LIEKR:
หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ
ในประเทศไทยมีการปลูกกล้วยหอมเพื่อการค้าในหลายจังหวัด เนื่องจาก "กล้วยหอมทอง" เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีศักยภาพในการส่งออก หลายประเทศมีความต้องการบริโภคสูง โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น
กล้วยหอมทอง เน้นการผลิตที่ไม่มีการใช้สารเคมี ดังนั้น จึงมีการผลิตได้ปีละ 1 รอบการผลิตเท่านั้u โดยแต่ละรอบการผลิตใช้ระยะเวลา 8-11 เดือน ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพความอุดมสมบูรณ์ของแต่ละพื้นที่ ดังนั้น เกษตรกรจึงมีการวางแผนการผลิตเพื่อสามารถให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดได้ตลอดทั้งปี
Sponsored Ad
โดยในการปลูกและการดูแลรักษานั้นจะมีขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
การเตรียมพื้นที่ปลูก
Sponsored Ad
ไถเตรียมดิน 2-3 ครั้ง ใช้ระยะปลูก 2×2 เมตร ขนาดหลุมปลูก 30x30x30 เซนติเมตร รองพื้นด้วย ปุ๋ยคอกที่คลุกด้วยเชื้อราไตรโคเดอร์มา อัตรา 2,000 กิโลกรัม ต่อไร่ ที่คลุกเคล้าด้วยเชื้อราไตรโคเดอร์ม่าสด 80 กิโลกรัม ต่อไร่
การเตรียมพันธุ์และการปลูก
ปลูกด้วยหน่อกล้วยที่สมบูรณ์ มีความยาว 30-50 เซนติเมตร
Sponsored Ad
การใส่ปุ๋ย
– อายุ 1 เดือน ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 อัตรา 40-60 กิโลกรัม ต่อไร่
– อายุ 3 เดือน ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 อัตรา 60-80 กิโลกรัม ต่อไร่
Sponsored Ad
– อายุ 5 เดือน ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 13-13-21 หรือ 8-24-24 อัตรา 80-120 กิโลกรัม ต่อไร่
การให้น้ำ
มีการให้น้ำด้วยระบบน้ำหยด หรือมินิสปริงเกอร์ โดยควบคุมความชื้นในดินที่ระดับ 80 เปอร์เซ็นต์
Sponsored Ad
การตัดแต่งหน่อ
หลังปลูก 3-4 เดือน กล้วยจะเริ่มมีการแตกหน่อ ให้ตัดหน่อที่เกิดทิ้งตลอดช่วงการเจริญเติบโตจนถึงระยะก่อนการเก็บเกี่ยว ให้ตัดก่อนที่หน่อจะแตกใบเพื่อไม่ให้เกิดการแย่งอาหารจากต้นแม่
กรณีบางพื้นที่ต้องการผลิตกล้วยหอมทองมากกว่า 1 รอบการผลิต ต่อพื้นที่ จะเก็บหน่อที่สมบูรณ์ไว้ 1 หน่อ ส่วนหน่อที่เหลือจะนำไปเป็นส่วนขยายพันธุ์ต่อไปหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว
Sponsored Ad
การตัดแต่งใบ
การตัดแต่งใบจะตัดแต่งพร้อมกับการตัดแต่งหน่อ โดยจะให้เหลือใบมากที่สุด คือ 11-13 ใบ เพื่อให้ใบช่วยพรางแสง ลดความเข้มของแสงลง ไม่ให้แสงส่องถูกผลกล้วยโดยตรง โดยไม่มีการห่อเครือ
การตัดปลี
Sponsored Ad
