หลายคนที่ใช้สมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตน่าจะเคยเห็นหรือใช้งาน Airplane Mode หรือภาษาไทยเรียกว่า “โหมดเครื่องบิน” กันดี  เพราะโหมดนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปิดการใช้งานระบบเชื่อมต่อแบบไร้สายทั้งหมด(สัญญาณโทรศัพท์, WiFi, Bluetooth)สำหรับเวลาขึ้นเครื่องบิน (บังคับให้ปิดสัญญาณโทรศัพท์) 

    แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า Airplane Mode นั้น มีประโยชน์กับสถานการณ์อื่นๆ ได้อีกมากมาย ดังนี้…

    1.กันไม่ให้คนรู้ว่า เราได้อ่านข้อความนั้นแล้ว

   แอปพลิเคชันด้านการส่งข้อความต่างๆ อย่างเช่น Facebook Messenger, Snapchat หรือ LINE จะมีฟีเจอร์ที่แจ้งให้ผู้ส่งทราบว่า ผู้รับได้อ่านข้อความดังกล่าวแล้ว แต่เราสามารถปิดฟีเจอร์ดังกล่าวแบบชั่วคราวได้ ด้วยการเปิดใช้งาน Airplane Mode ก่อนจะทำการอ่านข้อความเข้า และผู้ส่งจะไม่สามารถทราบได้ว่า ผู้รับได้ทำการอ่านข้อความดังกล่าวแล้วหรือยัง

   **จากการทดสอบพบว่า เทคนิคดังกล่าว ไม่สามารถใช้ได้กับทุกแอปพลิเคชัน ซึ่งแอปฯ ที่ทดสอบแล้วพบว่า ใช้งานได้เมื่อเปิดใช้งาน Airplane Mode ก็ได้แก่ WhatsApp กับ Snapchat

    2.แก้ปัญหากรณีการเชื่อมต่อมีปัญหาได้

    การเปิด Airplane Mode นั้น นอกจากจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ รวมไปถึงป้องกันไม่เกิดการรบกวนขณะชมภาพยนตร์แล้ว Airplane Mode ยังช่วยรีเซ็ตการเชื่อมต่อเครือข่ายโทรศัพท์มือถือได้ในกรณีที่เกิดปัญหา แต่ถ้าหากลองเปิด Airplane Mode แล้ว ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ให้ปิดเครื่องและเปิดใหม่อีกครั้ง

    3.ป้องกันไม่ให้เด็กๆ เผลอกดซื้อไอเท็มในเกม เนื่องจากถูกตัดการเชื่อมต่อ

      ข่าวคราวเกี่ยวกับกรณีที่เด็กยืม iPhone หรือ iPad ของพ่อแม่ แล้วเผลอไปกดซื้อของ หรือไอเท็มในเกมโดยไม่ตั้งใจ เนื่องจากมีการล็อกอิน Apple ID ค้างไว้ จนทำให้พ่อแม่หลายรายต้องเสียเงินจำนวนมาก ยังคงมีให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ แต่ Airplane Mode สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวในเบื้องต้นได้ เนื่องจากการเปิดใช้งาน Airplane Mode จะเป็นการตัดการเชื่อมต่อต่างๆ ทั้ง Wi-Fi รวมไปถึง 3G/4G ทำให้ไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการจ่ายเงินได้ แต่วิธีนี้ เป็นเพียงแค่การแก้ปัญหาชั่วคราวเท่านั้น เพราะถ้าหากเด็กรู้วิธีการปิด Airplane Mode ก็คงไม่สามารถแก้ปัญหาใดๆ ได้

    4.ช่วยประหยัดแบตเตอร์รี่

    การเปิด Airplane Mode จะส่งผลให้ระบบปิดการใช้งานระบบเครือข่ายมือถือ, ระบบ WiFi และ Bluetooth ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าฟีเจอร์พวกนี้อาศัยการใช้งานแบตเตอร์รี่มาก ดังนั้นในเวลาที่เราไม่ได้ใช้การเชื่อมต่อดังกล่าว ก็จะช่วยให้ประหยัดแบตเตอร์รี่ได้มากขึ้น โดยเฉพาะการอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ (เช่น การไปเที่ยวป่า เที่ยวเกาะกลางทะเล) จะได้ไม่ต้องให้เครื่องทำงานหนักเพื่อค้นหาสัญญาณเครือข่าย 

    5.ช่วยทำให้ชาร์จแบตฯ ได้เร็วขึ้น

    การชาร์จแบตที่ไวที่สุดคือการทำให้เครื่องรับกระแสไฟฟ้าเข้าไปอย่างเดียว แต่ถ้าหากชาร์จไปด้วยแล้วกำลังใช้ไปด้วยจะทำให้ใช้เวลาในการชาร์จมากขึ้น ส่งผลให้แบตเตอร์รี่ร้อนและเสื่อมอายุการใช้งานเร็วขึ้นอีกด้วย ดังนั้นถ้าอยากชาร์จแบตให้เต็มเร็วๆ ควรเปิด Airplane Mode ไว้ …แต่ถ้าเป็นโทรศัพท์ ใครโทรมาตอนนั้นก็จะโทรไม่ติด ต้องวางแผนดีๆ

    6.ตัดการรบกวนจากโลกภายนอก

    สำหรับใครที่ต้องการความสงบ ไม่อยากรับรู้ความเป็นไปของโลกภายนอก (Social Network) หรือไม่ต้องการให้ใครโทรหา ไม่ต้องถึงกับปิดเครื่อง เพียงแค่เปิดการใช้งาน Airplane Mode ก็น่าจะตอบโจทย์นี้ได้ดีทีเดียว 

    7.ลดการแผ่รังสีโทรศัพท์มือถือ

    ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดจะมีรังสีมากหรือน้อยโดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือที่เราใช้เมื่อเรานอนหลับเราสามารถเปิดโหมดเครื่องบินของโทรศัพท์มือถือได้ถ้าเป็นไปได้การปิดเครื่องจะดีที่สุด และโทรศัพท์มือถือควรพยายามอยู่ให้ห่างจากหมอนของเราซึ่งจะช่วยลดการแผ่รังสีของโทรศัพท์มือถือได้อย่างมากเพื่อให้คุณสามารถนอนหลับอย่างสงบสุข

ที่มา:buzzlife,sanook,9tana

เรียบเรียงโดย Liekr