สวยอมตะ! "อาภัสรา หงสกุล" วัย 71 มิสยูนิเวิร์สคนแรกของไทย ฝากถึงคนไทยในฐานนะเจ้าภาพการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018

LIEKR:

คุณปุ๊ก 70 กว่าแล้วแต่ก็ยังสวยมากๆเลยนะคะ

        ฟังจากปากเจ้าของมงกุฎ “มิสยูนิเวิร์ส” คนแรกของไทย “อาภัสรา หงสกุล” ที่ฝากถึงคนไทยในฐานะที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพการจัดงานประกวดมิสยูนิเวิร์สซึ่งปี 2018 นี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว

        ซึ่งก็ได้เปิดเผยว่ารู้สึกดีใจที่ประเทศไทยได้จัดการประกวดอีกครั้ง ในฐานนนะคนไทยก็อยากให้มีการต้อนรับที่ดี เพราะประชาชนในประเทศไทยเป็นคนที่มีจิตใจโอบอ้อมอารี บวกกับประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัด หรือทะเล มีความเป็นเอกลักษณ์ ที่คอยต้อนรับผู้เข้าร่วมการประกวดจาก 95 ประเทศ

 

Sponsored Ad

 

        คุณปุ๊กซึ่งเคยผ่านชีวิตสมรสมาแล้ว 2 ครั้ง และหย่าร้างทั้ง 2 ครั้ง ตอนนี้พอใครถามว่ามีคนใหม่หรือยัง เจ้าตัวสวนตอบอย่างอารมณ์ดีว่า “มีคนที่ 3 เรียบร้อยแล้วค่ะ” ฟังคำตอบแบบนี้ หลายคนอาจจะนึกว่าม่ายจักรวาลมีคู่ใจคนใหม่แล้ว แต่แท้ที่จริงเป็นคำล้อเล่นตามสไตล์ของคนแฮปปี้อินเลิฟ

 

Sponsored Ad

 

        เพราะคนที่สามนี่แหละที่ทำให้คุณปุ๊กได้ชื่อว่าเป็นคุณย่าสมบูรณ์แบบ หลังจากที่ลูกชายคนโต คุณโจ้ “หม่อมหลวงรุ่งคุณ กิติยากร” ที่เกิดจากการสมรสครั้งแรกกับหม่อมราชวงศ์เกียรติคุณ กิติยากร มีหลานชายให้อุ้มเมื่อไม่นานมานี้ ชื่อ ด.ช.กัสป (ชื่อเล่นกัสโป) ตอนนี้อายุยังไม่ถึงขวบดี

        “พอเป็นคุณย่าแล้วชอบ มีความสุขมากเลย เพิ่งรู้ว่าทำไมคนเป็นปู่เป็นย่าถึงมีความสุขมากขนาดนี้ ทำให้ได้รู้ว่าคนเราเวลามีความรักแล้วมันมีความสุข” อาภัสราพูดด้วยใบหน้าเจือรอยยิ้มตลอด ทำเอาคนฟังปลื้มไปด้วย

 

Sponsored Ad

 

        แถมเล่าต่อว่ายามที่คุณโจ้พาลูกชายขึ้นมาพักที่บ้านในกรุงเทพฯ จากปกติที่ใช้ชีวิตแบบเกษตรกรอยู่กัน 3 คนพ่อแม่ลูกแถวเขาใหญ่ เมื่อนั้นแหละเธอก็จะได้อุ้มหลานชายสมใจ

 

Sponsored Ad

 

        “เลี้ยงเด็กไม่ยากค่ะ อยู่กับย่าเขาไม่ร้องไห้ ไม่งอแง เขาชอบ เพราะย่ายิ้ม ย่าหัวเราะด้วยเขาก็จะทำตามตลอด อยู่กับเรานี้เด็กจะชอบเพราะว่าเราขี้เล่นเขาจะไม่เบื่อ ปุ๊กเป็นคนชอบเด็ก ชอบเลี้ยงเด็ก ชอบเล่นกับเด็ก พอมีเวลาอยู่กับหลานจะมีความสุขมาก”

ก่อนจะมีหลานชายคนนี้ให้อุ้ม 

 

Sponsored Ad

 

        ปุ๊ก : “อยากมีหลานผู้หญิงมากเพราะเราก็ไม่เคยมีลูกผู้หญิง ในใจลึกๆ แอบลุ้นว่าจะเป็นหลานผู้หญิงแต่เป็นหลานผู้ชายก็ไม่เป็นไร”

ในฐานะของแม่สามี เธอได้ให้คำแนะนำแก่ลูกสะใภ้บ้าง

        ปุ๊ก : “มีอะไรที่เป็นห่วงก็ต้องบอก อย่างเรื่องการสอนลูก ไม่ใช่ว่าไปตามใจมากเกินไป เราคิดว่าเรารักมากแต่ก็ไม่ควรตามใจมากเกินไป”

        พูดถึงหลานไปแล้ว ทีนี้มาพูดถึงลูกชายสองคนของคุณปุ๊กกันบ้าง หลายคนอาจจะมองคุณป๊อก “ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์” ลูกชายคนสุดท้องที่เกิดกับ “เจ้าสัวสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์” นิสัยใจคออาจจะแตกต่างจากพี่ชายคนโต “สองคนพี่น้องสองคนเขารักกันดีเพราะว่าจิตใจดีทั้งคู่ เป็นคนอ่อนโยน แล้วก็มีศีลธรรม ความจริงนิสัยคล้ายๆ กัน ไลฟ์สไตล์การชอบอะไรบางอย่างอาจจะไม่เหมือนกัน แต่บางอย่างเหมือนกัน อย่างโจ้ เขาเคยบวชมาสี่ปีแต่เขาก็มีเพื่อนเยอะ คือเขาเป็นคนมีระเบียบมาก ทำอะไรก็ทำได้ดี ทุกอย่างต้องเป็นระบบระเบียบหมด แต่จริงๆ เขาใจดีนะแต่เขาเจ้าระเบียบ ทุกอย่างต้องเป๊ะๆ พูดคำไหนต้องคำนั้น พูดแล้วเขาก็ต้องทำด้วย

