เปิดใจ “ทราย” หลัง สู ญ เ สี ย คุณแม่ "ไม่คิดว่าจะมีเพื่อน" เผยไม่คิดแต่งงานและมีลูก

LIEKR:

ทรายว่าทรายไม่ได้เข้มแข็งขนาดแม่ที่จะรับมือกับการเลี้ยงลูกได้ - ทราย เจริญปุระ

    หลังจากผ่านการ สู ญ เ สี ย ครั้งยิ่งใหญ่  สำหรับ ทราย เจริญปุระ ที่ได้ออกมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บ Show เกี่ยวกับการ สู ญ เ สีย คุณแม่อันเป็นที่รักไป พร้อมเผยเรื่องความรักที่ไม่คิดจะแต่งงานและไม่คิดจะมีลูก (อ่านเพิ่มเติม: "หนิง ปณิตา" ถึงกับจุก หลังเห็น "ทราย เจริญปุระ" นั่งมองพวงหรีด ก่อนเอยคำพูดสุดสะเทือนใจออกมา)

    พิธีกรได้แสดงความเสียใจกับ ทราย เจริญปุระ สำหรับการ สู ญ เ สี ย ในครั้งนี้ ด้านทรายก็เผยว่า "ขอบคุณมาก ก็อย่างที่ได้เห็นจนถึงตอนนี้ก็ยังงงๆ อยู่นิดหน่อย มันไม่ใช่เรื่องที่ตื่นมาแล้วหายเลย"

 

Sponsored Ad

 

    ทรายยังเผยถึงเหตุการณ์ก่อนที่คุณแม่จะเสียว่า ผลต่อเนื่องมาจากอาการ ป่ ว ย ของคุณแม่ ซึ่งเป็น "โ ร ค ส ม อ ง เ สื่ อ ม" แม่ของทรายเริ่มเป็นประมาณ 59-60 ปี มันค่อนข้างเร็ว แล้วทั้งหมดทั้งมวลมันขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองด้วย

    แต่คุณแม่ของทรายมีปัญหาเรื่องสุขภาพ เป็น โ ร ค ซึ ม เ ศ ร้ า ซึ่งเป็นมาตั้งแต่สาวแล้ว ดังนั้นทำให้กำลังใจในการดูแลตัวเองในการ ป่ ว ย น้อยลง ต้องดูแลควบคู่กันไป ซึ่งมันเป็นเรื่องยากมากๆ 

 

Sponsored Ad

 

หลายคนอาจจะไม่ค่อยได้ยินคำว่า โ ร ค ส ม อ ง เ สื่ อ ม จริงๆแล้วมันคือโรคอะไร?

    ทราย : "คือคนจะคุ้นกับ อั ล ไ ซ เ ม อ ร์ มากกว่า คือมันเป็นอาการ ส ม อ ง เ สื่ อ ม อย่างหนึ่ง แต่ ส ม อ ง เ สื่ อ ม ในที่นี่มันเกิดได้จากหลายสาเหตุ มีก้อน เ ส้ น โ ล หิ ต ใ น ส ม อ ง เกิดจากการไม่ดูแลตัวเอง หรือว่าใช้อะไรมาเป็นระยะเวลานาน จริงๆ แล้วหลายคนพออายุเยอะขึ้นมีอุปนิสัยอะไรที่แปลกไปก็อาจจะมีปัญหา เกิดจากตรงนี้ด้วย"

 

Sponsored Ad

 

แต่พอบวกกับอาการที่แม่เป็น โ ร ค ซึ ม เ ศ ร้ า มันก็เลยกลายเป็นว่าแทนที่จะกู้ร่างกายหรือสภาวะจิตใจให้แข็งแรงมันกลายเป็นว่าแย่ลงไป?

    ทราย : "มันก็ยิ่งแย่ลงไป เพราะว่าเขามีแนวโน้มอยาก ฆ่ า ตั ว ต า ย อยู่ตลอด ซึ่งพอถึงจุดหนึ่งเราต้องแอดมิทแม่เข้าศรีธัญญา ซึ่งเป็นเรื่องเป็นราวมากตอนนั้นว่าทำไมอย่างนั้น ทำไมอย่างนี้ แล้วเกี่ยวอะไร เอาแม่ไปทิ้งไว้ที่ โ ร ง พ ย า บ า ล บ้ า คือการโดนแม่โทร.บอกทุกวันว่าวันนี้เขาจะ ต า ย ยังไงมันแบบ ซึ่งในทางปฏิบัติมันก็ไม่ได้ เพราะเราเป็นหัวหน้าครอบครัว เราไม่สามารถไปนั่งอยู่เฉยๆ แล้วมี ย า หล่นมาจากฟ้าให้เรากินได้ เราก็ต้องออกมาทำมาหากิน แล้วมันก็ไม่ใช่งานที่แปลกอะไร"

 

Sponsored Ad

 

    "เพราะเราทำงานนี้มาตั้งแต่ 14 ปีแล้ว แม่ก็รู้ แม่เป็นคนดูคิวให้ วันหนึ่งเขามีปัญหาเรื่องความจำเขาดูคิวหรืออะไรให้เราไม่ได้ เขาก็รู้สึกว่าลูกหลุดมือออกไปเรื่อยๆ เหมือนกับเขาไม่มีความสำคัญกับเรามากขึ้น ซึ่งมันไม่จริงเลย มันไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว แต่ว่าเวลามันเปลี่ยนไป เราก็ต้องทำ แต่ด้วยความที่เขาเป็น ซึ ม เ ศ ร้ า บวกเข้าไปตรงนี้ คือเขาพูดอย่างนี้ทุกวันจนทรายต้องมานั่งเก็บ มี ด เก็บข้าวของทุกอย่างที่มันอาจจะเป็น อ า วุ ธ  ซึ่งมันยากมาก"

 

Sponsored Ad

 

ทรายอยากจะพูดอะไรกับคนที่เข้าใจทรายคลาดเคลื่อนไหม?

    ทราย : "คือแรกๆ น้อยใจ ทำไมทุกคนต้องมาจิก เอาอะไรหนักหนา คือชีวิตมันก็ยากมากแล้ว เราก็เหนื่อยมากแล้ว แต่ว่าพอมาถึงจุดหนึ่งก็รู้สึกว่าแค่คนไม่ได้อยู่ในภาวะเดียวกับเรา เขายังไม่ต้องตัดสินใจกับเรื่องแบบนี้ ยังไม่เคยต้องเลือก 

    มันมีทางเหลือน้อยเหลือเกิน มันมี 2 ทางเท่านั้น ไม่ได้อยากจะทำความเข้าใจอะไรมากขึ้นหรอก ทรายว่าหลังๆ ที่มีคนเข้าใจมากขึ้นบ้างก็ถือว่าดีแล้ว ซึ่งจริงๆ ไม่ต้องเข้าใจทรายเลยก็ได้ เพียงแต่ว่าในชีวิตของคนทุกคนพอถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจจริงๆ มันไม่ได้มีเวลาให้เรามาก"

 

Sponsored Ad

 


ถามถึงเรื่องที่หนิง ปณิตาโพสต์หน่อย ตอนนั้นพูดด้วยอารมณ์ไหน?

    ทราย : "มันตกใจเหมือนกัน คือถ้าเป็นคนที่โตๆ กว่าเราก็คือเขาเคยทำงานกับแม่แหละ เราจะรู้สึกว่าเขาคิดถึงแม่ แต่พอเป็นเป้ย เป็นหนิง เป็นอั้ม เป็นโอปอล์ เราจะรู้สึกว่าอยู่ๆ เรามีเพื่อนเป็นดารา ไม่อะ มันคือยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก คือทรายไม่ชอบใครใครต้องมาคอยเป็นห่วงเรา หรือว่าเอาเงื่อนไขของเราแบบวันนี้รีบนะ ทรายจะรีบกลับไปดูแม่ ไม่ดีอะ ทรายว่าไม่ควร"

แต่ชีวิตประจำวันทรายไม่เคยทำตัวเป็นดาราเลย?

