เขตต์ เล่า "เลิกนุ่น" เสียใจมาก ชีวิตลงหนัก แต่ "แนท" ทำให้ชีวิตผมกลับมาสดใสอีกครั้ง!

LIEKR:

เปิดหมดใจครั้งแรก ตอนเลิกนุ่น ยอมรับเป็นฝ่ายผิดเอง ชีวิตเป๋ไปเป็นปีๆ ก่อนจะมาเจอ แนท

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

        เป็นพระเอกชื่อดังที่อยู่ในวงการมากว่า 20 ปี สำหรับ เขตต์ ฐานทัพ มีผลงานให้ติดตามอย่างมากมาย และเรื่องความรักก็เช่นกัน ที่ใครต่างรู้กันว่า เขตต์ ฐานทัพ นั้นเคยคบกับนางเอกดัง นุ่น วรนุช มานานกว่า 7 ปี และสุดท้ายก็ต้องเลิกกัน ซึ่งเรื่องความรักกับ นุ่น เขตต์ ไม่เคยเปิดปากพูดที่ไหนมาก่อน 

        ล่าสุดในรายการ คลับฟรายเดย์โชว์ ทางช่อง GMM25 เจ้าตัวก็ได้ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรก โดยเล่าว่า เมื่อก่อนช่วงที่คบกับนางเอกคนดังนั้น ต้องปิดเป็นความลับเพราะมันเป็นเรื่องเซนซิทีฟมาก จนกระทั่งคบกัน 7 ปี เป็นอันต้องเลิกราเพราะมาจากตัวเองล้วนๆ ทำให้เสียศูนย์ไปกว่า 3 ปี จนกระทั่งมาเจอกับ แนท ทักษญา ภรรยาคนปัจจุบัน 

 

Sponsored Ad

 

ความรักที่หลายคนรู้ เป็นดาราร่วมช่องด้วย ตอนนั้นต่างคนต่างมีชื่อเสียง การคบหากันลำบากมั้ย กับการที่แฟนคลับจะว่ายังไง เรตติ้งจะเป็นยังไงบ้าง?

        “เมื่อก่อนลำบากมากและเป็นเรื่องเซนซิทีฟด้วย ไม่ได้เป็นสังคมเปิดเหมือนสมัยนี้ เวลาจะไปทานข้าวกันก็ต้องแอบๆ หน่อย เวลาจะไปดูหนังก็ต้องผลัดกันเข้าโรง”

 

Sponsored Ad

 

ตอนนั้นเจอกันในงาน?

        “เล่นละครด้วยกัน เล่นเรื่องเดียวกัน คนหนึ่งเป็นพระเอกอีกคนเป็นนางเอก”

ในช่วงนั้นคือสเปกเลยมั้ย?

 

Sponsored Ad

 

        “สเปกนะ ถือว่าเป็นสเปก และผมก็จำภาพเด็กนักศึกษาคนหนึ่งใส่กระโปรงทรงเอมากองถ่าย วันนี้ยังจำภาพนั้นได้อยู่ มันเป็นภาพที่ดูใส บริสุทธิ์และก็ดูเป็นความประทับใจ แต่หลังจากที่คนเริ่มรู้ข่าวในความสัมพันธ์ก็รู้สึกสบายตัวขึ้นครับ แต่ต้องระมัดระวังตัวเรื่องการเป็นข่าวมากขึ้น เพื่อประคับประคอง ไม่ให้ต่างคนต่างเสียชื่อเสียง จนกระทั่งที่ทำให้มีเรื่องราวทำให้ต้องแยกย้ายกันไป”

ใครเป็นคนขอยุติความสัมพันธ์?

 

Sponsored Ad

 

        “อีกฝั่งหนึ่ง เพราะว่าจริงๆ แล้วมันเป็นพฤติกรรมของผมด้วย คือช่วงนั้นก็เป็นช่วงชีวิตที่พีคในช่วงหนึ่งเหมือนกัน ติดเพื่อน ติดเที่ยว ชื่อเสียง เงินทอง ตอนนั้นมันมีทุกอย่าง”

มีผู้หญิงด้วยมั้ย?

        “ต้องยอมรับว่ามีครับ แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นมันมีรายละเอียดปลีกย่อยอะไรหลายๆ อย่าง แต่ว่าทั้งหมดทั้งหลายทั้งปวง ผมยอมรับว่ามันเป็นเพราะผม ผมยังดีไม่พอ ณ เวลาช่วงนั้น”

พอเป็นคนดังทั้งคู่ ตอนรักก็ยาก เลิกกันก็ยากยิ่งกว่า?

