ฝากเตือนสติ ความสัมพันธ์แบบกาฝาก มันไม่ใช่ความรัก !

LIEKR:

ฝากเตือนสติ ความสัมพันธ์แบบกาฝาก มันไม่ใช่ความรัก !

    หลายๆคนมักเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความรักว่า “ถ้ารักกันแล้วเราต้องขาดกันไม่ได้” ตัวอย่างเช่น เมื่อเราเลิกกับแฟนไปแล้ว ไม่ว่าหญิงชายที่โดนแบบนี้มักจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ คิดถึงเค้าอยู่ตลอด คิดมาก บางคนถึงกับคิ ดสั้นเลยก็มี งั้นเราขอหยิบยกเรื่องราวของคนไข้สาวรายหนึ่งที่แฟนหนุ่มพึ่งจากไป เพื่อเป็นกรณีศึกษาเตือนสติ

“ฉันไม่อยากอยู่ต่อไปแล้ว ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขาค่ะหมอ” เธอรำพึงรำพันกับจิตแพทย์ ซึ่งเธอลืมไปแล้วว่าก่อนหน้าที่เธอจะมีเขาเธอก็ใช้ชีวิตอยู่มาได้ด้วยตัวคนเดียวตลอด แต่เมื่อขาดเขาไปกลับคิดว่าตัวเองจะอยู่ไม่ได้

 

Sponsored Ad

 

“ฉันรักเขามากค่ะ คุณหมอคงทราบใช่ไหมคะว่าหนูรักเขามากขนาดไหน” ทุกถ้อยคำที่พรั่งพรูออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลเอ่ออาบแก้ม จิตแพทย์ยื่นกระดาษทิชชูเช็ดน้ำตาเธอจนหมดกล่อง

“สงสัยคุณจะเข้าใจผิดแล้วแหละครับ คุณผู้หญิง คุณไม่ได้รักแฟนคุณเลยสักนิด” จิตแพทย์เอ่ยขึ้น

 

Sponsored Ad

 

“คุณหมอพูดแบบนี้ได้อย่างไรค่ะ ก็ฉันพึ่งจะพูดไปว่าขาดเขาไม่ได้ ถ้าขาดเขาแล้วหนูก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป” เธอแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน

จิตแพทย์ยกมือขึ้นปรามเธอพร้อมอธิบาย “สิ่งที่คุณพูดกับหมอมาทั้งหมดมันไม่ได้เรียกว่าความรักหรอกครับ ความสัมพันธ์ของคุณกับเขาเรียกว่า ความสัมพันธ์แบบกาฝาก ตราบใดที่คุณยังต้องพึ่งใครสักคนเพื่อความอยู่รอดของคุณ คุณก็ทำตัวเหมือนต้องมีเขาตลอดเวลา มันทำให้ชีวิตของคุณไม่มีทางเลือกและขาดอิสระภาพ คุณลองถามตัวคุณเองว่ามันเป็นความรักหรือแค่ความสัมพันธ์กาฝากกันแน่”

 

Sponsored Ad

 

คนไข้สาวอึ้งไปชั่วขณะ เหมือนว่าหมอต้องการซ้ำเติมเธอหรืออย่างไร

    “ความรักที่แท้จริงต้องมีอิสรภาพ…คนสองคนจะรักกันได้ก็ต่อเมื่อเขาทั้งสอง สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามลำพังอย่างไม่เป็นทุกข์ แต่เขาทั้งสองก็เลือกที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน เพื่อความสุขที่มากขึ้น”

 

Sponsored Ad

 

หลังจากจิตแพทย์พูดจบ คนไข้สาวเริ่มดวงตาเห็นธรรม รอยยิ้มเริ่มปรากฎขึ้นที่มุมปาก

    “คำพูดของคุณหมอเปรียบเสมือนแสงตะวัน ที่สาดส่องทะลุทำลายกำแพงหมอก บัดนี้ดิฉันได้เห็นแล้วซึ่งสัจธรรม ”

แนวคิดเรื่อง ภาวะพึ่งพิง หรือ ความสัมพันธ์แบบกาฝาก เป็นภาวะที่เราไม่สามารถดำเนินชีวิต โดยปราศจากการดูแลเอาใจใส่จากบุคคลอื่นได้

 

Sponsored Ad

 

แต่ถ้าคุณถึงขั้น “ขาดเขาไม่ได้ ” จงอย่าเอาคำว่า “รักเขามากเหลือเกิน ” มาลวงหลอกใจตัวเอง ยิ่งต้องถึงขั้นคิ ดสั้นเลย นั่นยิ่งแสดงว่า “แม้แต่ตัวเอง ก็ยังไม่รัก”

หลายคนคิดว่าถ้าฉันไม่อยู่แล้ว จะทำให้เขารู้สึกผิดกับการกระทำของเขาที่ทิ้งเราไป คิดแบบนี้ ส่วนใหญ่ไร้ค่า

    ปัจจุบันผู้หญิงเรามีการศึกษา มีการงาน และ ความสามารถไม่แพ้ผู้ชาย ไม่จำเป็นต้องอาศัยผู้ชายเป็นผู้นำของชีวิตเหมือนในสมัยก่อน…การอยู่เป็นโสดหรือเลิกกับคนรักไป ไม่มีผลถึงกับทำให้ใช้ชีวิตไม่ได้

    ผู้หญิงทั้งหลายจึงสามารถใช้ชีวิตด้วยตนเองได้อย่างมีความสุข และภาคภูมิใจ ในเกียรติของผู้หญิง และ หากได้พบชายใดที่เราเห็นว่า ทำให้ชีวิตเรามีความสุขมากขึ้นและดีขึ้น กว่าการอยู่คนเดียว คุณก็อยู่ในฐานะที่มีโอกาสเลือก… ไม่ใช่จำเป็นต้องเลือก ไม่มีทางเลือก หรือ จำใจเลือกเขามาเป็นคู่ชีวิต จำไว้ว่า หากมีชีวิตคู่แล้วต้องส่งเสริมกันและกันให้ดีขึ้น ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพึ่งพาอาศัยอีกฝ่ายอยู่ตลอดไป

ข้อมูลและภาพจาก bitcoretech

บทความที่คุณอาจสนใจ