บอกลาพุงป่อง ด้วยการกินผลไม้ 4 ชนิดนี้ อยากมีหน้าท้องแบนราบ ต้องลอง!

LIEKR:

รีบหามาทานเลยค่ะ!

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        สาวๆ ที่อ้วนควรดื่มน้ำอุ่นเยอะๆ เพื่อปรับปรุงฟังก์ชั่นการไหลเวียนของน้ำในร่างกายให้ดีขึ้นนอกจากนี้แล้วควรกินกล้วย 1-2 ลูกต่อวัน เพื่อช่วยขับถ่ายสารพิษออกจากร่างกาย แอปเปิ้ลก็เป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพของคุณ มันจะช่วยละลายไขมันของอาหารที่คุณกินเข้าไปได้

        หลายคนที่อ้วนต่างก็อยากจะลดน้ำหนัก โดยเฉพาะไขมันที่สะสมอยู่ที่หน้าท้อง ถ้าคุณทนทุกข์ทรมานจากอาการท้องผูกบ่อยครั้ง เราแนะนำว่าควรกินผลไม้เยอะๆ คุณก็จะสามารถบอกลาพุงได้เลย อีกอย่างกินอาหารที่มีไฟเบอร์สูงจะสามารถช่วยรักษาอาการท้องผูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะว่าอาการท้องผูกก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่มีพุงออกมา

 

Sponsored Ad

 

1. กล้วย


        หากคุณมีอาการท้องผูก คุณจะมีปัญหาพุงป่องแน่นอน เพราะการอุดกั้นของลำไส้ การไม่ขับถ่ายส่งผลให้เราพุงป่องแถมน้ำหนักไม่ลดอีกต่างหาก หากใครมีอาการท้องผูกบ่อย สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือแก้ไขอาการท้องผูกให้หายดี ปัญหาพุงป่องจะได้หายไป กล้วยอุดมไปด้วยโพแทสเซียมจะสามารถช่วยให้การทำงานของลำไส้ดีขึ้น และอุดมไปด้วยไฟเบอร์ซึ่งจะสามารถช่วยในการขับถ่ายและช่วยลดสารพิษจากร่างกาย นอกจากนี้ควรดื่มน้ำอุ่นเยอะๆ เพื่อปรับปรุงฟังก์ชั่นการไหลเวียนของน้ำในร่างกายให้ดีขึ้น เมื่อคุณขับอุจจาระและสารพิษที่สะสมในร่างกายของคุณออก คุณก็จะสามารถมีหน้าท้องแบนราบได้

 

Sponsored Ad

 

        กินกล้วย 1-2 ลูกต่อวันเพื่อช่วยขับถ่ายสารพิษออกจากร่างกาย กล้วยหนึ่งลูกหนักประมาณ 100 กรัมให้พลังงาน 87 แคลอรี่ เมื่อเทียบกับข้าวเปล่ามื้อหนึ่ง (ข้าวเปล่า 150 กรัมมี 220 แคลอรี่) ปริมาณแคลอรี่ของกล้วยมีประมาณครึ่งหนึ่งของข้าวเปล่า กล้วยจึงเป็นผลไม้ที่ดีสำหรับการลดอาการพุงป่อง

2. แอปเปิล

        หากไขมันที่อยู่หน้าท้องและเอวของคุณจับแล้วรู้สึกแข็งและเป็นก้อนๆ คุณควรลดความอ้วนโดยด่วน ถ้าอยากจะเผาผลาญไขมันให้ได้ผลดี คุณต้องรู้ก่อนว่าขั้นตอนการสลายไขมันต้องการอะไรบ้าง เพคตินเป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการเผาผลาญไขมัน และแอปเปิ้ลอุดมไปด้วยเพคติน ซึ่งเป็นผลไม้ลดความอ้วนที่กล่าวถึงบ่อยที่สุด ปริมาณแคลเซียมของแอปเปิ้ลนั้นเยอะกว่าผลไม้ทั่วไปแอปเปิ้ลที่มีความกรอบจะสามารถเพิ่มการเคี้ยว ช่วยลดความอยากอาหารและลดปริมาณแคลอรี่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไขมันได้

 

Sponsored Ad

 

        แอปเปิ้ล 100 กรัมให้พลังงาน 32 แคลอรี่ และปริมาณแคลอรี่ของแอปเปิ้ลเขียวจะต่ำกว่า สมองจะตรวจสอบระดับความอิ่มของเราตามจำนวนการเคี้ยว ดังนั้นเวลาเรากินแอปเปิ้ล การเคี้ยวหลายๆ ครั้งจะส่งสัญญาณไปยังสมองว่าเรากินอิ่มแล้ว กระเพาะก็จะหยุดการหลั่งน้ำย่อยจะทำให้เรารู้สึกว่าเราอิ่มแล้ว

        แอปเปิ้ลดีต่อสุขภาพและมีบทบาทในระบบย่อยอาหาร มันสามารถช่วยสลายไขมันในร่างกายได้ เวลาที่ดีที่สุดในการกินแอปเปิ้ลคือก่อนอาหารเช้า อย่าลืมนะไม่ควรกินอาหารที่เลี่ยนมาก