 

Sponsored Ad

 

        “ยากยิ่งกว่า ตอนนั้นมันรอบด้านเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบกับงาน ชีวิตส่วนตัว คนรอบข้าง กระแสข่าว รวมไปถึงคุณแม่ผมก็ไม่แฮปปี้ เพราะคุณแม่ผมก็ค่อนข้างจะเอ็นดูพอสมควร ก็กลายเหมือนเป็นศึกรอบด้าน ชีวิตก็เป๋ไปเลย เป๋ไปเป็นปีๆ เหมือนกัน”

คำว่ามีผลกระทบกับงาน มันเกิดอะไรขึ้น?

        “มันก็มีกระแสในด้านลบออกมา เพราะจริงๆ ช่วงนั้นที่เป็นข่าวออกมาเนี่ย ผมก็ค่อนข้างติดลบอยู่แล้ว ด้วยความเป็นผู้ชาย และด้วยคาแรกเตอร์ของผม

        ถ้าใครรู้จักผมจริง ผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีข่าวประมาณนี้พอสมควร แล้วผมก็ไม่เคยพูดอะไร และก็ไม่แก้ตัว เพราะผมไม่รู้จะแก้ตัวอะไร ผมก็โกหกไม่เป็น ผมชอบพูดความจริง วันนี้ถ้าไม่ผ่านมา 10 ปี ถ้าเกิดให้มาพูด ผมก็คงไม่พูด เป็นครั้งแรกที่พูดถึงเรื่องนี้”

 

Sponsored Ad

 

เสียใจมั้ยกับสิ่งที่เกิดขึ้น?

        “เสียใจครับ เพลง รักแท้ดูแลไม่ได้ ลอยเข้าหูผมตลอดเลย เมื่อก่อนอินมาก เปิดเพลงนี้ทีไรเพื่อนๆ จะรู้เลยว่า จะมีน้ำตาคลอตลอด คือผมร้องไห้ง่ายมาก ผมเป็นผู้ชายเซนซิทีฟ ผมดูหนัง ดูละคร ดูกีฬาได้แชมป์ผมยังร้องไห้เลยครับ”

ตอนนั้นสภาพ เขตต์ ฐานทัพ กับการอกหัก?

Sponsored Ad

        “หนักนะพี่ ผมดื่มติดต่อกันเป็นเดือนเลยอะ โดยที่ไม่มีใครรู้ แต่ผมก็ยังทำงานได้ปกติ แต่พอตกกลางคืนชีวิตมันไม่รู้จะทำอะไร มันลอยมาก ไม่มีสาระ ช่วงนั้นออกมาอยู่นอกบ้านแล้ว ออกมาอยู่ที่คอนโด และเราก็ทำร้านเหล้าด้วยไง ร้านเหล้าอยู่ปากซอย คอนโดอยู่ท้ายซอย ก็แวะร้านเหล้าก่อนแล้วค่อยกลับไปนอน”

เหมือนแม่จะมีอิทธิพลกับชีวิตเรามาก พอเรื่องนี้มันเกิด แม่ก็ไม่แฮปปี้กับสิ่งที่เราทำ แม่ไม่อยากให้เป็นแบบนี้?

        “แม่ไม่อยากให้เป็นแบบนี้อยู่แล้วครับ แต่เหมือนคุณแม่ก็เคารพในการตัดสินใจของเรา และก็เคารพในเหตุผลอะไรหลายๆ อย่างในทุกฝ่าย แต่ว่าสุดท้ายแล้ว แม่ก็คือแม่ครับ แม่ยังเป็นกำลังใจให้ลูกเสมอ ไม่ว่าลูกจะดี จะร้าย จะชั่วยังไงก็แล้วแต่”

ตอนนั้นมันมีข่าวออกมาว่า เราเป็นฝ่ายที่ไม่ซื่อสัตย์กับความรักในครั้งนั้น ซึ่งเรื่องนี้เรายังไม่เคยตอบเลย?

        “ผมใช้ชีวิตด้วยความประมาทมากกว่า มันคือความประมาท ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะใช้ชีวิตประมาท คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา เป็นวัฒนธรรมทางความคิดของผู้ชาย ที่มันไม่ค่อยจะถูกต้องสักเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้วมันเป็นการที่ไม่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน”

มีโอกาสได้ขอโทษหรือปรับความเข้าใจกันมั้ย?

