หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        ล่าสุด "ฟ้าใส ปวีณสุดา" มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 ได้มาอัปเดตชีวิตผ่านรายการ ต้มยำอมรินทร์ 

        โดยสาวฟ้าใสได้เผยถึงความประทับใจของตนที่เข้าไปถึงท็อป 5 ของโลกว่า "มีหลายอย่างมาก ๆ เลยค่ะ ที่ประทับใจ แล้วความฝันของ ฟ้าใส คือการเป็นตัวแทนของประเทศไทยไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส แล้วคือการประกวดตั้งแต่ที่ไทยแล้ว มันเกินคาดด้วยแรงซัพพอร์ตแล้วก็เสียงเชียร์เราไม่คาดคิดว่าจะมีมากขนาดนี้มาก่อนจะเป็นความทรงจำที่จะอยู่กับ ฟ้าใส ไปตลอดเลยค่ะ" ฟ้าใส ปวีณสุดา กล่าว

        อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่ากว่าที่จะเข้าไปถึงระดับโลกจนติดท็อป 5 ได้ เธอเคยผิดหวังมานับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งเจ้าตัวก็ได้เผยว่า ตนประกวดมาหลายเวทีมาก ๆ ได้ตำแหน่งรองมาตลอด หลายคนก็เลยตั้งฉายาให้ตนว่าเป็นนางรองของทุกเวที แต่ตนก็มีความรู้สึกนะคะ ว่าทุกเวทีตนก็ทำอะไรที่ถูกต้องหมด แต่ก็ยังไม่ได้ตำแหน่งสักที พอนาน ๆ เข้าทำให้ตนก็เอาความสำเร็จจากทุก ๆ เวทีมาดูและมองย้อนว่าในเมื่อตนทำสุดทุกเวทีแล้ว ก็ยังไม่ได้แต่ถ้าตนยังทำเหมือนเดิมแบบทุกเวทีที่ผ่านมา ก็แปลว่าตนก็ไม่กล้าที่จะทำหรือลองอะไรใหม่ ๆ แล้วมันก็เลยทำให้ตนรู้สึกแบบไม่ดีพอทำให้ตนท้อ ตนตั้งใจอะไรไปก็เสียเปล่าเพราะว่ายังไงมันก็ไม่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว ตนก็เลยกลับมานั่งถามตัวเองว่า อยากจะทำต่อไหม แล้วมีอะไรในชีวิตที่มันมากกว่านางงามไหม แต่ในใจก็ยังมีเสียงเล็ก ๆ ที่บอกตนว่า อยากจะลองอีกสักครั้ง เพราะตนรู้แล้วว่าตนผิดพลาดอะไร แล้วตนสามารถอุดช่องโหว่งได้

        ซึ่งในปี 2017 สิ่งที่ตนคิดว่าผิดพลาดหลาย ๆ คนก็จะสังเกตได้คือเรื่องการเดิน แล้วปีนั้นคือตนเจอพี่มารีญา ตอนนั้นที่ตนมาประกวดคือ ตนรู้สึกว่าภาษาตนได้ ความสูงได้ หน้าเก๋ ซึ่งตนก็รู้สึกว่าโปรไฟล์ตนก็ดีน่าจะเหมาะกับบริบทของนางงาม แต่พอตนมาเจอพี่มารีญา คือพี่เขาเด่นกว่าตนทุกด้าน ไม่ว่าจะความสูงในด้านของวงการ ด้านการศึกษา เขาเด่นกว่าตนหมดเลย ทำให้ตนรู้สึกเฟล และตั้งคำถามว่า ข้อดีของตนคืออะไร

        และมีอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนไม่รู้คือในช่วงปีที่ผ่านมา สาวฟ้าใสเจอมรสุมหนักมาก จนเกือบซึมเศร้า ซึ่งเจ้าตัวก็ได้เผยว่า เป็นตั้งแต่ที่กลับมาจากมิสยูนิเวิร์สแล้ว ตอนแรกตนนึกว่าเป็นเพราะเหนื่อย ก็เลยคิดว่าพักสักเดือนก็น่าจะโอเค แต่พอผ่านไปอาการของตนก็ยังไม่ดีขึ้น เหมือนว่าตนไม่อยากทำอะไร ตนไม่อยากคุยกับใคร ไม่อยากไปไหน อยากจะนอนอยู่กับบ้านเฉย ๆ ไม่ไปไหนทั้งนั้น

        อย่างที่บอกว่าตอนแรกตนไม่รู้ว่าตัวเองเป็น ตนก็ไม่รู้จะพูดกับใคร นอกเหนือกับเพื่อนที่สนิทมาก ๆ หรือคุณพ่อคุณแม่ แล้วเวลาที่คนอื่นเขาได้รับฟังมุมมองของตนทำให้ตนรู้สึกโล่งมาทีละนิด

        นอกจากนี้สาวฟ้าใสยังได้เผยถึงชีวิตวัยเด็กว่าค่อนข้างจะใกล้ชิดกับคุณแม่มากเพราะคุณพ่อทำงานอยู่ต่างประเทศ ตนจะอยู่กับคุณแม่มากกว่า คุณแม่จะเลี้ยงแบบไทย ๆ จะมีกฎระเบียบวินัยค่อนข้างสูง ถ้าเกิดตนทำผิดท่านก็จะดุ ส่วนกฎเหล็กก็จะมีหลายอย่างมาก ๆ ตอนเด็กที่ตนจำได้คือ ห้ามมีแฟนจนกว่าจะเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งสาวฟ้าใสก็ทำได้จริง ๆ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีแฟน เพราะกฎเหล็กของแม่ยังมีต่อคนที่จะมาเป็นแฟนตนต้องเรียนเก่งกว่าตน อายุมากกว่าตน และเป็นหมอเท่านั้น

        และเมื่อถูกถามว่าแล้วสเป๊กของฟ้าใสเป็นแบบไหน เจ้าตัวก็ได้เผยว่า ณ ปัจจุบัน ตนไม่มีสเป๊ก เพราะว่าตนอยากพูดคุยมากกว่าว่าตนจะคลิกกับเขาหรือเปล่า ก็มีคนเข้ามาทักมาบ้าง แต่ส่วนตัวแล้วตนต้องเห็นตัว และต้องได้พูดคุยถึงจะรู้ว่าโอเคหรือเปล่า 

        ส่วนใครที่ทักมาในโซเชียลแล้วถ้าเขาอยากจะทำความรู้จักตนจริงเขาก็จะลองติดตามว่าตนไปทำงานที่ไหน แล้วก็จะไปหาตนในที่สาธารณะเพื่อไม่จู่โจมเกินไปเหมือนตนจะได้รู้สึกปลอดภัยแล้วเขาก็ได้แนะนำตัวอันนี้ตนมองว่าถ้าเป็นแบบนี้ตนจะประทับใจมาก

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<

ที่มา : ต้มยำอมรินทร์, Instagram paweensuda