ก่อนแต่งงานสามีให้สัญญาว่าจะทำความฝันให้สำเร็จ แต่หลังจากแต่งงานกันก็ต้องเผชิญกับชีวิตความเป็นจริง แล้วคำสัญญาที่เคยให้ไว้จะยังเหมือนเดิมหรือเปล่า ?

        ช่วงเดือนพฤษภาคม ดอกไม้ก็เริ่มผลิบาน ออกดอกกันอย่างเต็มที่ สวนดอกไม้ที่บ้านของ ฟางเถิง กับ หลี่ผิง ได้เริ่มโด่งดังจนทำให้ชุมชนของเขากลายเป็นสถานที่เช็คอินในอินเตอร์เน็ตแห่งใหม่

        ช่วงนี้ทั้งสองสามีภรรยาต้องเผชิญกับเรื่องชวนปวดหัวเรื่องใหม่ นั่นเป็นเพราะว่าพวกเข้าต้องต้อนรับแขกที่มาชมสวนของพวกเขามากมายหลายคน ถึงแม้ว่าสถานที่นี้จะค่อนข้างห่างไกลจากตัวเมืองก็ตาม อยู่ที่เมืองเจียซ่าน เขตต้าหวิน มณฑลเจ้อเจียง

        ด้วยขนาดพื้นที่เพียง1 ไร่เศษ แต่คุณสามีก็สามารถเตรียมพืชพรรณนานาชนิดกว่า 500 สายพันธุ์มาปลูก เพื่อสานฝันของภรรยาให้เป็นจริง ด้วยแรงและพลังแห่งความรัก

        ภรรยาของเขาเกิดในช่วงปี 80 เธอชื่นชอบธรรมชาติและดอกไม้ เธอมักจะนำพืชส่วนที่รับประทานได้จากในสวนมาปรุงอาหารให้สามี และลูกชายทานเป็นประจำ

        สามีอายุมากกว่าภรรยา 4 ปี เขาเคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และมีงานวิจัยเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตหลายอย่าง ปัจจุบันเขาเป็นนักปลูกพืชมืออาชีพ ซึ่งทุกอย่างนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อฤดูร้อนปี 1999 ในตอนที่ทั้งสองคนเริ่มรู้จักกัน

        ในตอนนั้นภรรยาทำงานอยู่ที่เซียงไฮ้ เธอนัดกับเพื่อนของเธอเพื่อไปภูเขาเจียงหลาง และในระหว่างทางลงมาจากภูเขา เธอได้พบกับชายคนหนึ่งกำลังใช้กรรไกรตัดกิ่งไม้ตามข้างทาง ทำให้เธอโมโหและตะโกนว่า “ทำไมต้องทำลายต้นไม้พวกนี้ด้วย?” ชายคนนั้นไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่ยิ้ม ชายคนนั้นก็คือสามีของเธอในปัจจุบัน

        ในเวลานั้น เขากำลังทำงานวิจัยเกี่ยวกับพืชอยู่ และจำเป็นต้องเก็บตัวอย่างพืชชนิดต่างๆ กลับไปศึกษา หลังจากนั้นเธอก็รู้ว่ากำลังเข้าใจผิด แต่ก็ขอให้เขาช่วยถ่ายรูปให้เธอและเพื่อน เนื่องจากในตอนนั้นยังไม่มีโทรศัพท์มือถือ ชายหนุ่มจึงใช้กล้องของเขาถ่ายให้เธอ และขอที่อยู่ของเธอเพื่อจัดส่งให้ ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนทางจดหมายกัน จนกระทั่งได้มาเป็นแฟนกัน และแต่งงานกันในที่สุด ก่อนแต่งงานเขาให้สัญญากับเธอว่าจะสร้างสวนดอกไม้ที่สวยงามให้แก่เธอ เนื่องจากตอนนั้นเขาเพิ่งได้รับที่ดินเปล่ามาจากทางบ้าน จึงบอกเธอว่าที่ดินนั้นจะกลายเป็นสวนดอกไม้ของเธอ

        แต่น่าเสียดายที่สามีต้องไปทำงานต่างเมืองอยู่เป็นประจำ ทำให้คำสัญญาที่เคยให้ไว้ต้องเก็บเอาไว้ก่อน จนกระทั่งเมื่อปี 2012 เขาตัดสินใจลาออกจากงานที่ทำมานาน 15 ปี เขาย้ายมาทำงานที่หางโจวอีกเป็นเวลา 3 ปี และในปี 2015 เขาได้เริ่มต้นทำธุรกิจของตัวเองเกี่ยวกับพืชและต้นไม้ และได้พาภรรยาย้ายมาอยู่ที่เมืองเจียซ่าน ในตอนนั้นเขารวบรวมพืชกว่า 100 ชนิด และยังไม่เคยลืมคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับภรรยา

        ในปี 2016 เขาเช่าที่ดินเพิ่มอีก 1 ไร่ เขาเริ่มสร้างสวนดอกไม้สุดแสนวิเศษขึ้นให้ภรรยา ภายในสวนมีระบบท่อให้น้ำ พื้นที่ถูกแบ่งออกตามชนิดของพืชที่ปลูก ในปีถัดมาสวนแห่งนี้มีพืชกว่า 300 ชนิด และในปีนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็น 500 กว่าชนิดแล้ว ภรรยาไม่เคยคิดฝันเลยว่าคำสัญญาปากเปล่าที่ดูเหมือนจะไม่มีวันเป็นจริงจะทำได้ถึงขนาดนี้

ในวันนั้นเขาถามเธอว่าทำไมจึงอยากปลูกบัววิกตอเรีย ? 

        เธอตอบว่า “เพราะบนใบบัวมันเหมาะที่จะเล่นโยคะ” เขาจึงบอกว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะมันรับน้ำหนักไม่ไหว และปลูกได้ยากที่เมืองจีน แต่เนื่องจากภรรยาต้องการ เขาจึงต้องพยายามปลูกให้สำเร็จจนได้ จนวันหนึ่งภรรยาจึงเดินมาเห็นบัววิคตอเรียในบ่อน้ำที่สวน แต่เมื่อถึงฤดูหนาวมันก็ตายไป 

        “ซวงฮวามู้” คือชื่อเรียกของสวนดอกไม้แห่งนี้ เดิมทีไม่เปิดให้คนนอกเข้าชม แต่เนื่องจากเพื่อนในวงการมีมากมาย เมื่อข่าวลือแพร่ออกไปก็มีผู้คนขอนัดเข้ามาเยี่ยมชมที่สวนมากมาย ทุกคนต่างชื่นชมว่าเขาเป็นคนรักภรรยามาก เพราะสวนดอกไม้จัดตกแต่งได้อย่างสวยงามและปรานีตมาก

        เนื่องจากคนที่มาเยี่ยมชมมีจำนวนเยอะขึ้นจึงเกิดปัญหาตามมา มีคนแอบตัดกิ่งไม้ที่เขาอยากได้ออกไป และมีคนแอบสูบบุหรี่ ทิ้งขยะ เหยียบย่ำจนดอกไม้เสียหาย

        แต่สวนดอกไม้ที่เต็มไปด้วยความรักแห่งนี้ เธอไม่อยากให้ใครมาเด็ดแม้กระทั่งใบไม้ใบเดียวเลย มีคนที่เข้ามาชมหลายคนให้ความสนใจในพรรณไม้ ต้องการซื้อกลับบ้าน เธอต้องปฏิเสธไปอย่างช่วยไม่ได้ เพราะต้นไม้เหล่านี้ไม่ได้มีไว้สำหรับขาย ทุกอย่างล้วนมีคุณค่าทางจิตใจ ไม่ใช่สินค้าที่ทำมาเพื่อหวังผลกำไร

        ในฤดูกาลนี้ภายในสวนยังมีต้นตะไคร้ด้วย สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย หรือจะไปทำเครื่องดื่ม น้ำหอมก็ได้เช่นกัน เธอนำไปทำน้ำมันตะไคร้เพื่อไล่ยุง

        ในช่วงฤดูร้อน ภายในสวนปลูกดอกมหาหงส์ที่บานอย่างเต็มที่ พวกมันร่วงหล่นอยู่เต็มบ่อเลย ดอกไม้ที่สวยงามเช่นนี้สามารถนำไปประดับตกแต่ง หรือจะนำไปชุบแป้งทอดรับประทานก็ได้เช่นกัน

        ในวัยเด็กจำได้ว่ามีผู้ใหญ่ชอบนำต้นเพรมน่ามาปลูก เด็ดเอาใบของมันไปบด และทำเป็นวุ้นแสนอร่อย แต่เธอคิดว่าต้นเพรมน่าที่นำมาทำความสะอาดนั้นทำได้ยาก เธอจึงทดลองทำในแบบของเธอ นี่คือเมนูผลงานที่ผ่านการลองผิดลองถูกกว่า 40 ครั้งจนสำเร็จ

        เขาไม่เพียงแต่เป็นสามีที่ดีเท่านั้น ยังเป็นอาจารย์สาขาพฤกษศาสตร์ที่มีความรู้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับต้นไม้ เขาก็ตอบได้เกือบทั้งหมด สวนแห่งนี้มีสัญญาเช่าเป็นระยะเวลา 10 ปี พวกเขาก็ไม่ทราบว่าหลังจากนั้นสวนแห่งนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป

        ตอนนี้เขาอายุ 41 ปี ส่วนภรรยาอายุ 37 ปีแล้ว พวกเขาตัดสินใจเกษียณอายุตัวเองในอีก 10 ปีข้างหน้า ในอนาคตไม่มีใครรู้ว่าสวนดอกไม้แห่งนี้จะยังอยู่หรือไม่ แต่พวกเขาอาจตัดสินใจย้ายกลับไปที่บ้านเกิดของสามีที่ยังมีที่ดินอีกขนาด 7 ไร่อยู่ พวกเขาอาจสร้างบ้านและสวนขึ้นใหม่ และอาจเลี้ยงสุนัขตัวใหญ่เพิ่มขึ้นอีกตัวเพื่อให้มันได้วิ่งเล่น หวังว่าที่แห่งนั้นจะเป็นสถานที่สวยงามและน่าอยู่เหมือนที่นี่

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR