"ลุงชูเกียรติ" ภารโรงหัวใจคุณครู แม้ต่ำต้อยยศศักดิ์ แต่จิตใจสูงส่ง เป็นแม่พิมพ์อย่างแท้จริง!

LIEKR:

"ความเป็นครูไม่ได้ถูกจำกัดแค่ว่าจะต้องมีใบปริญญาถึงจะสอนคนอื่นได้...ความเป็นครูอยู่ในจิตวิญญาณมากกว่า"

        ไม่ได้มีตำแหน่งครู แต่พวกเราก็เต็มใจเรียกท่านว่าครู “ลุงชูเกียรติ” ภารโรงหัวใจคุณครู รักงานศิลปะจนผู้ใหญ่เห็นความสามารถให้นำวิชามาสอนนร.11 ปีขัดเกลาจิตใจเด็กให้มีความอดทน แม้ต่ำต้อยยศศักดิ์แต่จิตใจสูงส่ง

        อาชีพ“ครู” ถือว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติ และมีศักดิ์ศรี ครูจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกศิษย์สมดังคำว่า “แม่พิมพ์” หรือ“พ่อพิมพ์” ของชาติ เปรียบครูคือเรือจ้างที่คอยรับส่งลูกศิษย์ให้ไปถึงยังฝั่งฝันเป้าหมายของชีวิต แต่กว่าจะมาเป็นครูสอนคนได้นั้น เส้นทางแสนยากลำบาก ส่วนใหญ่ต้องเรียนคณะครุศาสตร์ (หลักสูตร 5 ปี) และต้องไปสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเข้ารับราชการ แต่ความเป็นครูไม่ได้ถูกจำกัดแค่ว่าจะต้องมีใบปริญญาถึงจะสอนคนอื่นได้ ความเป็นครูอยู่ในจิตวิญญาณมากกว่า 

 

Sponsored Ad

 

        เช่นเดียวกับ “ชูเกียรติ เอื้อทวีสัมพันธ์” หรือลุงชูเกียรติ อายุ 57 ปี เป็นลูกจ้างประจำตำแหน่งช่างไม้ ระดับ ช 4 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 หน้าที่ที่ลุงชูเกียรติทำภาษาชาวบ้านเรียกว่า “นักการภารโรง” นั่นเอง แต่ภารโรงท่านนี้ได้ใช้ความสามารถส่วนตัวทางด้านงานศิลปะถ่ายทอดให้กับนักเรียนจนเป็นที่ยอมรับในสังคม จนเด็ก ๆ ต่างพากันเรียกว่า“ครู”อย่างสนิทใจ

 

Sponsored Ad

 

.

        “ลุงชูเกียรติ” บอกว่า เป็นนักการภารโรงครั้งแรกตั้งแต่ปี 2535 ขณะนั้นประจำอยู่ที่โรงเรียนชุมชนที่ 11 วัดสุวรรณประดิษฐ์ ต.ไผ่ขอดอน อ.เมืองพิษณุโลก กระทั่งปี 2539 ย้ายมาเป็นนักการภารโรงที่โรงเรียนบ้านแม่ระหัน ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก จวบจนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 26 ปี กิจวัตรประจำวันจะต้องมาโรงเรียนแต่เช้าตรู่ เพื่อมาดูแลความเรียบร้อยภายในโรงเรียน อาทิ เปิดห้องเรียนทุกห้อง ทำความสะอาดรอบอาคารเรียน ตัดหญ้า ฯลฯ

        “ส่วนตัวลุงเป็นคนชื่นชอบ และรักในงานศิลปะอยู่แล้ว ไม่ได้ไปร่ำเรียนวิชามาจากใครที่ไหน พยายามศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง จนปี 50 ผู้บริหารของโรงเรียนเห็นความสามารถหยิบยืนโอกาสให้นำความรู้ความสามารถมาช่วยสอนเด็กนักเรียนในโรงเรียนบ้านแม่ระหัน ที่มีเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 53 คน ใช้เวลาสอนในกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ เน้นทักษะการเรียนรู้ และตอบสนองความถนัดของผู้เรียนแต่ละคน” 

 

Sponsored Ad

 

.

