เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า หน้าหนาวเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับรับประทาน "เผือก" 

        "เผือก" มีชื่อเรียกทางสากลว่า ทาโร มีรสหวานและกลิ่นหอม อุดมไปด้วยแป้งและเส้นใยอาหาร เหมาะสำหรับผู้เป็นโรคกระเพาะอาหารและผู้ที่มีสุขภาพร่างกายที่อ่อนแอ

        แพทย์แผนจีนเชื่อว่า เผือกเป็นอาหารที่ช่วยบำรุงลำไส้ แก้อาการท้องเสีย อีกทั้งยังช่วยบำรุงร่างกายในเรื่องของการย่อยอาหาร ป้องกันโรคหัวใจ ลดความดันโลหิต ลดน้ำตาลในเลือดและความเสี่ยงของการเป็นเบาหวาน บำรุงสายตา ที่สำคัญยังเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายและบำรุงระบบประสาทได้อีกด้วย

ประโยชน์ของการรับประทานเผือกมีอะไรบ้าง
1) ช่วยบำรุงลำไส้และกระเพาะอาหาร
        เผือกมีฤทธิ์เป็นกลาง เวลามีอาการไม่อยากอาหารและท้องอืด แนะนำให้ทานเผือกดู เพราะเผือกอุดมไปด้วยซาโปนินมากมาย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผนังลำไส้และช่วยปรับระบบการย่อยอาหารให้คงที่นั่นเอง

2) ช่วยลดความดันโลหิต
        เผือกอุดมไปด้วยโพแทสเซียมมากมาย สารประเภทนี้สามารถควบคุมสมดุลอิเล็กโตรไลต์ของร่างกายได้อย่างดี และช่วยให้เราขจัดโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกาย สำหรับผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูง การทานเผือกจะสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้

3) ช่วยบำรุงกำลังให้ร่างกาย
        เผือกมีสรรพคุณใช้บำรุงกำลังสำหรับผู้ที่ป่วย ผู้ที่ร่างกายอ่อนแรง เผือกจะช่วยบำรุงธาตุ บำรุงกำลัง ทำให้มีแรง ช่วยฟื้นฟูร่างกาย แถมยังช่วยลดไข้หวัดได้ดี

4) ช่วยบำรุงผิวพรรณ

        เผือกอุดมไปด้วยวิตามินบีมากมาย ไม่ว่าจะนำมาต้มหรือทำเป็นขนมทาน ต่างมีประโยชน์ต่อผิวพรรณ ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื่นและช่วยต่อต้านริ้วรอยได้เป็นอย่างดี

5) ช่วยป้องกันฟันผุ

        เผือกประกอบด้วยสารอาหารหลากหลายอาทิ เช่น โปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็กโพแทสเซียม แมกนีเซียม โซเดียม วิตามินเอ และสารอื่นๆ เนื่องจากเผือกมีฟอสฟอรัสสูงมาก จึงช่วยป้องกันฟันผุ นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงฟันและกระดูกให้แข็งแรงอีกด้วย

6) ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน

        การทานเผือกจะสามารถช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ทำให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง ไม่ติดเชื้อโรคหรือแบคทีเรียได้ง่าย

ทานเผือกยังไงจะได้คุณค่ามากที่สุด
        เผือกมีสารที่เป็นแป้งสูง แนะนำให้นำไปนึ่งแล้วทานจะดีกว่า นอกจากจะได้คุณค่าทางโภชนาการโดยตรงแล้ว ยังสามารถช่วยบำรุงลำไส้ ลดความอ้วนได้

เนื้อเผือกตุ๋น

วัตถุดิบ : 

        - เนื้อวัว 300 กรัม 

        - เผือก 500 กรัม 

        - เครื่องปรุงรส

วิธีทำ : 

        ล้างเนื้อและเผือกให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นๆ ใส่น้ำลงไปในหม้อ ใส่เนื้อตามลงไป เปิดไฟต้มจนน้ำเดือดแล้วเบาไฟพอปานกลาง ต้มจนเนื้อเกือบสุกแล้วใส่เครื่องปรุงรสลงไป จากนั้นใส่เผือกลงไปตุ๋นจนเนื้อเปื่อยก็เป็นอันเสร็จ
ประสิทธิภาพ : 

        ช่วยแก้อาการไม่อยากอาหาร และช่วยบำรุงผิวพรรณได้อย่างดี

แมงกะพรุนกับเผือก

วัตถุดิบ : 

        - เผือก 3000 กรัม 

        - แมงกะพรุน 300 กรัม (ล้างน้ำเกลือแล้ว)

        - แห้ว 300 กรัม
วิธีทำ : 

        เผือกตากแห้งและบดเป็นผง นำแมงกะพรุนและแห้วไปต้มจนเปื่อย กรองน้ำออกมาผสมกับผงเผือก แล้วปั้นผงเผือกเป็นลูกกลมๆ ที่มีขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียว จากนั้นนำไปชงน้ำร้อนกินวันละ 3 ครั้ง

ประสิทธิภาพ : 

        ช่วยบำรุงลำไส้ ป้องกันท้องผูก เพราะเผือกมีสรรพคุณที่ช่วยในการย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี

 น้ำซุปซี่โครงหมูกับเผือก

วัตถุดิบ : 

        - ซี่โครงหมู 300 กรัม 

        - เผือก 600 กรัม 

        - น้ำซุปข้นจำนวน 2000 มล. 

        - สุราปรุงอาหาร
วิธีทำ : 

        ซี่โครงหมูหั่นเป็นชิ้น ใส่จาน ใส่สุราปรุงอาหารและเกลือลงไปเล็กน้อย หมักไว้ 20 นาที หั่นเผือกเป็นชิ้นๆ นำซี่โครงหมูและเผือกไปทอดจนออกเหลือง จากนั้นนำไปนึ่งเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ต้มน้ำซุปให้เดือด ใส่ซี่โครงหมูและเผือกที่ทอดแล้วลงไปก็เป็นอันเสร็จ
ประสิทธิภาพ : 

        ช่วยแก้อาการไม่อยากอาหาร ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR