ใครๆ ก็รู้จักเธอคนนี้ในชื่อของเซเลบสาวสวยและรวยมาก สำหรับ "มาดามกบ ปภัสรา เตชะไพบูลย์" คนที่กุมหัวใจและยืนเคียงข้าง "พรเทพ เตชะไพบูลย์" อดีตนักการเมืองชื่อดัง ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะมีฐานะร่ำรวยมีกินมีใช้ไปตลอด แต่มาดามกบก็ยังขยันทำงานปลูกผักใช้ชีวิตแบบพอเพียง

        นอกจากเธอจะทำค่ายละครปภัสราโปรดักชั่นของตัวเอง ทำไร่องุ่นหลายสิบไร่ที่สระบุรี นำผลผลิตที่ได้มาทำเป็นขนมชนิดต่างๆ วางขายแล้ว ล่าสุด เธอไม่ยอมอยู่ว่าง ปิ๊งไอเดียเปิดบ้านสะสมตุ๊กตากบ ที่ปลูกบนพื้นที่กว่าสิบไร่ในอำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นจุดเช็คอินถ่ายรูป โดยมีไฮไลท์เด็ดอยู่ที่บริการเมนูอาหารที่ปรุงด้วยผักสดๆ ที่ปลูกเอง 

        “ปรกติเวลาอยู่บ้านที่กรุงเทพฯ กบชอบปลูกผักอยู่แล้ว เริ่มจากทำแปลงผักเล็กๆ ที่บ้าน รู้สึกแฮปปี้ดีจังเลยที่เราสามารถกินผักที่ปลูกเอง เก็บเอง ทำแกงส้มมะละกอ แกงเลียง ผัดถั่วงอกกับเต้าหู้ ใส่บาตรถวายพระ ตอนนี้เริ่มปลูกคะน้า ดีบ้างไม่ดีบ้าง กวางตุ้งขึ้นก็กินได้ รู้สึกสนุกและมีความสุขที่เอาผักที่เราปลูกมาทำเป็นอาหารหนึ่งจาน

        “พอกลับไปบ้านที่สุพรรณฯ บ้านเราปลูกมะนาว มะม่วง ชะอม ผักชี ต้นหอม ฟักทอง ปลูกแต่ละอย่างตามฤดูกาล อย่างที่เห็นในไอจี เวลากลับมาที่นี่ กบชอบใส่เสื้อคอกระเช้าเดินเล่นในสวน หรือนุ่งโจงกระเบนเดินริมคลอง จะสังเกตว่าคนสมัยนี้ชอบย้อนคืนสู่ธรรมชาติแทบทั้งนั้น ส่วนเราเองอาศัยอยู่ตรงนี้มานาน จึงคิดว่าถ้าเราแบ่งโซนบ้านที่อยู่ ให้แขกได้มีจุดเช็คอินถ่ายรูป จากนั้นค่อยมากินอาหารที่บ้านกบ

        “โดยไฮไลท์อยู่ที่อาหารของเราเป็น Chef’s Table เมนูบ้านๆ ทำตามวัตถุดิบที่เรามีในไร่ เป็นผักที่เราปลูกเอง ไม่มี ส า ร พิ ษ  ช่วงไหนบวบสวยก็เอามาทำเป็นแกงเลียง ถ้าผักบุ้งจีนกำลังขึ้น ก็ทำผัดผักบุ้ง เข้าหน้ามะม่วง ก็จะมีมะม่วงน้ำปลาหวาน ที่บ้านปลูกมะนาวร้อยกว่าต้น ก็เอามะนาวมาทำเครื่องดื่ม มีทั้งมะนาวโซดา น้ำแดงมะนาวโซดา น้ำมะนาวปั่น เรียกว่าอาทิตย์ไหนเรามีผักอะไรออกใหม่ ก็จะสับเปลี่ยนมาทำเมนูต่างๆ แต่เมนูพื้นฐานที่ต้องมีชัวร์ๆ คือ ต้องมีน้ำพริกยืนพื้น ทั้งน้ำพริกมะม่วง น้ำพริกกะปิ เป็นสูตรของแม่และของกบ

        “ถ้าชอบกินส้มตำ ตำซั่ว ตำมั่ว ตำถาด ยำขนมจีน ก็มากินฝีมือกบเลย แซ่บสะใจแน่นอน ส่วนน้องสาวกบทอดไก่เก่ง ก็มีเมนูไก่ทอด มีของหวานเป็นขนมครก ขนมถ้วยไทยๆ หรือถ้าอยากลองทำกิจกรรมร่วมกัน เรามีกิจกรรมเด็ดผักสดๆ จากสวน หรือแคะขนมครกให้ทดลองทำ ใครจะมาบ้านกบต้องโทร จองโต๊ะล่วงหน้า เพราะเรารับครั้งละ 10-12 คน ต่อหนึ่งโต๊ะ ไม่รับคนที่มาเป็นคู่ หรือมาเดี่ยว เปิดให้บริการเฉพาะวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์"

        ที่จริง ถ้าเธอจะนั่งสวยๆ เป็นมาดามกบ สามีก็คงไม่ว่าอะไร และไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินทองอยู่แล้ว แต่ที่เธอลุกขึ้นมาตำส้มตำ ยำขนมจีนขาย เพราะ…

        “ถ้าทำแบบนั้น ชีวิตก็ไม่มีค่าอะไร คุณค่าของเราไม่ได้อยู่ที่คำว่า ‘มาดาม’ หรือเป็น ‘ภรรยาพรเทพ เตชะไพบูลย์’ นะ แต่ถ้าเรามองเห็นคุณค่าของตัวเอง ได้ทำสิ่งที่อยากทำ ทานอาหารคลีน ดีต่อสุขภาพ ได้ออกกำลังกาย ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว เพราะตอนนี้กบเหลือแม่อยู่คนเดียว แม่อยู่กับน้องสาว เราเองได้กลับมาอยู่กับแม่และญาติๆ พาแม่ออกกำลังกาย ชวนกันทำขนมครก เป็นกิจกรรมที่ทำแล้วสนุกมาก แค่นี้ก็เป็นคุณค่าและความสุขในชีวิตเราแล้ว”

        “ที่เปิดบ้านทำอาหาร ไม่ได้มีเงินเข้ามาเยอะแยะอะไรหรอก เพราะเรารับแค่ครั้งละ 10-12 คนเท่านั้น แต่กบมองว่าทุกสิ่งที่เราทำเป็นความสุข ไม่ว่าจะเป็นการทำไร่องุ่น เปิดค่ายละคร ไม่อยากนั่งสวยๆ เป็นคุณนาย ทุกวันนี้กบส่งหลานเรียนสิบกว่าคน เงินตรงนี้ กบไม่เคยยุ่งของพี่เอ๋ (สามี) ทุกบาททุกสตางค์กบหาเอง เราต้องแยกให้ชัดเจน ครอบครัวเราคือครอบครัวเรา ขณะเดียวกันเรามีครอบครัวของเราที่ต้องดูแล น้องเหนือ (ดิสรยา) ก็เพิ่งเป็นนิสิตจุฬาฯ ต้องใช้เงินอีกเยอะ เพราะฉะนั้นจะเอาไปปนกันไม่ได้ ต้องแบ่งแยกให้ถูก”

ข้อมูลและภาพจาก praew