        ภารโรงหัวใจคุณครู บอกต่อว่า ระยะแรกจะเน้นสอนวาดรูป-ระบายสี จนเด็กนักเรียนมีฝีมือเพิ่มขึ้นสามารถนำผลงานไปแสดงโชว์-ไปแข่งขันในงานศิลปหัตถกรรม ซึ่งนักเรียนสามารถคว้ารางวัลมาแล้ว ต่อมาเห็นว่างานศิลปะอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะเด็กนักเรียนบางคนอาจจะไม่ชอบศิลปะ จึงปรับเปลี่ยนรูปแบบการสอนเป็นงานจักสานไม้ไผ่ งานปั้นกระถางต้นไม้ งานดัดแปลงขวดน้ำเป็นแจกัน งานแทงหยวก รวมถึงสอนดนตรีไทย ทั้งขลุ่ย ระนาด กลอง ฉิ่ง เป็นต้น ทำให้เด็กนักเรียนที่มาเรียนกับลุงต่างเรียกคำนำหน้าว่า “ครูเกียรติ” ตอนแรกรู้สึกอึดอัดใจมาก เพราะเราเป็นแค่เพียงนักการภารโรง ไม่ได้เป็นข้าราชการครูจริง ๆ

 

Sponsored Ad

 

        ด..อนุรักษ์ ขวัญเนตร และ ..แพรพรรณ ช้างพินิจ ทั้งคู่อายุ 12 ขวบ กำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 บอกว่า “พวกเราทุกคน รู้สึกชื่นชอบวิชาศิลปะที่ครูเกียรติสอนให้เป็นอย่างมาก เพราะว่าได้ผ่อนคลายความเครียดจากการเรียนวิชาปกติ เช่น วิชาคณิตศาสตร์ที่ต้องใช้หลักการคำนวณ ครูเกียรติจะสอนวิชาศิลปะเพื่อให้มีสมาธิ และฝึกความอดทนไม่ได้สอนให้วาดภาพสวยงามเท่านั้น หากใครต้องการอยากเรียนวิชาศิลปะเพิ่มเติม ครูเกียรติก็จะนัดมาเรียนในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เด็กนักเรียนทุกคนในโรงเรียนจึงรักและเคารพครูเกียรติเหมือนครูผู้สอนคนอื่น ๆ เช่นกัน

 

Sponsored Ad

 

.

        นอกจากผลงานศิลปะที่นำไปแสดงตามงานต่าง ๆ เป็นที่ชื่นชอบของผู้พบเห็นแล้ว...มีครูอยู่ท่านหนึ่งถึงกับมาขอให้ให้ลุงชูเกียรติสอนวิชาแทงหยวกให้จนคล่องแคล่วฝีมือชำนาญ ก่อนจากกันครูคนดังกล่าวได้นำพวงมาลัยดอกมะลิเข้ามาไหว้คารวะแสดงความมีน้ำใจ และนับถือลุงชูเกียรติเปรียบเสมือนครูที่สั่งสอนลูกศิษย์...ในตอนนั้นลุงชูเกียรติไม่ขอรับไว้ เนื่องจากตัวเองเป็นแค่เพียงนักการภารโรง จนครูที่เป็นลูกศิษย์พูดขึ้นว่า “ทำไมจะเป็นครูไม่ได้ ในเมื่อลุงเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้วิชาแทงหยวกให้ ผมก็ต้องเรียกว่าครูเช่นกัน” สร้างความประทับใจให้กับลุงชูเกียรติเป็นอย่างมาก จนถึงทุกวันนี้แกยังเก็บพวงมาลัยเอาไว้ ถึงแม้จะเหี่ยวอับเฉาไปตามกาลเวลาก็ตาม แต่มันมีคุณค่าทางจิตใจอย่างมาก คนอย่างลุงภารโรงคนนี้ อยากบอกว่า ต่ำต้อยยศศักดิ์ แต่สูงส่งด้วยจิตใจจริง ๆ

 

Sponsored Ad

 

        ที่น่าชื่นใจ และยินดีมาก ๆ อีกอย่างคือ เรื่องราวความสามารถของนักการภารโรงหัวใจครูท่านนี้ทราบถึงนายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผวจ.พิษณุโลก เมื่อท่านรู้ว่าในพื้นที่มีคนทำความดีก็เรียกประชุมปรึกษาหารือร่วมกับผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 จัดพิธีมอบโล่ และเกียรติบัตรเชิดชูความดีแก่บุคคลผู้ทำประโยชน์ให้แก่องค์กรให้ทันที ทั้งนี้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับลุงชูเกียรติปฏิบัติหน้าที่ต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับครูได้นำแนวทางในการเรียนการสอนลูกศิษย์ให้เป็นคนดีในสังคมต่อไปด้วย.


ข้อมูลและภาพจาก dailynews

บทความที่คุณอาจสนใจ