“ภารโรง” ที่คนมองว่าเป็นคนจรจัด แต่เขากลับมีทรัพย์สินมากกว่า 240 ล้าน!

LIEKR:

“ภารโรง” ที่คนมองว่าเป็นคนจรจัด แต่เขากลับมีทรัพย์สินมากกว่า 240 ล้าน!

    เรื่องราวของภารโรงคนหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตตามปกติในสังคม ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่แล้วเรื่องราวของเขากลับโด่งดังหลังจากที่เขาได้จากไปแล้ว ทุกคนก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าเขามี มีทรัพย์สินเก็บไว้สูงถึง 200 ล้านบาท เขามีเงินเยอะขนาดนี้ได้อย่างไร?

    นายโรนัลด์ รีด (Ronald Read) เป็นชาวอเมริกัน เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2464โดยครอบครัวอาศัยอยู่ในรัฐเวอร์มอนต์ มีฐานะค่อนข้างยากจน และส่งเขาเรียนได้แค่ชั้นมัธยม หลังจากนั้นเขาถูกเรียกตัวไปทำหน้าที่ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาใช้เวลาในแอฟริกาเหนืออิตาลีและแปซิฟิกก่อนที่จะกลับไปเวอร์มอนต์ในปี พ.ศ. 2488

 

Sponsored Ad

 

    หลังจากปลดประจำการทหาร เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง เขาได้กลับมาทำงานเป็นพนักงานช่างที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในเมืองบ้านเกิด 

 

Sponsored Ad

 

    เมื่อกลับมาจากสงครามเขาก็เข้ารับตำแหน่งผู้ดูแลสถานีบริการน้ำมัน โรนัลด์จะทำงานที่สถานีบริการน้ำมันเป็นเวลา 25 ปีก่อนที่เขาจะตัดสินใจว่าถึงเวลาที่จะเกษียณ

    แต่กลับพบว่าชีวิตเกษียณเป็นอะไรที่น่าเบื่อ ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนมาทำงานเป็นภารโรงแบบพาร์ตไทม์ ที่ร้านค้าปลีก JCPenneyโดยมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย และรับผิดชอบงานช่างเทคนิคต่างๆ ภายในร้าน เขาทำอาชีพนี้อยู่นาน 17 ปี ก่อนเกษียณตัวเองในปี 2540 และกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุข

 

Sponsored Ad

 

    โรนัลด์มีชีวิตที่เจียมเนื้อเจียมตัวมาก จนคนส่วนใหญ่คิดว่าเขาเป็นคนจรจัด จนกระทั่งเขาเสียชีวิตลงในปี 2014 ตอนอายุ 92 ปี สิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็ถูกเปิดเผยออกมา 

    เพราะครอบครัวพบว่า มรดกที่พ่อเหลือเอาไว้นั้น คือทรัพย์สินที่มีมูลค่ามากถึง 240 ล้านบาท ซึ่งตามพินัยกรรม เขาต้องการแบ่งทรัพย์สินเป็นสัดส่วนดังนี้

 

Sponsored Ad

 

    60 ล้านบาท ยกให้กับครอบครัว

    40 ล้านบาท ยกให้กับห้องสมุด Brooks Memorial

    140 ล้านบาท ยกให้กับโรงพยาบาล Brattleboro Memorial

    เรื่องนี้สร้างความประหลาดใจให้กับคนในท้องถิ่นเป็นอย่างมาก รวมไปถึงครอบครัวว่าโรนัลด์ รีด มีทรัพย์สินเยอะขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะถ้าดูจากข้อมูลแล้ว เขาน่าจะมีรายได้จากการทำงานน้อยกว่าคนอื่นอยู่พอสมควร ปัจจุบัน ที่สหรัฐอเมริกา ประชาชนมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 1,440,000 บาทต่อปี ในขณะที่อาชีพภารโรง มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 910,000 บาทต่อปี

 

Sponsored Ad

 

    ยิ่งถ้าเป็นฐานเงินเดือนและค่าเงินในอดีตหลายสิบปีก่อน รายได้ของรีดคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมาก แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น เขาก็ได้ทำให้เงินเก็บดังกล่าว มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ด้วยการนำมันไป “ลงทุน” อย่างสม่ำเสมอ

