โลกเปิดตัว "หุ่นยนต์ซีรา" รูปร่างคล้ายมนุษย์ ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล ช่วยลดการสัมผัสแพทย์และผู้ป่วย

LIEKR:

ถ้าทั้งโรงพยาบาลมีแต่หุ่นยนต์แบบนี้ คงช่วยแบ่งเบาภาระแพทย์ได้เยอะมาก

    โลกอนาคตที่จะมีหุ่นยนต์เข้ามาแทนที่แรงงานคน หรือช่วยมนุษย์ทำงานต่างๆ เริ่มใกล้เข้ามาแล้ว เมื่ออียิปต์ได้พัฒนา "หุ่นยนต์เอนกประสงค์" ที่สามารถปฏิบัติงานในโรงพยาบาลช่วยหมอและพยาบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังจดจำใบหน้าของผู้มาโรงพยาบาลได้ทุกคน

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเรื่องราวของหุ่นยนต์สีขาวรูปร่างคล้ายมนุษย์ เคลื่อนที่ด้วย 4 ล้อ ไปตามทางเดินในแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในเมืองทานทา เขตกะร์บียะห์ ทางตอนเหนือของกรุงไคโร เมืองหลวงของอียิปต์ ทำให้หลายคนที่เห็นต่างสงสัยและทึ่งในเทคโนโลยีดังกล่าวมาก

 

Sponsored Ad

 

    หุ่นยนต์ตัวนี้มีชื่อว่า ซีรา 03 (Cira 03) ใช้ระบบควบคุมระยะไกลโดยนักวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์วัย 27 ปี มาห์มูด เอล-โคมี ที่ได้พัฒนาหุ่นยนต์สำหรับใช้ในการแพทย์มาแล้วหลายรุ่น และรุ่นซีรานี้ก็มีคุณสมบัติโดดเด่นด้วยระบบจดจำใบหน้าและหน้ากากปกปิดใบหน้าได้ มีความแม่นยำสูงอีกด้วย

 

Sponsored Ad

 

    เจ้าซีรา 03 จะประกอบไปด้วยมอนิเตอร์ตรวจจับ 2 เครื่อง เครื่องหลักอยู่บริเวณหน้าอกและเครื่องสำรองอยู่บริเวณด้านล่างหน้าอก และด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ทำให้มันสามารถนับจำนวนคนในระยะที่มองเห็นผ่านระบบจดจำใบหน้า และสามารถประเมินว่าพวกเขารักษาระยะห่างทางสังคมที่เหมาะสมตามพื้นที่ของสถานที่นั้นหรือไม่

    นอกจากนี้ มันยังสามารถตรวจวัดอุณภูมิร่างกาย ตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง และเอกซเรย์ได้อีกด้วย นับว่าสมชื่อหุ่นยนต์เอนกประสงค์จริงๆ

.

 

Sponsored Ad

 

    ผลตอบรับของเจ้าหุ่นยนต์ซีราอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก ทั้งผู้เข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลก็ตื่นเต้นที่ได้เห็นหุ่นยนต์มาปฏิบัติหน้าที่ทางการแพทย์ และทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลก็กล่าวว่า หุ่นยนต์ซีราช่วยลดการสัมผัสกันระหว่างบุคลากรแพทย์และผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี มากถึงร้อยละ 90 เพราะควบคุมระยะไกลได้

 

Sponsored Ad

 

    โดยโรงพยาบาลที่หุ่นยนต์ซีรากำลังถูกทดลองใช้งานอยู่นั้น อยู่ใกล้กับศูนย์การเรียนรู้ที่ก่อตั้งโดย มาห์มูด เอล-โคมี นักวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ เพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านวิศวกรรมหุ่นยนต์ให้กับนักเรียนและผู้ที่สนใจ และมันอาจจะพลิกโฉมประวัติศาสตร์วงการการแพทย์ของโลกไปเลยก็เป็นได้

ที่มา : reuters

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