เปิดใจหนุ่ม "มนุษย์เงินเดือน" ใช้เงินวันละร้อย ท่องทุกวัน "เพื่อลูก" สัญญาจะไม่ให้ลูก ลำ บ า ก

LIEKR:

"เพื่อลูก" คำนี้ยิ่งใหญ่จริงๆ...

        แอดมินเชื่อว่า.. ประโยคทุกคนคงเคยได้ยินผ่านหูมาตั้งแต่เด็ก และเมื่อกาลเวลา การดูแลเอาใจใส่ของพ่อแม่ ที่คอยทะนุถนอมจนเราเติบโตมาถึงวันนี้ ก็ได้ช่วยพิสูจน์แล้วว่ามันเป็นความจริงทุกประการ และนี่คืออีกหนึ่งการยืนยัน... ความรักของพ่อคนนี้ที่มีต่อลูกสาวของเขา 

        และเรื่องราวนี้ถูกแชร์ในโลกโซเชียลอย่างแพร่หลาย เมื่อคุณพ่อท่านหนึ่งที่เลี้ยงดูลูกมาคนเดียวตลอดระยะเวลา 9 ปี เขาทุบกระปุกออมสินที่ในนั้นบรรจุเงินที่เขาอดทนทำงาน ยอมลำบาก เพื่อลูกสาวของเขาตลอดระยะเวลา 9 ปี 

 

Sponsored Ad

 

        ที่มากพอให้ลูกสาวของเขาได้มีเงินเรียนหนังสือและมีชีวิตที่ดีต่อไปในภายภาคหน้า

 

Sponsored Ad

 

        หลังจากภาพนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพเด็กน้อยถือเงินเป็นกำๆ คนนี้พร้อมคอมเมนต์ว่า….  

        "ขอชื่นชมครับคุณพ่อ" ผมนี่อยากรู้จริงๆคุณพ่อของน้องได้เงินเดือนเท่าไหร่ เป็นมนุษย์เงินเดือนหรือไม่ อ่านคอมเมนต์เรื่อยๆเจอประโยคนี้เข้าไป "ทุกสิ่ง ทุกอย่าง อยู่ที่ความตั้งใจ เงิน จะหามาง่าย หรือยาก หากไม่รู้จักประหยัด หรือเก็บออม ก็ไม่มีอยู่ดี คิดดี ทำดี ผมสนับสนุนครับ" หลายคนชื่นชมในความรักของพ่อและความน่ารักของลูกสาวจนแอบตั้งปณิธานว่าลูกผมต้องไม่ลำบากเหมือนกันถ้ารู้จักออมตั้งแต่วันนี้ เชื่อเถอะครับว่ามนุษย์เงินเดือนก็มีเงินล้านได้ อาจจะใช้เวลา 10 ปี ถ้าวางแผนดีๆตั้งแต่ก้าวแรก

 

Sponsored Ad

 

        สืบเนื่องมาจากเรื่องราวของการเก็บเงิน เราจึงมีก้าวแรกสู่การมีเงินล้านมาฝากกัน ต้องทำอย่างไรเราไปชมกันเลย

        จากกระทู้ pantip ชื่อคุณTom Percy ได้แบ่งปันเรื่องราวการเก็บเงินโดยเจ้าตัวโพสต์ว่า.. สวัสดีครับเพื่อนๆทุกคนครับ ผมชื่อ Tom Percy … จุดประสงค์ที่ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาก็มีอยู่ด้วยกัน 2 ประเด็นครับ

 

Sponsored Ad

 

        1.ต้องการขอบคุณแบบอย่างที่ดีทุกท่านในกระทู้พันทิป หรือจากเพจต่างๆ ที่เป็นแนวทางให้ผมจากมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งที่ไม่มีเงินเก็บได้รู้จักเก็บเงิน

        2.ต้องการเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆทุกคน ที่ไม่มีเงินเก็บเลยได้มีโอกาศได้เก็บเงินสู่ความมั่งคั่งในอนาคต

        ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ ที่รายได้ไม่ได้มากมายอะไร ทำงานวันจันทร์ถึงวันเสาร์ และใช้ชีวิตแบบเหนือมาตรฐานเงินเดือนที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็น กาแฟสุดหรูแก้วละ 50-60 ต่อวัน หรือจะเป็นบุฟเฟ่ต์ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังทุกวันอาทิตย์ และอื่นๆอีกมากมาย เพื่อมาทดแทนแรงกายที่เสียไปในแต่ละวันของการทำงาน