Sponsored Ad

    ทราย : "ใช่ๆ มันก็เลยไม่ชินเป็นพวงหรีดจากดารา เขามีอะไรทำตั้งเยอะ อย่างแม่เป้ย เราก็ตามดูไอจี ลูกเขาน่ารัก เราก็ไม่เคยทำงานกับเป้ย เป้ยส่งมาตั้งแต่วันแรกๆ เรารู้สึกแบบว่าโอ้โห... รวมถึงคนที่ไปงาน ศ พ หลายๆ คน ไม่คิดว่าเขาจะมา ไม่ใช่คิดว่าเขาไม่มีน้ำใจ แต่คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เขาจะให้ความสนใจหรือสำคัญขนาดนั้น"


แม่ได้สั่งเสียอะไรไว้ไหม?

    ทราย : "ไม่มีอะไรเลย แต่แกก็เตรียมตัวมาก บ้านทรายพูดถึงเรื่องความ ต า ย เป็นปกติ แม่เขาก็เลือกรูป สั่งเสียว่าเอางานแบบนี้ งานไม่ต้องจัดเยอะ อย่าให้คนเห็นฉันเยอะ เพราะฉันไม่สวย สิ่งที่เขาสั่งไว้ เขาสั่งไว้ตอนที่เขายังแข็งแรงนี่แหละไม่ได้มาสั่งตอน ป่ ว ย "

วินาทีที่รู้ว่าแม่เสีย?

    ทราย : "วันนั้นจริงๆ ตอนเช้าจะลงไปเพื่อเช็ดตัว แล้วดูว่าพี่ที่เป็นพี่เลี้ยงแม่เขาจัดการนู้น นี่นั่น เสร็จหรือยัง เขาก็ขึ้นมาบอกก่อนว่าแม่ เสียแล้ว เราก็แบบเห้ย...จริงหรอ เขาไม่ได้เข้าขั้นตรีฑูตเขาก็นอนเฉยๆ "


สรุปคุณหมอวินิจฉัยว่า?

    ทราย : "ระบบในสมองมันล้มเหลว แล้วทุกอย่างมันก็หยุดทำงานไปเท่านั้นเอง"


ตอนรดน้ำ ศ พ บอกอะไรกับคุณแม่?

    ทราย : "คือแม่ก็สั่งไว้เวลารดไม่เอารดแบบที่เขารดกัน เอาเฉพาะให้ลูกๆ แค่นั้นพอ เอาจริงๆ ในหัวมันโล่งมาก เราพยายามนึกว่าแม่สั่งอะไรอีกหรือเปล่า แล้วนึกไม่ออก แต่ก็คิดว่าคงไม่มีแล้วมั้ง คนที่มาทำพิธีก็บอกว่าให้คุยกับคุณแม่นะ บอกให้คุณแม่ให้ไปไหว้พระนะ ในใจเราก็คิดนะว่าแม่ไม่ชอบไปวัด แม่จะยอมไหว้พระหรือเปล่า แต่คราวนี้แม่ต้องไหว้"


ถ้าแม่ฟังอยู่อยากบอกอะไรกับแม่?

    ทราย : "พี่ทรายโอเคเหมือนเดิมแหละ แต่ว่ามันก็แปลกๆ ทรายต้องทำอะไรหลายอย่างมากเลยตอนที่แม่ ป่ ว ย เราก็รู้อยู่แล้วว่าวันหนึ่งมันต้องจบด้วยอะไรแบบนี้ ลองทำอะไรหลายอย่าง ไปเที่ยวเอง แต่ว่ามันไม่คุ้น แล้วทรายก็คิดว่ามันต้องใช้เวลาปรับตัว ทรายคิดว่าทำได้แหละ แต่มันต้องใช้เวลา แต่ก็ไม่ได้อยากให้แม่เป็นห่วงอยู่ดี เพราะว่าแม่ไม่ได้เลี้ยงมาให้เขาเป็นห่วง แต่ว่ามันประหลาด หลังจากนี้เวลาไปเที่ยวหรือว่าไปทำอะไรคือทรายก็ไม่ต้องมาเล่าให้แม่ฟังแล้ว"

เรื่องหัวใจก็มีคนคุย แต่ทำไมไม่สามารถไปแนะนำกับคุณแม่ได้?

    ทราย : "เอาตั้งแต่เรื่องเพื่อนก่อน ตั้งแต่เด็กๆ แม่ทรายเขามีนโยบาย ไม่ให้ลูกไปนอนบ้านเพื่อน ไม่ให้เพื่อนมานอนบ้าน ไม่ต้องให้ใครมาส่ง ลูกฉันต้องดูแลตัวเองได้ ทำไมต้องมาส่ง เคยมีคนที่เหมือนจะจีบเรา แล้วมาส่ง แม่ก็เดินไปถามว่าทำไมต้องมาส่งทรายมีปัญหาอะไรหรอ คือแม่ทำวงแตกอยู่ตลอด เราก็ขำนะ คือไม่ได้รู้สึกอะไร เราก็จะบอกทุกคนที่เข้ามาคุยว่าแม่เป็นแบบนี้ทรายไม่สามารถเปลี่ยนเขาได้ เขาก็รู้ว่ามีคนคุย แต่เขาจะทำเป็นไม่รู้ จนกระทั่งวันหนึ่งเขายอม แล้วสุดท้ายพอเลิกรากันไป เขาก็จะบอกว่า เนี่ยเห็นไหม ฉันอุตส่าดีกับเขา เขาก็ยังเลิกกับแก เราก็เลยแบบไม่เอาแล้วนะอยู่กับแม่นี่แหละ"


เคยน้อยใจไหม แม่จะห้าวไปไหน?

    ทราย : "ทรายเคยถามเขาแบบแม่ไม่เคยคิดจะ ต า ย หรอ วันหนึ่งถ้าแม่ ต า ย แล้วยังไง แม่บอกก็ฉันฝึกมาแล้วทุกอย่างให้แกอยู่คนเดียวได้"

แสดงว่าแฟนคนล่าสุดของทรายยังไม่เคยแนะนำให้แม่รู้จัก?

    ทราย : "ไม่เคยเลย ก็คือด้วยเหตุผลทางอาการของแม่ เพราะว่าทรายไม่อยากให้เขาสับสน มันเป็นข้อมูลใหม่ที่บางทีคน ป่ ว ย มันจะกรองไม่ทัน เราพยายามให้ชีวิตเขาเป็นลูทีนไม่ใช่มีอะไรอยู่ๆ ก็โผล่มา ซึ่งทรายก็บอกเขาตรงๆ ว่ามันมีเหตุผลแบบนี้ๆ เขารับได้"


เขาเคยมีคุยเรื่องแต่งงานไหม?

    ทราย : "เคย แล้วทรายบอกว่าคงไม่แต่ง เพราะมันไม่ได้ต่างอะไรกับตอนที่อยู่กันทุกวันนี้ มันก็ดีอยู่แล้ว เพราะทรายไม่ได้คิดว่าจะมีลูก ทรายก็บอกเขาว่าถ้าไม่โอเคก็รีบเลยนะ รีบถอยเลยจะได้ไม่เสียเวลาชีวิตกันทั้งคู่ คือโรคที่ทรายเป็นแม่เป็น มันเป็นกรรมพันธุ์ ทรายไม่อยากให้ลูกมาวัดดวงกับสิ่งที่ทรายเจอมา"

    "ทรายว่าทรายไม่ได้เข้มแข็งขนาดแม่ที่จะรับมือกับการเลี้ยงลูกได้ คือตอนนั้นที่แม่เป็นเขาก็ไม่รู้หรอกว่าเขาจะเป็น เขามีลูกออกมา เขาก็ไม่ได้ตั้งใจหรอกว่าเขามีลูกทั้งๆ ที่เขา ป่ ว ย เขาก็ไม่รู้ว่าเขาจะ ป่ ว ย  วันหนึ่งพอแม่ ป่ ว ย เราเห็นความเหนื่อย ความต้องฮึบของเขา เขาก็พยายามดีที่สุด เท่าที่เขาทำได้ ทรายรู้ตัวว่าทรายไม่มีความพยายามขนาดนั้นแน่ๆ"

เหมือนพ่อแม่แฟนก็อยากให้มี?

    ทราย : "เป็นธรรมดา แต่ทรายก็ได้ทำลายความฝันของเขาไปด้วยคำพูด คือเหมือนพ่อแม่เขาเปรยๆ ว่าคนข้างบ้านเลี้ยงหลานน่ารักอะไรทำนองนี้ ทรายก็บอกว่าดีค่ะ แม่ก็ช่วยเขาเลี้ยงไปเลย เพราะว่าหนูไม่มี"

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ข้อมูลและภาพจาก คุยแซ่บShow

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