผู้คนที่นั่นดีใจเป็นอย่างมาก
บางนายกู้ชวินผิงกอยากซุกซนบ้าง จนภ ร ร ย า อดเป็นห่วงไม่ได้ว่า "ทำอะไรนะคุณ ระวังหน่อยนะ"
เหมือนชีวิตของเราเพิ่งได้เริ่มต้นใหม่อย่างไงอย่างนั้นเลย
นี่คือภาพถ่ายพ่อแม่ลูก
การเดินทางครั้งนี้ทำให้พวกเขาเหมือนตกหลุมรักกันอีกครั้ง ขอบคุณลูกชายที่ทำให้ชีวิตของผมและภรรยามีความหมายมากขึ้น ที่สำคัญเหมือนได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งเลย
ที่มา :family543
แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR