เปิดชีวิตจริง! 2 พี่น้องนางเอกเชื้อเจ้า ทายาท "เจ้าผู้ครองนครน่าน" จากปากพี่ชายแท้ๆ!

LIEKR:

ติดตามมาทั้งคุณเชอรี่ และคุณปูเป้เลยค่ะ เพิ่งจะรู้ว่ามีเชื้อเจ้า!?

        เรียกได้ว่าพวกเขาเคยสร้างชื่อเสียงในวงการบันเทิง จนกลายเป็น 2 พี่น้องนางเอกที่ได้รับความนิยมในยุครุ่งเรืองของกิจการเอนเตอร์เทนเมนต์ย้อนไปเมื่อปี 1990 จากวันนั้นจนวันนี้กว่า 30 ปีในวงการบันเทิง "เชอรี่" เข็มอัปสร สิริสุขะ และ "ปูเป้" รามาวดี สิริสุขะ กับเรื่องจริงจากปากพี่ชายแท้ๆ พ.ต.อ.ทรงโปรด สิริสุขะ รองผบก.ตม.3 จะมาเปิดเผย...

        หลังจากทำให้โลกโซเชียลต้องฮือฮา เพราะครอบครัวของพวกเขามีเชื้อเจ้าโดยสายเลือดสืบทอดมาทางคุณแม่ หรือชื่อเต็มว่า เจ้านิรมิต สิริสุขะ (มหาวงศนันท์) และเป็นอดีต ส.ส. จังหวัดน่านหลายสมัยเมื่อสิบกว่าปีก่อน "เจ้านิรมิต สิริสุขะ" เป็นธิดาของเจ้าคำนพ มหาวงศนันท์ และเจ้าบุญตุ้ม มหาวงศนันท์ (สกุลเดิม ณ น่าน) เจ้าบิดาของเจ้าบุญตุ้ม (คุณทวดของเชอรี่) คือ เจ้าอุปราชสิทธิสาร ณ น่าน เป็นโอรสในเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เจ้าผู้ครองนครน่านองค์ที่ 62 และเจ้าคำนพ (คุณตาของเชอรี่) นั้นเป็นหลาน เจ้าหลวงมหาวงค์ เจ้าผู้ครองนครน่านองค์ที่ 61 ครอบครัวของเขาจึง สืบเชื้อสายมาจากเจ้านายฝ่ายเหนือโดยตรง

 

Sponsored Ad

 

        โลกโซเชียลและสื่อต่างๆ นำข้อมูลตีแผ่เรื่องที่มาครอบครัว 

        "อันนี้ไม่ทราบเลย เพราะผมเองก็แทบไม่เคยไปให้ข้อมูลเรื่องลึกๆเกี่ยวกับครอบครัวที่ไหน ส่วนที่ลงสกู๊ปข้อมูลแล้วมีภาพเชอรี่ ก็เป็นการนำเรื่องราวข้อมูลมาบอกเล่าอีกทอดหนึ่ง แต่รูปภาพน่าจะเอามาจากไอจีหรือเฟชบุ๊ก เพราะเชอรี่เขาเล่นโซเชียลมีเดียบ้าง สำหรับข้อมูลที่ปรากฏออกมาก็เป็นเรื่องจริงทั้งหมดครับ แต่ครอบครัวเราไม่ได้ตั้งใจจะให้ใครเอามานำเสนอ กลัวคนอื่นจะมองว่าเราแอบอ้างรึเปล่า และที่สำคัญมันเป็นเรื่องนานมาแล้วครับ ส่วนตัวผมเองและน้องๆ ก็เป็นประชาชนธรรมดาเหมือนคนอื่นๆ จึงคิดไปเองว่า ไม่น่าจะมีความจำเป็นมากนักที่ต้องบอกให้ทราบ ส่วนผู้ที่สนใจประวัติความเป็นมาครอบครัวเรา ผมขอขอบพระคุณครับ " 

 

Sponsored Ad

 

เจ้านิรมิต สิริสุขะ

        ทั้งนี้ ยอมรับว่า ภายหลังมีการตีแผ่เรื่องราวออกไป ครอบครัวก็กลับมาอยู่ในกระแสสังคมอีกครั้ง ใจนึงก็รู้สึกดีเพราะหลายๆ คนไม่ลืมน้องสาวทั้งสองคน แต่อีกใจนึงก็รู้สึกว่า ตัวเราเองเป็นตำรวจของประชาชน รับใช้ประชาชน ไม่ใช่ดารานักแสดงเหมือนน้อง จึงไม่ต้องการจะเป็นกระแสไปด้วย 

        "ตัวผมเองก็ภูมิใจมากที่มีบรรพบุรุษ สืบเชื้อสาย แต่ทุกวันนี้ผมพยายามจะสร้างความภาคภูมิใจที่เกิดจากตัวเอง นั้นคือการเป็นตำรวจรับใช้ประเทศชาติ รับใช้สังคม นี่คือสิ่งที่ประชาชนจับต้องได้และเห็นผลจริงที่สุด"

 

Sponsored Ad

 


        "เชอรี่" หนีไปนั่งวิปัสสนาบ่อย ชอบศึกษาทางธรรม สนใจสิ่งแวดล้อม 

        "รี่เป็นน้องที่มีหลายบุคลิก และมีความแตกต่างจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อก่อนเป็นอย่างไรเดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง สมัยวัยรุ่นรี่จะใจร้อนนะ ไปไหนไปกัน เที่ยวกับผม 2 คนก็บ่อย รี่จะมีดริงก์ไวน์บ้างตามประสาวัยรุ่นชนแก้วพูดคุยปรึกษากันตามประสาพี่น้อง เด็กๆ หลายเรื่องเขาจะไม่ค่อยลงรอยกับเป้ ทะเลาะบ่อย ผมก็คอยห้ามแต่ห้ามไม่ได้เพราะตอนนั้นรี่แรงส์มาก บางครั้งก็รู้สึกกลัวน้องตัวเอง (555) แต่พอโตมาก็ดีขึ้นมาก ที่สำคัญเขายังโสดมาจนวันนี้นะ" 

 

Sponsored Ad

 

        เชอรี่ เป็นคนมีความเด็ดขาดทางด้านความคิด และเอาตัวเองรอด ดูแลตัวเองได้ดี การที่เขาอยู่เป็นโสดใช้ชีวิตคนเดียวจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสมกับเค้ามากที่สุด 

        "รี่เลิกเที่ยว เลิกจิบไวน์ ไม่สนใจอะไรที่เป็นเรื่องเอนเตอร์เทน เขาจะหาความสุขใส่ตัวเองโดยการเข้าวัดฟังธรรม และนั่งวิปัสสนา บางครั้งหายไป 20 วัน เขามีความสุขกับการใช้ชีวิตคนเดียวและมีความเชื่อว่าเกิดคนเดียวตายคนเดียว ดังนั้นเขาเตรียมพร้อมที่จะหมดลมหายใจด้วยการสร้างบุญกุศลให้ตัวเอง ชอบนุ่งขาวห่มขาวและมีความคิดว่าในอนาคตจะบวชไม่สึก แต่เร็วๆ นี้เขาจะเดินทางไปประเทศอังกฤษ เพื่อเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ด้านสิ่งแวดล้อม เขาชอบมาก รักษ์ป่า ชอบดูแลสิ่งแวดล้อม"

 

Sponsored Ad

 

        เรื่องราวของเชอรี่ในอดีตกับปัจจุบันมัน เปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคนพลิกบทบาทยิ่งกว่าในละครยุค 90 แต่การดำเนินชีวิตของเขาทุกวันนี้สามารถเป็นแบบอย่างให้ผู้หญิงยุคใหม่ที่ต้องการจะใช้ชีวิตคนเดียว ผู้หญิงเก่งต้องมีความมั่นใจที่จะใช้ชีวิตคนเดียวได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข จึงไม่รู้สึกห่วงถ้าน้องไม่ได้แต่งงานหรือมีครอบครัว  

 

Sponsored Ad

 

        "ปูเป้" หลังแต่งงานมีความรับผิดชอบมากขึ้น ชีวิตผูกติดกับลูกทั้ง 2  

        "เป้จะเป็นคนติ๊งต๊อง และค่อนข้างอ่อนแอกว่าเชอรี่ มีความคิดสวยๆงามๆ สโลไลฟ์ หวานๆ และแต่งงานมีครอบครัวไปก่อนใครเพื่อน ตอนนี้มีลูกแล้ว 2 คน ส่วนสามีเป็นข้าราชการพลเรือน หลังแต่งงานจะไม่ค่อยมีใครเห็นเป้ในวงการบันเทิงเลย เพราะเค้าทุ่มเททุกอย่างให้ลูกๆทั้งหมด การที่เค้ามีครอบครัวทำให้เค้าโตขึ้น รู้จักเข้าใจมุมมองโลกที่ไม่มันไม่ได้สวยงามบ้าง โดยส่วนตัวถ้าถามว่า ในฐานะที่เราเป็นพี่ชาย เราห่วงใครที่สุด แน่นอนว่าห่วงปูเป้มากกว่าเชอรี่" 