        “เรื่องมันผ่านไปแล้วตั้งแต่ตอนนั้น ถ้าขอโทษจบคงจบไปแล้ว หลังจากนั้นก็ได้คุยบ้างครับ และก็มีโอกาสได้เจอกัน ก็คุยกันบ้าง ก็ทักทายกันตามงาน ทุกวันนี้เจอกันก็ปกติครับ และทุกวันนี้ก็ยังไม่เคยมีโอกาสได้ทำงานร่วมกันเลยครับ”

ความเจ็บปวดครั้งนั้นทำให้เป๋ถึง 3 ปี?

        “3 ปีครับ คือเหมือนผมเป็นโรคจิต มันต้องเอาให้สาแก่ใจ ในเมื่อคุณทำผิด คุณรู้ตัวเองแล้ว ย้อนกลับไปไม่ได้ ไม่ต้องไปแก้ไขหรอกครับอดีต ทำปัจจุบันอนาคตให้มันดี”

3 ปีช่วงนั้นเป็นยังไงบ้าง?

        “เพลินมากครับ เดิมว่าแสบแล้ว หลังจากนั้นยิ่งเละกว่าเดิมอีก มันไม่มีอะไรเลย หาสาระไม่ได้ จนกระทั่งตัดสินใจกับตัวเองว่า ชีวิตจะอยู่แบบนี้ก็คงตายไปแบบนี้ ตอนนั้นเมาตลอดครับ แต่ว่ายังทำงานมาตลอด เพราะฉะนั้นจะไม่มีปัญหาเรื่องงาน แต่จะมีปัญหาเรื่องการใช้ชีวิตและการเจอผู้คน”

ตอนที่เราเมากว่า 1,000 วัน มันช่วยเยียวยามั้ย?

        “มันช่วยทำให้ลืม มันก็เหมือนกับคนที่ทุกข์ใจ แล้วไปกินเหล้า ไปเมา คุณจะลืมไปได้ชั่วขณะหนึ่ง พอตื่นมาคุณก็จะเป็นอีก มันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา แต่มันทำให้ลืมเท่านั้นแหละ ก็คิดสั้นๆ ง่ายๆ ขาดแรงบันดาลใจ เหมือนดื่นเพื่อลืมเธอ”

        จากความเจ็บปวด 3 ปี อะไรที่ทำให้เรากลับมาคิดได้?

“คุณแม่ครับ คุณแม่เองก็ไม่ได้มีความสุขตลอด 3 ปีที่ผ่านมา คือผมเป็นคนมีโลกส่วนตัว เวลาเข้าสู่โหมดโลกส่วนตัวเนี่ย ใครก็เข้าไม่ถึง แม่เองก็เข้าไม่ถึง เค้าอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ เรารู้อยู่แล้วว่าเค้าเป็นห่วง โทรมาผมก็คุย คือมันไม่ได้เจอ ไม่ได้คลุกคลีอยู่ด้วยกัน เค้าก็เป็นห่วงว่าเราจะใช้ชีวิตอยู่ยังไง สุดท้ายถ้าปล่อยไปอย่างนี้ มันไม่ดีกับชีวิตเรา คุณแม่ก็เสียใจอยู่ทุกวัน มันทำให้ทุกอย่างไม่ดีไปหมด เพราะฉะนั้นต้องฟื้นคืนชีพตัวเอง”

มันมีเหตุการณ์อะไรไหม หรือว่าตื่นมาเราก็รู้สึกได้เอง?

“มันตื่นมาแล้วรู้สึกเองครับ อย่างที่บอกมันกดดัน ทั้งตัวเอง ทั้งคุณแม่ ทุกอย่าง สิ่งแวดล้อมรอบด้านไปหมดเลย แต่มันจำเป็นต้องทำให้ตัวเองฟื้นคืนมาให้ได้ ระลึกได้เองว่าถึงเวลาแล้ว”

ช่วง 3 ปีนั้นมีผู้หญิงคนอื่นมั้ย?

“พอสมควรเลยครับ มีแต่ไม่ได้เป็นแฟน ผมไม่มีแฟนตลอด 3 ปีครับ จนกระทั่งมาแต่งงาน”

จนกระทั่งเจอความรักอีกครั้ง ซึ่งก็คือ ครอบครัวของเราในวันนี้ เจอกันได้ยังไง?