 

Sponsored Ad

 

        แต่แล้ววันหนึ่งผมเริ่มเห็นเพื่อนหลายคนแต่งงาน มีรถ มีบ้าน ไปต่างประเทศ และมีเงินเก็บมากมาย ทั้งๆที่วิถีชีวิตของเพื่อนๆผมก็ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบที่ผมใช้เลย แต่กลับใช้ชีวิตเรียบง่าย นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมหันกลับมามองตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง

        วันต่อมา หลังจากที่ผมคิดได้แล้ว ก็เริ่มมาศึกษาหาข้อมูลต่างๆในเพจต่างๆ รวมทั้งพันทิป มีคนมากมายสอนวิธีการเก็บเงิน วิธีรวยต่างๆมากมาย ซึ่งนั่นเองทำให้ผมรู้ว่าเพราะอะไรทำไมผมถึงไม่มีเงินเก็บเลย แถมชักหน้าไม่ถึงหลัง เดือนชนเดือนด้วยซ้ำ ซึ่งหลังจากผมศึกษามาหลายแบบ ก็เริ่มตัดสินใจลงมือทำทันที ถึงจะช้าไป(ตอนนี้อายุ30แล้ว) แต่ผมคิดว่า ไม่มีอะไรสายเกินไป อายุเป็นแค่ตัวเลขจริงไหมครับ? ผมเลยลำดับมาคร่าวๆตามนี้ครับ

 

Sponsored Ad

 

            1.ตั้งเป้าหมายชีวิตและเป้าหมายทางการเงิน

            ตลอดชีวิต30ปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยตั้งเป้าหมายอะไรเลยสักครั้ง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องตั้งเป้าหมาย ได้แต่ใช้ชีวิตแบบวันต่อวัน เดือนชนเดือน ซึ่งหลังจากที่ผมทำการตั้งเป้าหมายให้ชีวิต มันทำให้ผมมีกำลังใจที่จะเก็บเงิน อย่างน้อยก็รู้ว่าเราทำไปเพื่ออะไร เพื่อใคร  ผมตั้งเป้าหมายว่าต้องเก็บเงินไปต่างประเทศให้ได้ภายใน2ปีนี้(เกิดมาไม่เคยไปต่างประเทศเลย) และนั่นทำให้ผมเริ่มมีกระปุกออมสินพิเศษ นั่นคือ กระปุกออมประสบการณ์จากต่างแดน  เป็นใบแรก

Sponsored Ad

            2.เริ่มจดบัญชีรายรับ-รายจ่าย

            ปกติทุกครั้งที่ผมจ่ายเงินออกไป จะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจ่ายค่าอะไรไปบ้าง คือในกระเป๋ามีเงินอยู่เท่าไรต้องใช้ให้หมด เพราะมันคือความสุขในการใช้ชีวิต และผมได้ใช้ชีวิตแบบไฮโซโก้เก๋ด้วย ซึ่งนั่นคือความคิดที่ผิดมาก แต่หลังจากที่ผมทำบัญชีรายรับรายจ่าย แรกๆก็ขี้เกียจที่จะลงบันทึกทุกสิ่งอย่าง แต่หลังจากที่ได้ทำมันแล้ว สิ่งหนึ่งที่ได้ทำให้ผมมีวินัยในการใช้จ่ายมากขึ้น คิดก่อนใช้(เพราะขี้เกียจจดเลยไม่จ่ายดีกว่า)

            3.แบ่งเงินใช้ในแต่ละวัน

            ปกติผมจะกดเงินสดมาไว้ในกระเป๋าครั้งละหลายบาท พอใช้หมดก็กดใหม่ เป็บแบบนี้ไปจนสิ้นเดือนและเงินก็หมดในที่สุด ผมเจอวิธีนี้จากเพจเช่นกัน ผมจึงเริ่มทันทีด้วยการแบ่งเงินออกเป็นส่วนๆ ผมเชื่อว่าการกินวันละ100บาทนั้นสามารถอยู่ในกรุงเทพฯได้(มีคนทำมาแล้ว) ผมก็เลยแบ่งเงินออกเป็น30กอง กองละ 100 บาท และสามารถใช้ได้แค่วันละ100เท่านั้น(เฉพาะเงินกิน ไม่รวมค่าเดินทางและอื่นๆ) ซึ่งตอนแรกผมมองว่าโครตยาก แต่หลังจากลงมือทำไปได้สัก 1 อาทิตย์ ไม่น่าเชื่อ ผมสามารถกินอาหารได้วันละ 100 บาทได้จริงๆด้วย