กล้วยหอมทอง 1 เครือ จะเก็บผลผลิตที่สมบูรณ์ไว้ 5-6 หวี ต่อเครือ และจะตัดปลีทิ้งเมื่อเกิดข้อต่อจากหวีสุดท้ายลงมา 3 ข้อ จากนั้นทำสัญลักษณ์ที่แตกต่างกันเพื่อกำหนดวันเก็บเกี่ยว
การกำจัดวัชพืช
กำจัดวัชพืชโดยใช้แรงงานคน 3 ครั้ง ต่อรอบการผลิต
การค้ำลำต้น
กล้วยหอมทองมักประสบปัญหาเรื่องหักล้มง่าย จึงต้องใช้ไม้ค้ำเครือกล้วยทุกต้น
การเก็บเกี่ยว
เก็บเกี่ยวกล้วยหอมทองที่มีความแก่ประมาณ 75-80% คือ หลังจากตัดปลีกล้วยแล้วประมาณ 55-65 วัน ทำการตัดกล้วยทั้งเครือแล้วป้องกันไม่ให้กล้วยบอบช้ำระหว่างการขนย้าย โดยการสอดแผ่นโฟมหนาประมาณ 3 มิลลิเมตร ระหว่างหวีภายในเครือ แล้วนำไปทำความสะอาด บรรจุหีบห่อและเก็บรักษา
การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว
ก่อนล้างทำความสะอาด จะแขวนเครือกล้วยไว้เพื่อป้องกันกล้วยช้ำหรือโดนกระแทก จากนั้นจึงนำเครือกล้วยมาแยกหวีออกจากกัน ล้างทำความสะอาด และเป่าให้แห้ง คัดแยกผลผลิตที่สมบูรณ์ สวยงาม น้ำหนักต่อลูกเฉลี่ย 120 กรัม ทำการติดรหัสแปลงที่หวีกล้วยเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบย้อนกลับ หุ้มด้วยวัสดุกันกระแทก และบรรจุกล่อง
การจำหน่ายให้กับทาง 7 – ELEVEN
ความสุกแก่ต้องอยู่ที่ระดับ 80 เปอร์เซ็นต์
– การบรรจุ 1 ลูก ต่อแพ็ก น้ำหนักเฉลี่ย 120 กรัม ต่อลูก
– การบรรจุ 2 ลูก ต่อแพ็ก น้ำหนักเฉลี่ย 90-110 กรัม ต่อลูก
ปัญหาและอุปสรรค
เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป ทำให้จำเป็นต้องมีการให้น้ำเสริมในช่วงแล้ง เพื่อรักษาคุณภาพของผลผลิต จึงทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น 20%
ผลผลิต ต้นทุน และรายได้
– ผลผลิตเฉลี่ย 3,500-4,000 กิโลกรัม ต่อไร่
– มีรายได้ 45,500-52,000 บาท ต่อไร่ (ที่ราคาขาย 13 บาทต่อกิโลกรัม)
– ต้นทุนการผลิต 21,700 บาท ต่อไร่
– มีผลตอบแทน 23,800-30,300 บาท ต่อไร่
– มีรายได้จากการขายต้นพันธุ์กล้วยปีละ 20,000 บาท ต่อไร่
ด้านการตลาดระหว่าง ปี 2552-2558
มีการส่งออกผลผลิตกล้วยหอมทองไปยังประเทศญี่ปุ่น โดยผ่าน บริษัท Pan Pacific Food Corporation
ด้านการตลาดปลายปี 2558
มีการเปิดตลาดในประเทศโดยผลผลิตส่งขายให้กับ 7 – ELEVEN ราคากิโลกรัมละ 12-13 บาท
ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม-กันยายน พ.ศ. 2559 ส่งออกผลผลิตกล้วยหอมทองไปยังประเทศญี่ปุ่น มาเลเซีย ดูไบ และรัสเซีย โดยการรวบรวมผลผลิตร่วมกับผลผลิตจากจังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดกระบี่ ราคาส่งออก กิโลกรัมละ 17 บาท
ชมคลิปเพิ่มเติม
คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<
ที่มา : เส้นทางเศรษฐีออนไลน์