        “เจอกัน ผมขึ้นไปเชียงใหม่ครับ มันมาจากการเป๋ๆ แล้วเรารู้สึกว่าอยู่กรุงเทพก็ไม่มีอะไรดี มันเป็นช่วงสงกรานต์ คือปกติเป็นคนที่ไม่ชอบเทศกาล ไม่ชอบคนเยอะๆ ปีนั้นไม่รู้คิดอะไรอยู่ ก็เบื่อแล้วอยากไป ช่วงที่เจอ แนท เนี่ยยังตัดสินใจได้ไม่ขาด แล้วก็ไปเจอเค้าที่เชียงใหม่ ผมขึ้นไปทำธุรกิจกับเพื่อน

        ส่วน แนท เองตอนนั้นเค้าเป็นวีเจอยู่ ต่างคนต่างขึ้นไปทำงานแล้วไปเจอกันโดยบังเอิญ ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ แนท เป็นรุ่นน้องของเพื่อนผม แต่ผมจำเค้าได้ เค้าเคยถ่ายโฆษณา ผมรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้หน้าเก๋มากเลย เป็นแบบหมวยๆ เหวี่ยงๆ ยังไงชอบกล พอเจอเค้าก็ทักว่าใช่คนที่ถ่ายโฆษณามั้ย เค้าก็ถามว่า พี่จำได้ด้วยเหรอ อันนี้เป็นประโยคที่ทักครั้งแรก”

        “การเจอกันครั้งแรก ทำให้เราคุยกันยาวเหยียดถึงเช้า เพราะมันมีความประทับใจ และการคุยกับเค้ามันทำให้เราได้เห็นวิธีคิดของเค้า ซึ่งมันประหลาดมาก เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ผมคุยกับผู้หญิงได้นานขนาดนี้ คืออยากรู้อะไรก็ถามเค้า เค้าก็ตอบได้ ทำให้เราเห็นความคิด”

ทันทีหลังจากนั้นบอกกับเพื่อนว่า?

        “กูว่ากูจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ว่ะ เพื่อนช็อกมาก คือคุยกันวันเดียว มันเป็นความมั่นใจแบบแปลกๆ อย่างไรก็ไม่ทราบเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะว่าเราผ่านจุด 7 ปี และจุดที่เละเทะ 3 ปีแล้ว มันถึงจุดที่ชีวิตต้องการสิ่งที่ดี ผมต้องการสิ่งที่ดีสำหรับชีวิตผม”

        หลังจากนั้น แนท ก็เล่าให้ฟังว่า คือตอนที่ยังไม่ได้แต่งงาน ยังเป็นแฟนกัน ทำธุรกิจด้วยกัน มันไปไม่ดีเลยก็เจ๊ง แล้วโดนหุ้นส่วนซัดหนักมาก คือตอนนั้นตนเองเป็นคนทำบัญชี ก็โดนข้อหาฉ้อโกงบ้าง ยักยอกบ้าง ซึ่งตัวพี่เขตต์นั้นเค้าไม่รู้เรื่องเลย สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เค้าตั้งโต๊ะทีละอัน แล้วตัวเองก็ต้องไปยืนยันทีละอัน ไม่ได้หลับไม่ได้นอน

        สุดท้ายก็หาอะไรไม่ได้ แต่ว่าข้อกล่าวหายังคงยึดถือกันอยู่ ว่ามันมีข้อกล่าวหานี้ พี่เขตต์เค้าก็เลยพูดขึ้นมากลางที่ประชุมว่า ไม่ว่าเรื่องจะเป็นยังไง นี่คือแฟนผม ผมเชื่อมั่นในแฟนผม แล้วผมจะอยู่กับเค้า วันนั้นด้วยอารมณ์ที่ไม่ได้นอน เครียด ท้อ เสียใจ เลยรู้สึกว่า คนนี้แหละคือสามี คนที่เราจะอยู่ด้วยได้ และเค้าก็เชื่อมั่นใจตัวเรา ที่เจ๊งไปทั้งหมด 30 ล้าน เป็นหนึ่งในประสบการณ์ชีวิตที่หนักหนามากสำหรับตนเอง มันหนักหน่วงมาก จนกอดคอกันร้องไห้เลย.

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<<

ข้อมูลและภาพ จาก thairath / kapook

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