หมอเผยเวลานอนไม่ควรเป่าพัดลมไปที่ร่างกาย ทำให้ ป่ ว ย ร่างกายรู้สึกเมื่อยล้าได้

LIEKR:

หมอเผยเวลานอนไม่ควรเป่าพัดลมไปที่ร่างกาย ทำให้ ป่ ว ย ร่างกายรู้สึกเมื่อยล้าได้

    ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน หลายบ้านมักนิยมเปิดพัดลมนอน เพื่อระบายความร้อน บางคนถึงขั้นนำมาจ่อหน้าจ่อตัว แต่รู้หรือไม่ว่าการกระทำแบบนี้ ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างไรบ้าง

    ทวิตเตอร์ JapanSalaryman สาระญี่ปุ่นจากคุณบูม ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยบอกว่า การนอนเอาพัดลมเป่าหน้า เป็นการกระทำที่ไม่ดีนะ และทำให้ป่วยได้ หรือร่างกายรู้สึกเมื่อยล้าได้

 

    คุณหมอทานากะ ผอ.คลีนิคมินาโตะมิไรที่ประเทศญี่ปุ่นบอกว่า เวลานอนไม่ควรเป่าพัดลมไปที่ร่างกายเรา 

    วิธีที่แนะนำคือการหันพัดลมไปที่กำแพง กดส่ายหน้า แล้วให้พัดลมทำหน้าที่ช่วยให้อากาศในห้องเคลื่อนตัว คืออากาศร้อนจะเคลื่อนตัวขึ้นสูง อากาศเย็นจะเคลื่อนตัวลงต่ำ ทำตามนี้

    สภาพแวดล้อมสำหรับการนอนที่ดีที่สุด คือการที่อากาศในห้องมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด แต่เคลื่อนไหวไปอย่างช้าๆและการที่เอาพักลมเป่าร่างกายติดต่อกันตลอดคืนคุณหมอบอกว่า จะทำให้ร่างกายต้องใช้พลัง สุดท้ายเราจะรู้สึกเหนื่อยอิดโรยได้

    ซึ่งรายการบอกว่า ถ้าเป่าพัดลมไปที่ตัวติดต่อกันเป็นเวลานานๆ อาจทำให้เกิดภาวะร่างกายขาดน้ำ, คุณภาพการไหลเวียนโลหิตต่ำลงได้ ฯลฯ ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายอยู่เหมือนกันนะครับ

    โดยเฉพาะผู้สูงอายุ คุณหมอทานากะเตือนว่า การนอนเอาพัดลมเป่าตัวบ่อยๆ จนเป็นนิสัย อาจทำให้พลังในการพยุงร่างกายถดถอยลงไปได้ ซึ่งก็เป็นอันตรายต่อชีวิตเช่นกันครับ 

    นอนครั้งหน้าลองพิจารณาหันพัดลมหากำแพง กดส่ายนะครับ

    ส่วนตัวคิดว่าอาจจะร้อนนิด แต่คงดีกว่าเอาพัดลมจ่อหน้าแล้วร่างกายล้า

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก JapanSalaryboom