Sponsored Ad

        นอกจากปูเป้จะเป็นแม่บ้านดูแลสามีและลูกๆ ยังมีธุรกิจส่วนตัวที่ทำร่วมกับคนในครอบครัว ซึ่งก็ไปได้สวย จึงแทบจะเรียกได้ว่า เป้ไม่ได้เข้าไปแตะวงการบันเทิงอีกเลย

        "สมัยผมเป็นนักเรียนนายร้อย ผมจะรู้สึกหวงน้องๆ มาก เพราะตอนนั้นน้องเข้าวงการบันเทิงแล้ว รุ่นน้องที่เรียนตำรวจทหารก็อยากจะมาจีบ เยอะมาก ไม่ใช่แค่คนสองคน ซึ่งผมเองก็ยอมรับว่าไม่ค่อยโอเค ใครจะมาจีบน้องโดนจวกก่อนเลย แต่ผมก็ให้จีบนะ ไม่ได้กีดกัน คุยได้จีบได้ แต่สุดท้ายแล้ว น้องทั้ง 2 คนไม่มีใครคบตำรวจทหารเป็นแฟน ผมก็ไม่ทราบนะว่าทำไม อาจจะไม่ใช้สเปก หรือไม่ชอบคนในเครื่องแบบ" 

.

        ตั้งใจเกิดมาเป็นตำรวจ เรื่องวงการบันเทิงไม่สนใจสักนิด 

        "ไม่เอาเลย ผมไม่ชอบเข้าวงการ มันไม่ใช่ผม ตั้งใจไว้ตั้งแต่เด็กว่าโตขึ้นมาอยากเป็นตำรวจ ระหว่างทางอาจมีบ้างไปสัมภาษณ์ก๊อกๆ แก๊กๆ น้องลากไปก็ไป แต่ให้ทำเป็นเรื่องเป็นราวผมปฏิเสธไปบ่อย ยิ่งสมัยที่รี่กับเป้เขาเป็นดาราดัง ทางค่ายเขาก็มาชวนผมไปเป็นดารา เขาบอกว่าเป็นตำรวจเงินเดือนน้อยก้าวหน้ายาก ให้ลาออกมาเป็นดาราดีกว่า แต่ผมไม่เคยแม้แต่จะเก็บมาคิดทบทวน ผมรักอาชีพตำรวจของผม และจะทำให้ดีที่สุดจนเกษียณอายุราชการ"

        หน้างานหลักตอนนี้ดูแลด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ได้รับมอบหมาย สแกนคนเข้าออกประเทศไทย เปรียบเสมือนเป็นด่านแรกของบ้านเมืองเรา การจะคัดคนเข้ามาเที่ยว หรือเข้ามาทำธุระใดๆ ก็แล้วแต่ ต้องรอบคอบหากพลาดผิดไปอาจเกิดปัญหาบานปลาย รวมไปถึงดูแลนักท่องเที่ยวให้ความช่วยเหลือเมื่อเค้ามาร้องขอ รวมไปถึงหน้าที่ๆละเอียดยิบย่อยอีกมากมายที่เราต้องรับผิดชอบให้ดีที่สุด

        "ส่วนเรื่องครอบครัว ผมแต่งงานมีลูกแล้ว 2 คน ภรรยาผมก็น่ารัก เป็นลูกนายทหาร มีความเข้าใจในระบบงานตำรวจที่ไม่ค่อยจะมีเวลาให้ครอบครัวมากนัก แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มีเวลาทุกนาทีแน่นอนว่าผมยกให้ภรรยากับลูกทั้งหมด ไม่เคยคิดที่จะหันไปสนใจหรือให้ความสำคัญกับใครมากกว่า" 

.

        การที่กระแสของเชอรี่ กลับมามีบทบาทในสังคมอีกครั้ง ก็อยากจะให้เป็นเรื่องที่ส่งเสริมสังคม ทำเพื่อประชาชนแบบจับต้องได้ ทำประโยชน์ให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะตัวเขาเองชอบเกี่ยวกับป่าไม้สิ่งแวดล้อม เรื่องนี้ผมเห็นด้วยมาก และอยากให้น้องไปให้สุดก่อนที่จะตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม พ.ต.อ.ทรงโปรด สิริสุขะ กล่าวทิ้งท้าย 

ข้อมูลและภาพจาก thairath

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