3. มะนาว

        หากการขับถ่ายของคุณเป็นปกติ แต่ใบหน้าและร่างกายมีสิวขึ้นเรื่อยๆ มันหมายความว่าฟังก์ชั่นการล้างพิษของร่างกายคุณไม่ค่อยดี เนื่องจากผนังด้านในของลำไส้มีสารพิษจำนวนมากตกค้าง และฟังก์ชั่นการล้างพิษของร่างกายนั้นอ่อนแอ แม้ว่าการขับถ่ายของคุณเป็นปกติแต่สารพิษนั้นไม่สามารถถูกขับออกจากร่างกายได้ หลังจากสารพิษเข้าสู่เส้นเลือดฝอยและระบบน้ำเหลือง จึงแสดงออกทางผิวหนัง

 

Sponsored Ad

 

        ะนาวเป็นผลไม้ที่ดีที่สุดสำหรับการล้างพิษ มะนาวมีบทบาทในการช่วยล้างพิษให้เซลล์และการเผาผลาญไขมันได้ และสามารถช่วยทำความสะอาดกระเพาะอาหารและลำไส้ และช่วยปรับปรุงการล้างสารพิษของลำไส้ให้ดีขึ้นได้ มะนาวไม่เพียงแต่ช่วยลดเอวลดหน้าท้องได้แล้วยังช่วยรักษาสิวอักเสบและรักษาแผลให้หายเร็วขึ้นได้

4. บลูเบอร์รี่

        หากคุณต้องการมีหน้าท้องเซ็กซี่และมีเสน่ห์ คุณสามารถกินบลูเบอร์รี่และแบล็กเบอร์รี่ได้ สารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในบลูเบอร์รี่จะสามารถละลายไขมันที่สะสมที่หน้าท้องได้ และการกินบลูเบอร์รี่ยังสามารถบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสได้อีก

 

Sponsored Ad

 

        จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่า เมนูอาหารที่อุดมไปด้วยบลูเบอร์รี่นั้นสามารถช่วยลดไขมันหน้าท้องได้เหมือนกัน บลูเบอร์รี่จะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและไฟเบอร์ ซึ่งจะสามารถช่วยปรับปรุงการย่อยอาหารของกระเพาะให้ดีขึ้นได้

4 วิธีบอกลาพุงป่อง ช่วยแก้อาการท้องผูก

        ไม่ว่าจะควบคุมอาหารอย่างไรหน้าท้องก็ยังคงป่องอยู่ดี ผู้หญิงหลายคนมีปัญหาอาการท้องผูกเรื้อรังสารพิษสะสมในร่างกายระยะยาว ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาทางผิวหนัง ปวดไหล่และคอ วิตกกังวล ท้องอืดและอาการไม่สบายต่างๆ  ควรแก้อาการท้องผูกยังไงดี

 

Sponsored Ad

 

1. กินเห็ด สาหร่ายทะเล

        ควรกินผัก เห็ด ผลไม้ ถั่ว สาหร่ายทะเล และมันฝรั่งหวานให้มากขึ้น อาหารที่อุดมด้วยเส้นใยอาหารจะสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหาร ทำให้การขับถ่ายดีขึ้น

2. ไม่ควบคุมอาหารมากเกินไป ดื่มน้ำสักแก้วหลังตื่นนอน

Sponsored Ad

        คนที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีการควบคุมอาหาร จะพบปัญหาการขับถ่ายไม่ดีและท้องผูกเป็นเวลานาน

        ถ้าคุณไม่กินอะไรเลย ไม่มีอาหารเข้าไปกระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้ ก็จะไม่สามารถขับของเสียในลำไส้ออกจากร่างกายได้ นอกจากการกินอาหารตามปกติแล้ว การดื่มน้ำให้เพียงพอก็สามารถช่วยปรับปรุงอาการท้องผูกได้ โดยเฉพาะเวลาตื่นนอนในตอนเช้า การดื่มน้ำสักแก้วจะช่วยกระตุ้นลำไส้ซึ่งสามารถแก้อาการท้องผูกและช่วยกระตุ้นการเผาผลาญของร่างกายได้

3. กินโยเกิร์ต

        แบคทีเรียที่ผลิตกรดแล็กทิกในโยเกิร์ต มีผลต่อการทำงานของลำไส้ จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยเวียนนาชี้ให้เห็นว่า กินโยเกิร์ต 200 กรัมต่อวัน จะสามารถเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้ นอกจากโยเกิร์ตแล้ว นัตโตะและกิมจิก็มีแบคทีเรียที่ผลิตกรดแล็กทิกเช่นกัน

4. ถ้ามีอาการปวดท้องก็รีบเข้าห้องน้ำโดยทันที

        หากคุณอั้นอุจจาระบ่อย จะส่งผลทำให้ระบบทางเดินอาหารแย่ลง เนื่องจากการทำงานและอยู่ข้างนอกเป็นประจำ ก็ควรฝึกเข้าห้องน้ำเป็นนิสัย ควรดื่มน้ำ 1 แก้วทุกเช้าและกินอาหารเช้า เพื่อกระตุ้นกานทำงานของกระเพาะอาหาร และควรจัดเวลาในการเข้าห้องน้ำก่อนจะออกจากบ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงอาการท้องผูกที่เกิดจากการอั้นอุจจาระเป็นเวลานาน

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR

บทความที่คุณอาจสนใจ