ในปัจจุบันจากสถานการณ์ต่างๆ ส่งผลกระทบต่อรายได้ของหลายภาคส่วน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมวงการบันเทิง ที่สาว ลาล่า อาร์สยาม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เปิดใจ หลังตัดใจขายรถยนต์คู่ใจเพื่อต่อชีวิตตัวเอง และครอบครัวให้อยู่รอด

    สาวลาล่า กล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้เรียกว่าหนัก เนื่องจากไม่มีงานเลย งานหลักซึ่งก็คือคอนเสิร์ตกับละครก็ถ่ายจบไปนานแล้ว เราประคองตัวเองมาตั้งแต่ปีที่แล้วที่มันหนักมากๆ พอมาปีที่สองก็คิดว่าสถานการณ์คงดีขึ้นแล้ว กำลังได้พออยู่พอกิน ไม่ลำบาก ก็มาเจออีก คอนเสิร์ตหายไปหมดเลย จนตอนนี้ประคองรายจ่ายไม่ไหวแล้ว

    ส่วนคำแนะนำที่ว่าทำไมไม่ไปยืมเงินเพื่อน สาวลาล่า กล่าวว่า จะไปยืมใครก็เกรงใจ เพราะรู้ว่าทุกคนใช้เงินหมดในการสู้ชีวิต เลยใช้สมบัติที่ตัวเองมีอยู่ต่อชีวิตดีกว่า ตอนนี้ก็เหลือรถเป็นสมบัติอยู่ชิ้นเดียว ก็ต้องตัดสินใจปล่อยออกไปเพื่อเอามาต่อทุนทำธุรกิจ หาช่องทางในการต่อยอดชีวิต

    สาวลาล่า เล่าอีกว่า รายจ่ายต่อเดือนไม่ได้รอเธอเลย ต้องเอารถไปขายที่เต๊นท์ให้ได้เงินมาใช้เลย ตอนนี้ก็ตัดรายจ่ายค่ารถไปได้แล้ว เหมือนตัดภาระออกไปได้เยอะ ซึ่งที่ขายออกมาก็ไม่ได้เยอะ เหลือแค่พอได้ลืมตาอ้าปาก เอาไปลงทุนได้ คันนี้ใช้มา 6-7 ปีแล้ว

    ทางเดียวที่จะสู้กับมันคือเราต้องสำเร็จ เอาเงินที่เหลืออยู่ไปลงทุน ถ้ามีเงินเหลือ มีรายได้ค่อยดาวน์รถใหม่ ช่วงนี้จะไปไหนก็อาศัยรถผู้จัดการไป ซึ่งเราไม่ค่อยไปไหน ไม่มีที่ไหนให้ออกไป เราเองทำงานออนไลน์ด้วย

    เมื่อถามว่ารู้สึกเสียดายไหม สาวลาล่า กล่าวว่ายังไม่รู้สึกเท่าไหร่ เพราะปลอบใจตัวเองว่าเอารถไปเข้าศูนย์ เราแบกภาระไว้ไม่ไหว มีผ่อนคอนโดเดือนละ 20,000 บาท ที่ดินที่ชัยภูมิอีก เราจ่ายแบบไม่มีรายรับเลยเดือนละเป็นแสน พอเข้าช่วงปีที่ 2 รายรับที่เข้ามาไม่ถึงแสนเลย เหมือนเราต้องจ่ายเดือนละ 100 ทั้งที่มีรายรับ 5 บาท

    น้องสาวของลาล่าอยู่ที่ฝรั่งเศสซึ่งลำบากไม่แพ้กัน ก่อนหน้านี้ก็ช่วยกันทำมาหากินประคองครอบครัวไว้ แต่ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้เลย เขาไม่เปิดเมือง น้องไม่ส่งมาช่วยเราก็ยิ่งหนักไปอีก

    ลาล่า พูดให้กำลังใจว่า ถ้าจะแบกหน้าว่าตัวเองเป็นซุป'ตาร์ไว้มันก็คือไม่รอด วันนี้เราเสียสละเขาไปเพื่อให้เรารอด ครอบครัวเรารอดดีกว่า เงินเก็บก็หมดไปแล้ว รถคือสมบัติชิ้นสุดท้ายที่พอจะมี บางทีคิดจะเอาทองไปขายอีก ไปดูอ้าวหมดแล้วนี่ 

    ตอนนี้ใช้วิธีประหยัดเงินลง โดยการกินข้าวบ้านผู้จัดการบ้าง บ้านลูลู่บ้าง บางทีเขาก็ทำส่งให้เรากิน เวลาจะไปไหนให้เขามารับ เสื้อผ้าต้องงดซื้อเลย ใส่อันเก่าวนไปมา มีปลูกผักกินเอง บางที่ก็หารใช้กับผู้จัดการคนละครึ่ง

    บางครั้งถึงกับมานั่งน้ำตาตกใน ว่าเราต้องสำเร็จ ต้องรวย ต้องทำให้ได้ เราไม่ได้เป็นแบบนี้คนเดียว คนอื่นเขาก็ลำบาก ตอนนี้มันสู้ทุกอย่างจริงๆ

ที่มา : thairath