        ***สำหรับที่ถามว่า 100 บาทผมกินอะไร ในเมืองกรุง  

        เช้า  แซนวิชโฮลวีต(เน้นผัก)  30 บาท

        กลางวัน  ข้าวแกงปลอดสารพิษ ร้านป้า ข้างที่ทำงาน  35 บาท

        เย็น  ก๋วยเตี๋ยว/สลัดผัก    35 บาท  

        รวมทั้งสิ้น  100 บาท   (และต้องหยอดกระปุกเพิ่มด้วย 20 บาท จากเงินที่มีอยู่)


            4.เก็บภาษีเงินได้ และภาษีเงินจ่าย(ทันที)

            ผมตั้งกฏไว้อีกหนึ่งข้อว่า ไม่ว่าจะรับเงินมากจากทางใดก็ตาม(รวมทั้งเงินเดือน) ต้องเก็บในกระปุกทันที 10% และ ไม่ว่าจะใช้จ่ายอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเรื่องกินหรือเรื่องเที่ยว(ยกเว้นค่าผ่อนรถ ค่าไฟ ค่าน้ำ) ให้เก็บเงินเข้ากระปุกทันที 20% นั้นก็คือ หากซื้อข้าวจานละ 100 บาท นั่นผมต้องจ่าย 120 บาทเลยทีเดียว โอย..คิดหนักๆ แต่สิ่งนี้ทำให้ผมมีเงินเก็บอีกหนึ่งกองด้วยกัน

        หลังจากหยอดทุกวัน ตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงปลายเดือน ก็มีเงินพอสมควร

        หลังจากนั้น ผมก็จดจำนวนเงินนั้นใส่การ์ดไว้ แล้วนำการ์ดนั้นใส่กระปุกไว้ เพื่อให้รู้ว่าเดือนนั้นเราเก็บเงินได้เท่าไร

            5.ลงทุน

            ผมเริ่มศึกษาการลงทุนรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น LTF RMF หรือหุ้น หรือเงินออมทรัพย์ประกันชีวิต มีมากมายก่ายกองสำหรับการลงทุนเพื่อใช้เงินไปทำงานแทนเรา ผมเองก็เริ่มเช่นกัน นำเงินที่ได้จากการเก็บนี้แหละครับ ไปลงทุนในรูปแบบต่างๆ ผมเริ่มจากกองทุนรวมที่ไม่มีขั้นต่ำ เพราะเงินเก็บเดือนแรกไม่ได้มากมายอะไร และอีกส่วนหนึ่งก็นำไปลงทุนในอาชีพเสริม ไม่ว่าจะขายของออนไลน์ หรืออะไรก็แล้วแต่เพื่อสร้างเม็ดเงินเพิ่มขึ้น และผมเชื่อว่าพี่ๆน้องที่อ่านอยู่นี้ มีวิธีเพิ่มพูนทรัพย์สินหลากหลายวิธีมากกว่าผมแน่นอน

        สุดท้ายนี้ ขอบคุณพี่น้องทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ถึงแม้จะได้ประโยชน์มากน้อยอย่างไรกลับไป แต่สิ่งหนึ่งที่ผมดีใจนั่นก็คือ ผมได้ตอบแทนบุญคุณพี่ๆน้องที่เขียนประสบการณ์แบบนี้ ในเพจต่างๆและพันทิปไว้ ซึ่งผมนำมาใช้และทำทำให้ผมมั่นใจว่าเงินหนึ่งล้านแรกไม่น่าจะยากจนเกินไปสำหรับผม ผมเป็นลูกชาวนา ไม่ได้มีเงินทองมากมายติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่ผมตั้งใจที่จะส่งต่อประสบการณ์นี้ ให้กับคนรุ่นต่อไป ตอบแทนสังคมคืนกลับไป

        ต้องขอบคุณเนื้อหาดีๆจากคุณ Tom Percy   เอาล่ะ..เพื่อนๆคนไหนอยากจะมีเงินเก็บบ้างลองไปทำกันดูนะค่ะ แล้วจะภูมิใจในตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ เชื่อสิ...ว่าคุณก็ทำได้ !

ข้อมูลและภาพ jackpotdedTom Percy

บทความที่คุณอาจสนใจ