ชีวิตเปลี่ยน เดินไม่ได้ แฟนนอกใจ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก "กรมสมเด็จพระเทพฯ" กลับมาเรียนอีกครั้ง

LIEKR:

พอเดินไม่ได้ แฟนก็มีหญิงอื่น..แต่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก “กรมสมเด็จพระเทพฯ” กลับมาต่อชีวิตอีกครั้ง

    หากใครที่กำลังท้อ หมดหวัง อยากให้ท่านได้อ่านเรื่องราวของเด็กสาวหัวใจแกร่งคนนี้ แม้พิการนั่งวิลแชร์ แต่สามารถคว้าฝัน เรียนจนจบพยาบาล และทำงานเป็นพยาบาลวิชาชีพที่ตัวเองรักได้อย่างเต็มภาคภูมิ แต่กว่าที่เธอกจะผ่านมาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

    (อ่านเพิ่มเติม : "อุ บั ติ เ ห ตุ" เปลี่ยนชีวิตแต่ไม่เปลี่ยนฝัน บันทึกจาก "ยิว" พย าบาลผู้ไม่ยอมแพ้ )

 

Sponsored Ad

 

    โดยล่าสุดเธอได้โพสต์ข้อความลงบนเพจเฟซบุ๊กชื่อว่า บันทึกจากวีลแชร์ เล่าถึงเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมดของเธอ รวมทั้งได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากกรมสมเด็จพระเทพฯให้เธอได้กลับมาเรียนในวิชาชีพที่รักอีกครั้ง "วิชาชีพพย าบาล" ข้อความทั้งหมดระบุไว้ว่า ...

    กว่าจะเป็นกรรณิการ์

    ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่เกิดมาปกติครบ 32 ประการ

    ฉันใช้ชีวิตปกติแบบคนทั่วไป 

    ไม่มีอะไรขาดตก บ ก พ ร่ อ ง หรือมีความ ลำ บ า ก

    แต่.....เมื่อฉันอายุ 23 บริบูรณ์

    และฉันกำลังจะเรียนจบ..............!!!!

 

Sponsored Ad

 

    เหตุการณ์ที่ฉันไม่ได้คาดฝันมาก่อน

    เหตุการณ์ที่นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงตัวฉันครั้งยิ่งใหญ่

    ฉัน......ป ร ะ ส บ อุ บั ติ  เ ห ตุ......T_T

    ใช่.........วันนั้น ร ถ ช น และสิ่งที่ตามมาคือ

 

Sponsored Ad

 

    ร่างกายของฉันตั้งแต่ใต้ ร า ว น ม ลงมาไม่มีความรู้สึก

    การประมวลผลร่างกายของนักศึกษาพย าบาลปี 4 

    ที่อีก 1 เดือนจะเรียนจบและเป็นพยาบ าลเต็มตัว

    ในสมองคิดขึ้นมาได้ทันทีว่า................

    ฉันกำลัง บ า ด เ จ็ บ ห นั ก และกำลังคาบเกี่ยวกับคำว่า

    จะสามารถกลับมาเดินได้ตามปกติ หรืออาจจะเดินไม่ได้เลย

    สิ่งเดียวทีต้องการวันนั้น ฉันแค่รอเพื่อทำการผ่าตัดให้เร็วที่สุด

    เรื่องอื่นค่อยคุยกันที่หลัง......

    ฉันยิ้มให้ทุกคนและบอกว่า 

    ฉันไม่เป็นไรและหลังจาก ออกมาจากห้อง ผ่ า ตั ด ทุกอย่างจะดีขึ้น

 

Sponsored Ad

 

    ฉันยิ้มให้กับทุกคนแล้วบอกทุกคนว่าอย่ า ร้ อ ง ไ ห้ 

    เพราะฉันเป็นคน ป่ ว ย ฉันยังไม่ ร้ อ ง ไ ห้

    ฉันยิ้มทุกครั้งที่มีคนอยู่ด้วย ทำตัวเองให้ปกติที่สุด

    เพราะถ้าฉันแสดงออกว่าฉัน อ่ อ น แ อ เมื่อไหร่

    นั่นแปลว่า ครอบครัวของฉันจะเป็น กั ง ว ล

    ฉันประเมินตัวเองหลัง ผ่ า ตั ด 

    ฉันรู้ดีในใจว่าฉันต้องทำกายภาพอีกยาวนาน

    และก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ร่างกายฉันถึงจะฟื้นขึ้นมาได้