 

Sponsored Ad

 

    อันที่จริงแล้ว ทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่รีดถือครองอยู่ ก็คือ หุ้นของ 95 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แน่นอนว่า รีด ไม่เคยมีความรู้เกี่ยวกับการลงทุน แต่ด้วยความสนใจ เขาจึงมักจะศึกษาข้อมูลผ่านหนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal อยู่ทุกวัน

    รวมทั้งเข้าไปหาความรู้เพิ่มเติมที่ห้องสมุด Brooks Memorial เป็นประจำ ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า เขาใช้เงินลงทุนไปเท่าไหร่ แต่เพื่อนสนิทได้เปิดเผยว่า จากที่รู้จักนิสัยกันมานาน เขามั่นใจว่า เพื่อนจะแบ่งเงินเดือนสัดส่วน 80% ไปลงทุน

Sponsored Ad

    ทั้งนี้หลักการลงทุนของรีด เป็นวิธีง่ายๆ ที่ใครก็สามารถทำได้ และไม่ต้องใช้ปัจจัยทางเทคนิคใดๆ โดยเขาจะเลือกซื้อเฉพาะหุ้นของบริษัทที่มีพื้นฐานธุรกิจเข้าใจง่าย มีมูลค่าตลาดสูง และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมตัวเอง หรือที่นักลงทุนเรียกกันว่า หุ้น Blue-Chip

    นอกจากนี้ กิจการจะต้องมีการจ่ายปันผลที่แน่นอน เพราะเขาจะถือหุ้นเอาไว้ระยะยาวหลายปี ซึ่งรีดได้เข้าลงทุนในบริษัทจากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น

    -ธุรกิจสินค้าผู้บริโภค เช่น Procter & Gamble, Johnson & Johnson, General Electric

    -ธุรกิจโทรคมนาคม เช่น AT&T

    -ธุรกิจการเงิน เช่น J.P. Morgan, Bank of America

    -ธุรกิจยานยนต์ เช่น General Motors

    -ธุรกิจพลังงาน เช่น Dow Chemical

    และเขาจะหลีกเลี่ยงการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยี ที่รูปแบบธุรกิจเข้าใจยาก แม้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นมาก

    อย่างไรก็ตาม ก็มีบางบริษัทที่ทำให้เขาต้องขาดทุน เช่น Lehman Brothers ที่ล้มละลายจนเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤติการเงินโลกในปี 2008 แต่เนื่องจากว่า รีดมีการกระจายความเสี่ยง จึงทำให้ผลกระทบอยู่ในวงจำกัด 

    จะเห็นได้ว่า วิธีการลงทุนนี้ คล้ายกับนักลงทุนชื่อดังอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นอย่างมาก ซึ่งมันได้ส่งผลให้พอร์ตการลงทุนของ โรนัลด์ รีด เติบโตขึ้นตามกาลเวลา จนสุดท้ายมีมูลค่า 240 ล้านบาท ในปี 2014

    แต่สาเหตุที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ว่าชายคนนี้เป็นเศรษฐี ก็เพราะว่าเขายังคงใช้ชีวิตเรียบง่ายเหมือมเดิม การได้นั่งทานอาหารเช้าที่ร้านโปรดในโรงพยาบาล Brattleboro Memorial ทุกวัน ขับรถมือสองที่ซื้อมาตั้งแต่อดีต ใส่เสื้อตัวเดิมที่คุ้นเคย และอ่านข่าวเกี่ยวกับการลงทุน

    สำหรับเขา แค่นั้นก็ถือว่ามีความสุขแล้ว เรื่องราวนี้อาจทำให้เราได้คิดว่า มันคงไม่สำคัญว่าเราประกอบอาชีพอะไร หรือมีพื้นฐานความรู้มากน้อยแค่ไหน ถ้าตั้งใจศึกษาข้อมูลใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาและยึดมั่นในหลักการอย่างมีวินัยเราก็มีโอกาสเป็นได้เหมือน โรนัลด์ รีด ได้เช่นกัน

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ข้อมูลและภาพจาก Brattleboro Memorial Hospital, ลงทุนแมน

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