 

Sponsored Ad

 

 

        ส่วนลูกชายคนเล็กก็เคยบวชมาสองครั้งแล้ว สมัยเด็กๆ เคยไปบวชเณรกับคุณพ่อ แล้วพอโตขึ้นมาก็ไปบวชเอง ตอนนี้เขาชอบดูงานไปนู่นไปนี่ เพราะเขาเรียนจบแล้วด้านเศรษฐศาสตร์จากที่บอสตัน เขาเรียนดีและได้เกรดดีด้วย เขาชอบดนตรี เล่นเปียโน เล่นกีตาร์และแต่งเพลงได้ด้วย”

Sponsored Ad

        อย่างที่เกริ่นแต่แรกคุณปุ๊กนั้นยังคงครองความสวยไว้ได้อย่างยาวนาน แม้กาลเวลาจะผ่านไปปีแล้วปีเล่า โดยเฉพาะใบหน้าที่ไม่เหมือนคนอายุ 60 กว่าเลย ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าไม่เคยทำศัลยกรรมใดๆ แต่เป็นเพราะเธอเป็นเจ้าของ “อาภัสรา บิวตี้ สลิมมิ่ง สปา” (Apasra”s Beauty and Slimming) ซึ่งปัจจุบันเปิด 2 สาขาคือในซอยอาภาภิรม (รัชดา 32) และที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 3

        “ปุ๊กทำทั้งหน้าทั้งตัวคิดว่ารูปร่างถ้าออกกำลังกายมันก็จะกระชับ หน้าก็เหมือนกันถ้าได้ทำอย่างนั้นมันก็ต้องกระชับ ก็คือการนวดที่ถูกต้องแล้วใส่วิตามินเข้าไป เช่น คอลลาเจน วิตามินซี และใส่อะไรต่างๆ ที่จะทำให้ผิวกระชับ ตึงแบบธรรมชาติ แล้วก็เนียนผ่อง ซึ่งมันช่วยได้จริงๆ ส่วนการออกกำลังกายนั้น ใช้เดินบนสายพาน แล้วว่ายน้ำบ้างแต่ไม่บ่อย การ เดินบนสายพานทำให้หัวใจดี ทำให้เลือดไหลเวียนสุขภาพดีและแข็งแรง

        สปานี้ช่วยได้เยอะ แต่ถ้าคนเราจะไม่ทำอะไรเลย มันก็ไม่ใช่ เราต้องดูแลรักษา ไม่ใช่ปล่อยเลย อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดเลยคือจิตใจ ถ้ามีความสุขมีสุขภาพดีมันก็จะออกมาดี” ในการมีสุขภาพจิตดีนั้น อย่างหนึ่งที่คุณย่าหมาดๆ ปฏิบัติเสมอมาคือการใช้หลักธรรมครองชีวิต

        จริงๆ แล้วที่บ้านเราคุณแม่ก็บวชชี คุณแม่ถือศีล ตั้งแต่เด็กเราจะถูกสอนให้เข้าวัด คุณแม่เคร่งศาสนา เราโชคดีที่ว่าคุณพ่อคุณแม่สอนให้เรามีวินัย คุณพ่อเป็นสุภาพบุรุษมาก เป็นชายชาติทหารคุณแม่ก็จะเป็นแม่บ้านดูแลลูกอย่างดี สั่งสอนให้รักศาสนา ให้อยู่ในศีลในธรรม ให้กลัวบาปบุญคุณโทษ จะสอนให้มีธรรมะตลอด

        ตอนลูกชายคนโตบวช ก็ไปถือศีลด้วย ต้องยอมรับว่าทุกคนเกิดมาไม่ได้ไปบรรลุอะไร ยังมีกิเลส แต่เราเข้าวัดบ่อยๆ เพื่อไปล้างความโลภที่มีอยู่ ไปทำนู่นทำนี่อะไรต่างๆ บางทีอันนี้เราอาจจะพอใจหรือไม่พอใจมันก็ทำให้จิตเราหลุดไป ถ้าไปวัดบ่อยๆ อาจจะดี พอเรากลับมาจะมีความสุขมาก ได้พักจริงๆ เทียบกับการไปทะเลจะได้พักผ่อนแต่กาย จิตใจเราจะไม่ได้พักผ่อน อาจจะคิดโน่นคิดนี่ก็ได้

สำหรับหลักธรรมที่เจ้าตัวปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

        “ต้องซื่อสัตย์สำคัญที่สุดเลย เราต้องคิดถึงอกเขาอกเรา อะไรก็ตามต้องทำให้ดีที่สุด พูดจริงๆ แล้วเราถ้าอายุมากขึ้น ร่างกายแข็งแรง แล้วทำบุญ และมีโอกาสอยู่ใกล้ชิดลูก ดูแลลูก ลูกก็ไม่ต้องเป็นห่วง อันนี้คือความสุขมากๆ เราเองไม่ได้หวังอะไรมากมาย ขอให้อยู่สุขสบาย อย่ามีภัยอันตรายเรื่องความเจ็บป่วย ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็จะแพ้อากาศ ซึ่งเป็นมาตั้งแต่เด็ก เป็นกรรมพันธุ์”

ชมคลิป..

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<

.

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก NineEntertain Official

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