การกตัญญูเป็นสิ่งที่มนุษย์ควรมี เหมือนเช่นชายคนนี้ที่กตัญญูต่อบุพการีของเขาเอง ลำบากอุ้มแม่ขึ้น-ลง โดยที่ไม่บ่นแม้แต่คำเดียว

    โดยเขาให้เหตุผลว่า “แม่เลี้ยงผมจนเติบใหญ่ ผมจะเคียงข้างแม่ไปจนแก่เฒ่า” นี่คือคำพูดของลูกชายวัย 53 ปี เทียนเหว่ยจวิน สื่อต่างประเทศเปิดเผยว่า เทียนเหว่ยจวิน เป็นคนขับรถแท็กซี่อยู่ในเมืองเจียงเหยียน ในประเทศจีน ซึ่งก็มีชื่อเสียงเล็กน้อยในระแวกนั้น เนื่องจากที่นั่งข้างคนขับมีแขกกิตติมศักดิ์วัย 80 ปีนั่งอยู่ เธอมีชื่อว่า ลู่กุ้ยเจิน

    เขาตื่นแต่เช้า และจะขับรถพาแม่ออกบ้านตั้งแต่ 7 โมงเช้าทุกวัน เขาและแม่จะขับรถไปถึงบริเวณสถานีรถไฟประมาณ 8 : 40  นาที จากนั้นก็ป้อนอาหารเช้าให้แม่กิน ประมาณ 10 โมงก็พาแม่ออกไปขับรถแท็กซี่ต่ออีก พอประมาณบ่ายโมงก็พาแม่กลับบ้านมากินข้าวกลางวันและให้แม่ได้นอนพักสักครู่ ในเวลานี้เขาก็จะรีบขับรถออกไปทำงานต่อ จนกระทั่งเวลา 4 โมงเย็นก็จะมารับแม่ออกไปขับรถแท็กซี่ต่อจนกระทั่งถึงฟ้ามืด ก็ส่งแม่กลับบ้านมากินข้าวเย็น นี่คือวิถีชีวิตของเขาในแต่ละวัน ซึ่งก็ยุ่งตลอดทั้งวัน แต่เขาก็ไม่เคยท้อหรือบ่นว่าเหนื่อยเลย

    เทียนเหว่ยจวิน เป็นลูกชายคนที่ 2 ของบ้าน พี่ชายเป็นพนักงานบนเรือมักต้องออกบ้านไปหลายวันเพื่อทำงานบนเรือ ส่วนน้องชายตั้งรกรากถิ่นฐานอยู่ในเมืองอู๋ซี 

    ในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2018 พ่อของเขาก็จากโลกนี้ไป ไม่ถึง 1 ปีแม่ของเขาก็มีอาการเดินไม่ไหว ยังทุกข์ทรมานจากภาวะสมองเสื่อม ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเทียนเหว่ย จวินก็ต้องแบกภาระในการดูแลแม่

    หากจะปล่อยแม่ให้อยู่บ้านคนเดียวเขาก็ไม่ไว้วางใจ จึงตัดสินใจพาแม่ออกไปทำงานขับรถแท็กซี่ด้วย เพราะเขารู้ว่าหากปล่อยให้แม่นอนติดเตียงตลอดทั้งวันคงลำบากและเบื่อหน่ายน่าดู จึงพาแม่ออกมาสูดอากาศด้านนอกที่สำคัญเพื่อลดความทุกข์ใจและความเครียดให้แม่ได้ เขาคอยดูแลแม่อย่างดี คอยอุ้มแม่ที่หนัก 60 กิโลกรัม ขึ้นลงรถทุกวัน 

    เขาบอกว่า การต้องอุ้มแม่วันละหลายรอบแบบนี้เขาชินไปแล้ว เวลาออกไปทำงานรับลูกค้า พวกเขาก็มักถามเสมอว่า “หญิงที่นั่งข้างคนขับคือใคร?” เทียนเหว่ยจวินก็จะแนะนำง่ายๆ ว่า “เธอคือแม่ของผมเอง” และเล่าเรื่องราวให้ฟังนิดหน่อย ทำให้ลูกค้าก็ไม่รังเกียจที่จะนั่งรถของเขา แต่ก็มีลูกค้าบางคนที่ปฏิเสธที่จะโดยสารรถเขาเช่นกัน 

    เทียนเหว่ยจวินดูแลแม่ไม่ให้ขาดตกบกพร่องเลย ดูแลอาบน้ำให้เป็นอย่างดี ทำให้แม่ไม่มีกลิ่นตัว อีกหนึ่งความลำบากของการรับประทานอาหารของแม่ก็คือ แม่ของเขามีความบกพร่องทางการกลืนอาหาร ทำให้เทียนเหว่ยจวินต้องบดอาหารทุกอย่างให้แม่รับประทานเสมอ ไม่ว่าจะยุ่งอย่างไรเทียนเหว่ยจวินก็ไม่เคยถอดใจที่จะดูแลแม่เสมอ

    สุขภาพของแม่ไม่แน่นอนใน 1 ปีก็ต้องไปนอนโรงพยาบาลหลายครั้ง ในช่วงที่แม่ต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเทียนเหว่ยจวินก็ต้องงดการออกไปขับรถแท็กซี่อยู่ดูแลแม่ที่โรงพยาบาล

    เรื่องราวของเขาทำให้คนรอบข้างที่เห็นต่างพากันแสดงความจำนงอยากช่วยเหลือด้วยการบริจาคเงินให้ แต่เทียนเหว่ยจวินก็ไม่อยากรับเงินที่ไม่ใช่ของตนเอง อีกหนึ่งแรงสนับสนุนที่ดีของเขาก็คือ ภรรยาของเทียนเหว่ยจวินที่ทำงานในโรงงาน เมื่อกลับถึงบ้านก็จะทำงานบ้านและอาหาร 3 มื้อให้โดยไม่เคยขาด พวกเขามีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ตอนนี้ทำงานอยู่ในเมือง ก็มักโทรมาห่วงใยถามไถ่ความเป็นอยู่ของพ่อแม่และย่าเสมอ

    คนทั้งหมู่บ้านต่างยกนิ้วให้ลูกชายคนนี้ที่ชื่อ เทียนเหว่ยจวิน เพราะเขาเป็นลูกที่กตัญญูมากจริงๆ 

    วันหนึ่งของปี 2018 เขาส่งลูกค้าไปยังธนาคารแห่งหนึ่ง เมื่อกลับถึงในเมืองจึงสังเกตเห็นบริเวณเบาะนั่งด้านหลังมีเงินตกหล่นอยู่ 600 หยวน (ราว 2,660 บาท) เขารีบกดปุ่มปิดรับลูกค้า และรีบติดต่อกลับเจ้าของคนนั้นเพื่อส่งเงินไปคืนให้เขา

    โดยเขามักพูดเสมอว่า “เงินที่ไม่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง ก็แปลว่าไม่ใช่เงินที่ตนเองสมควรนำไปใช้ น้อยหรือมากแค่ไหนก็ไม่เด็ดขาด”

ที่มา : lookforward | เรียบเรียงโดย LIEKR