ข้าวแกงที่เปี่ยมไปด้วยการให้ "ร้านน้องแอม" ให้ นศ.ไม่มีรายได้กินข้าวฟรี แถมให้ทุนเรียนจนจบการศึกษา

LIEKR:

ให้กินฟรี 3 มื้อ แถมให้ทุนการศึกษา ผู้หญิงคนนี้ทำเพื่ออะไร?...

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        หากจะกล่าวถึง "ร้านอาหาร" ขวัญใจนักศึกษาที่ทั้งรสชาติถูกปาก ราคาย่อมเยา และให้บริการประทับใจ หนึ่งในคำตอบของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต คงจะต้องมีชื่อ ‘ร้านน้องแอม’ อย่างแน่นอน ร้านน้องแอม เป็นร้านข้าวแกงในโรงอาหารกลุ่มสังคมศาสตร์ (เอสซี) เปิดทำการตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2533 ตั้งแต่แรกเริ่มจนวันนี้ก็ 30 ปีมาแล้ว 

        "ข้าวพอไหม" นี่คือประโยคประจำที่เกษร์กุสุมา รุจิพุฒธันยพัต หรือ "พี่หญิง" ของน้องๆ ใช้ทักทายนักศึกษาที่แวะมาทานอาหารที่ "ร้านน้องแอม" ที่ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นอกจากจะให้บริการนักศึกษาด้วยความซื่อสัตย์และรักษามาตรฐานได้ดีเสมอมา ร้านน้องแอมยังหยิบยื่นน้ำใจและความช่วยเหลือให้กับนักศึกษาด้อยโอกาสในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มาโดยตลอด

 

Sponsored Ad

 

.

        "อย่างบางคนกินข้าวจานเดียวขอหมูยอหนึ่งชิ้น เราก็ถามว่าไม่หิวเหรอ ทำไมกินข้าวกับหมูยอหนึ่งชิ้นคิดแค่ 10 บาท เขาบอกหิวครับพี่แต่ผมไม่มีตังค์แล้ว ผมเอาตังค์ไปลงทะเบียนหมด พี่หญิงก็เลยเดินตามออกมาถึงที่โต๊ะแล้วก็คุยกับเขาว่าน้องมีปัญหาอะไร แล้วก็มาทานที่ร้านไหม ที่ร้านพี่ แม่พี่ให้ทุนนักศึกษานะ แค่มาพูดคุยกับแม่พี่ แม่พี่รู้จักแล้วก็มาทานที่ร้านค่ะ เขาก็ทานจนจบการศึกษาแล้วเขาก็ได้งานทำเรียบร้อยแล้วค่ะ"

 

Sponsored Ad

 

        ร้านข้าวราดแกงร้านนี้ ถือเป็นร้านเก่าแก่ของธรรมศาสตร์อายุมากกว่า 30 ปี นอกเหนือไปจากอาหารที่นี่จะอร่อยเป็นเอกลักษณ์ (แนะนำผัดกะเพราเอ็นไก่) แล้ว ร้านนี้ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำใจจากคนที่ร้าน ที่คอยสังเกตว่าหากมีนักศึกษาคนไหนมีปัญหาการเงิน ทางร้านจะช่วยดูแลให้ทุนทานอาหารฟรีจนเรียนจบ ซึ่งทำอย่างนี้มาหลายสิบปีนับตั้งแต่ร้านอาหารเปิดทำการที่นี่

        “เมื่อก่อนการช่วยเหลือนักศึกษาจะเป็นในลักษณะขายถูก เพราะถ้าเราให้ฟรีเขาจะหายไปเลย เขาไม่อยากให้เรามองว่าเราสงสารเขา พี่ก็เลยใช้วิธีลดราคาเพื่อที่เขาจะได้สะดวกใจที่จะกลับมากินร้านเราอีก เขาเห็นว่าร้านเราทำด้วยความจริงใจ พอเขารู้สึกเชื่อใจจึงแนะนำกันไปปากต่อปาก พอมีรุ่นน้องเข้ามาใหม่เขาก็จะพามาแนะนำ มีสายสัมพันธ์ต่อกันไปเรื่อยๆ นอกจากจะให้กินฟรีแล้วร้านเรายังให้ใจด้วย เราต้องช่วยอำนวยความสะดวกเขา ต้องบอกรายการอาหารให้เขาทราบด้วย เขาจะได้เลือกในสิ่งที่เขาอยากกิน”

 

Sponsored Ad

 

        หญิงเล่าด้วยรอยยิ้มว่า เริ่มแรกที่ร้านรับดูแลนักศึกษาเพียง 4–5 คนเท่านั้น แต่หลังจากนักศึกษาที่เคยได้รับทุนอาหารเรียนจบไปหลายรุ่น เขาก็พารุ่นน้องมาฝากให้ดูแล แม่ของเธอจึงรับไว้ทั้งหมด ในปี 2558 นี้มีประมาณ 20 กว่าคนแล้ว แม่ของเธอเห็นนักศึกษาเป็นเหมือนลูกหลานและมีความสุขที่ได้เห็นนักศึกษากินอาหารของเขา เขาจะบอกเราเสมอว่าอาหารเปรียบเสมือนสติปัญญา ถ้าน้องๆ อิ่มท้องเขาก็จะมีสติปัญญาในการเรียนหนังสือ ถ้าปล่อยให้ท้องหิวสมองก็คงไม่แล่น เขาจึงอยากจะยิบยื่นความช่วยเหลือตรงนี้ที่เขาสามารถให้ได้

 

Sponsored Ad

 

.

        เมื่อพูดถึงเรื่องรายได้พวกเขาตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เคยคิดถึงเรื่องกำไรหรือขาดทุน เพราะมีความสุขที่ได้เห็นนักศึกษากินอาหารของขา การที่ได้เห็นแววตาและสีหน้าของเขาจากที่เคยเศร้าหมองสดใสขึ้นเป็นแรงบันดาลใจให้เขาและแม่ทำอย่างนี้ต่อไป นักศึกษาบางคนเขารู้สึกว่ามีพี่ มีป้า มีคนคอยดูแล นอกจากพ่อแม่ที่คอยส่งเงินมาให้ เรารู้สึกผูกพันธ์กันเหมือนญาติพี่น้อง ความสุขที่ได้จากตรงนี้ทำให้เราอยากจะช่วยเหลือนักศึกษาต่อไป

        ‘ร้านน้องแอม’ ยังคงแน่วแน่ในสิ่งที่พวกเธอทำมาตลอด 30 ปี เพราะเธอไม่เคยคาดหวังการตอบแทนจากนักศึกษาหรือความช่วยเหลือจากมหาวิทยาลัย เธอขอเพียงแค่ให้นักศึกษาเรียนจบ มีชีวิตที่ดี และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานก็พอแล้ว เธอช่วยเหลือนักศึกษาด้วยใจ การที่มหาวิทยาลัยให้โอกาสในการค้าขายก็เพียงพอแล้ว แค่เธอได้ทำมาหากินที่นี่ ได้บริการและดูแลนักศึกษาต่อไปแค่นี้ก็ภูมิใจแล้ว

 

Sponsored Ad

 

ชมคลิป...

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ข้อมูลและภาพจาก The People Story, medium

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