LIEKR:
เมื่อพูดถึงประชากรเมืองจีน หลายคนก็ต้องนึกถึงผู้ชายเป็นหลัก เนื่องจากในอดีตกาล ประเทศจีนควบคุมอัตราการเกิดภายในประเทศ ทำให้ประชากรผู้ชายมีมากกว่าผู้หญิง ซึ่งกลายเป็นปัญหา “ผู้ชายมากเกินไป” ที่สะสมมาอย่างยาวนาน ยังไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาลง ซึ่งอาจส่งผลให้มีหนุ่มโสดถึง 30 ล้านคน
ล่าสุด สำนักข่าว SCMP รายงานเรื่องดังกล่าว พร้อมกับมองว่านโยบายลูกคนเดียวที่บังคับใช้มาตั้งแต่ปี 1979 จนถึงปี 2016 อาจเป็นส่วนหนึ่งของปัญหานี้ นโยบายเกือบ 4 ทศวรรษ ทำให้ครอบครัวจีนนิยมการมีลูกชายมากกว่า เพราะสามารถเป็นผู้นำหลักในรุ่นถัดไปได้
Sponsored Ad
ศาสตรจารย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีฮ่องกงมองว่า นอกจากเรื่องผู้ชายเยอะกว่าผู้หญิงมากไป ยังมีเรื่องของค่านิยมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย “ปกติผู้ชายจะนิยมแต่งงานกับผู้หญิงที่อ่อนวัยกว่าตนเอง ซึ่งในยุคหลัง ผู้หญิงก็เริ่มที่จะแต่งงานช้าลง และเป็นโสดมากยิ่งขึ้น ซึ่งในสังคมแบบนี้ ผู้ชายก็จะมีอายุมากขึ้นกว่าจะได้แต่งงาน และถ้าไม่มีความพร้อมในตอนนั้น มันก็สายไปจนไม่ได้แต่งงานแล้ว”
Sponsored Ad
และเรื่องเกี่ยวกับปัญหาประชากรที่มากเกินไป จะส่งผลให้อัตราการเกิดประชากรต่ำลง แม้ประเทศที่มีประชาชนถึง 1,400 ล้านคน การลดลงของประชากรก็ยังเป็นเรื่องน่ากังวลอยู่ดี เพราะจะส่งผลให้ขาดแคลนแรงงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต
ปัจจุบันอัตราการเกิดใหม่ของประชากรจีน ผู้หญิง 1 คนจะให้กำเนิดลูก 1.3 คน ซึ่งตัวเลขนี้จะต้องเพิ่มเป็น 2.1 คน เพื่อรักษาระดับประชากรเอาไว้ไม่ให้ลดลงไปในอนาคต การแก้ปัญหาจะมี 2 วิธี ก็คือครอบครัวปัจจุบันต้องมีลูกมากขึ้น หรืออีกวิธีคือหนุ่มโสด 30 ล้านคนเหล่านี้มีลูก จะช่วยเพิ่มค่าเฉลี่ยตรงนี้ให้เพิ่มขึ้นมาได้
Sponsored Ad
หลายประเทศอาจจะแก้ไขปัญหาหนุ่มโสด ด้วยการสนับสนุนให้หาคู่ครองเป็นชาวต่างชาติ แต่ในกรณีของจีน หนุ่มโสดราว 30 ล้านคนนั้น เทียบเท่ากับประชากรทั้งประเทศของหลายๆ ชาติเลยทีเดียว ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้นคือ ประชากรคนโสดส่วนใหญ่ในประเทศจีน เป็นหนุ่มโสดในพื้นที่ห่างไกล และมาจากครอบครัวยากจน จึงเป็นเรื่องยากมาก ที่จะทำให้พวกเขานั้นมีเจ้าสาวจากต่างแดน และสร้างครอบครัวในอนาคตกับหนุ่มโสดเหล่านี้
Sponsored Ad
ชมคลิป
คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<
ที่มา : catdumb,scmp