เปิดใจ "ผู้ว่าเมืองเลย" ผู้ปิดทองหลังพระ หลังช่วยไถ่ของจำนำ ไม่อยากดัง แค่ตั้งใจอยากช่วยชาวบ้าน

LIEKR:

"ไม่ต้องเอาเงินมาคืน วันไหนลืมตาอ้าปากได้ ก็ให้ช่วยคนอื่นแทน.." -ท่านผู้ว่า-

    ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เปิดใจ หลังโซเชียลชื่นชม ไถ่ของจำนำให้ชาวบ้าน แถมยังใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยการจักรยานไปทำงาน เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับชาวบ้าน

    ชื่อนี้หลายคนคงรู้จัก เมื่อปีที่ผ่านได้เขาได้เป็นกระแสในโลกออนไลน์ ด้วยภาพจำผู้ว่าราชการจังหวัด ปั่นจักรยานไปทำงาน และไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาก็ได้กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง หลังท่านเข้าโรงรับจำนำไถ่ถอนของที่ชาวบ้านเอามาจำนำ เพื่อให้เอาไปประกอบอาชีพ ซึ่งท่านได้บอกชาวบ้านว่าไม่ต้องนำเงินมาคืน ขอให้เอาของนี้ไปทำงาน เพื่อให้ลืมตาอ้าปากได้ ถ้าอยากให้เงินก็ให้เอาเงินไปบริจาคโรงพยาบาลแทน 

    นอกจากนี้ ท่านผู้ว่ายังเป็นที่ชื่นชมในโลกออนไลน์ ที่เป็นผู้ว่าฯ ติดดิน ที่ปั่นจักรยานไปทำงาน เรียกได้ว่าเป็นพ่อเมืองอีกหนึ่งคนที่ประชาชนในพื้นที่ต่างยอมรับ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก รัชนาท วานิชสมบัติ

    และเมื่อวานนี้ ทางเดลินิวส์ ได้สัมภาษณ์นายชัยวัฒน์ ถึงประเด็นดังกล่าว ซึ่ง ท่านเองก็ได้ระบุว่า ปกติแล้วตนขี่จักรยานจากบ้านพัก ไปศาลากลางจังหวัดเป็นประจำ เพราะระยะทางห่างกันเพียง 2-3 กิโลเมตร นอกจากลดมลภาวะแล้ว ยังลดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

ภาพจาก เฟซบุ๊ก นุรัตน์ พรหมดี

    นายชัยวัฒน์ บอกอีกว่า ยืนยันว่าไม่ได้สร้างภาพ อย่าตัดสินกันแค่ภาพถ่าย ถ้าสงสัยก็มาดูได้ การสวมชุดราชการขี่จักรยานบนท้องถนน ก็ได้มิตรภาพที่ดีจากผู้ขับขี่ด้วยเช่นกัน หลายคนคิดว่าตนเป็นครู หลายคนก็แปลกใจที่ผู้ว่าราชการจังหวัดขี่จักรยานไปทำงาน เมืองเลยเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีทางจักรยาน ก็อยากให้ทุกคนหันมาใช้กัน อย่าไปมองว่าการที่ผู้ว่าฯ จะขี่จักรยานไปทำงานเป็นการสร้างภาพเลย มองว่ามันเป็นการช่วยลดมลภาวะ และส่งผลดีต่อสุขภาพก็พอ

ภาพจาก สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

ภาพจาก สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก รัชนาท วานิชสมบัติ

    หลังจากกลับมาเป็นกระแสบนโลกออนไลน์อีกครั้ง ก็มีคนได้พบเจอท่านผู้ว่า และได้ออกมาเผยว่า...

    “สายๆวันนี้พี่จะไปโรงรับจำนำแป๊บนึงนะ”

    สิ้นประโยคของผู้ว่า ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า คนเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดจะไปโรงรับจำนำทำไม? หรือว่า จะเอาของไปจำนำ ฉะนั้นเพื่อให้คลี่คลายความสงสัย จึงขออนุญาตท่านไปด้วย 

    พอไปถึง ผู้ว่าฯก็ขออนุญาตพบผู้จัดการโรงรับจำนำเทศบาลเมืองเลย ผมนั่งฟังอยู่ห่างๆ จับใจความได้ว่า ผู้ว่าฯจะมาไถ่ของที่จำนำไว้ (โอ้วว คนระดับผู้ว่าฯมาใช้บริการโรงรับจำนำด้วย) 

จากโพสต์ต้นฉบับ

    แต่นั่งฟังต่อจึงรู้ว่า ผู้ว่าฯมาขอไถ่ของจำนำ ที่เป็นของประชาชนทั่วไป แต่ไม่ได้ไถ่หมดทั้งโรงรับจำนำนะครับ ผู้ว่าฯเลือกไถ่ของรับจำนำที่เป็นอุปกรณ์ประกอบอาชีพ เช่น สว่านไฟฟ้า หินเจีย และอุปกรณ์ดำรงชีพ เช่น หม้อหุงข้าว 

    ผู้ว่าฯให้เหตุผลว่า "ผมมาไถ่คืนให้เจ้าของนั่นแหละ ให้เจ้าของอุปกรณ์เหล่านี้ได้นำไปทำมาหากินได้เลี้ยงชีพต่อไป"

    โดยให้ผู้จัดการโรงรับจำนำช่วยเป็นธุระติดต่อผู้ที่ผู้ว่าฯไถ่ทรัพย์ให้นั้น ให้มารับโดยให้เอาถุงใหญ่ๆมาด้วย เพราะผู้ว่าฯฝากข้าวสาร ไข่ไก่ และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้ด้วย 

    ผู้ว่าฯ ทิ้งท้ายด้วยว่า “ไม่ต้องบอกพี่น้องประชาชนนะว่าใครเป็นคนไถ่ของให้ แต่ให้บอกว่า หากจะตอบแทนคนไถ่ของให้ ก็ให้ไปทำประโยชน์ให้กับสังคมแบบไหนก็ได้ที่ถนัด หรือถ้าวันหนึ่งลืมตาอ้าปากได้แล้ว ก็คืนค่าไถ่ของได้โดย โอนเงินเข้าบัญชีโรงพยาบาลเลย สมทบทุนสร้างตึก 10 ชั้นแทน”

.

จากโพสต์ต้นฉบับ

ที่มา : Rachnat Wanitsombati, Kapook