    ฉันรู้ดีว่าฉันกำลังจะเป็น ผู้ ป่ ว ย เ รื้ อ รั ง

    และต้องมีคนค่อยดูแลฉันอย่างใกล้ชิด

    ความกังวลที่ตามมากจากการที่คิดว่าอาจจะเดินไม่ได้

 

Sponsored Ad

 

    ความกังวลใจที่มันมากกว่า คือ “ฉันอาจไม่ได้เป็นพย าบาล”

    สิ่งที่น่ากลัว สิ่งที่ฉันต้องเก็บไว้ และสิ่งที่ฉันต้องฝืนยิ้ม

    ฉันทำแบบนั้นซ้ำ ๆ ฝืนยิ้มทั้ง ๆ ที่ใจฉันมันกำลังเศร้า

    รอยยิ้มของฉันตอนนั้นฉันยิ้มด้วยนัยตาที่ฉัน เ ศ ร้ า ห ม อ ง

    จนแฟนคนที่เสียไปพูดกับฉันว่า

    “อยากร้อง ก็ร้องมันออกมา ตัวเองไม่ต้องทำตัวเข้มแข็งตลอดเวลาก็ได้ เค้ารู้ว่าตัวไม่อยากอ่อนแอให้ใครเห็น”

    ฉันได้แค่ยิ้มกลับไปแล้วไม่พูดอะไรเลย

    การรักษาตัวที่โรงพย าบาลนครพิงค์เป็นเวลา 2 เดือนครึ่ง

 

Sponsored Ad

 

    พี่นักกายภาพ นักกิจกรรม บำ บั ด ทำหน้าที่อย่างเต็มที่

    เพื่อให้ร่างกายฉันพย าย ามฟื้นขึ้นมา 

    แต่เวลา 2 เดือนครึ่งที่ฉันรักษาตัวที่นั่น 

    ฉันแค่กระดิกนิ้วเท้าข้างขวาได้เท่านั่น

    ถึงเวลาต้องกลับมา พั ก ฟื้ น ที่รักษาตัวอยู่ที่บ้าน

    สิ่งที่ ร้ า ย แ ร ง ที่สุดในชีวิตก็เกิดขึ้น

    ระบบทางบ้านร่วนไปหมด ปัญหาหลาย ๆ อย่างเริ่มรุมเร้า

    เพราะฉันต้องมีคนค่อยดูแล 24 ชั่วโมง

    แต่ปัญหาคือพ่อแม่ฉันแยกทางกัน 

    และก็มีหน้าที่การงานต้องรับผิดชอบไม่สามารถอยู่ดูแลฉันได้

Sponsored Ad

    ต้องพึ่งแฟนน้องชายที่มาค่อยดูแล อยู่กับป้าที่บ้าน

    ฉันได้แค่นอนอยู่บนเตียง ที่นาน ๆ ครั้งฉันจะ ต ะ โ ก น ขอคนอื่นมาพลิกตัวให้

    เพราะฉันทั้งเกรงใจ และไม่อยากทำให้คนอื่น ลำ บ า ก

    ตอนนั้นฉันกำลังเริ่มเข้าสู่ภาวะ ซึ ม เ ศ ร้ า

    ฉันทำได้แค่ อ ด ท นรอ เพื่อพลิกตัวไปมาซ้ายขวา

    รอเวลาเพื่อให้คนอื่นมาพยุงลุกแล้วไปกินข้าว

    และดีที่สุดคือการนั่ง วี ล แ ช ร์ ไปนั่งสูดอากาศหน้าบ้าน

    ตอนนั้นมัน อั บ จ น ฉันคิดได้เพียงแค่ว่า

    ฉันพึ่งอายุ 23 ปี ฉันจะต้องเป็นผู้ ป่ ว ย น อ น ติ ด เ ตี ย ง

    และไม่มีโอกาสได้ออกไปไหนมาไหนแบบเมื่อก่อนอีกแล้ว

    ทุกวันถ้าต้องไปอาบน้ำ ฉันจะแอบ ร้ อ ง ไ ห้ ทุกครั้ง

    เพราะถ้าฉัน ร้ อ ง ไ ห้ ให้คนอื่นเห็น คงไม่มีใครสบายใจ

    ฉันจะต้องออกมาจากห้องน้ำแบบคนปกติ และก็ยังยิ้มดังเดิม

    จนแฟนเก่าที่เสียไปแล้วดูท่าว่าจะไม่ดี

    เลยขออนุญาตให้ฉันไปอยู่ด้วยที่ สามเงา จังหวัดตาก

    เพื่อให้ฉันได้ไปรับการกายภาพที่โรงพย าบาลสามเงา

    และเค้าจะเป็นคนดูและ ฉันเลยคิดหารายได้เพื่อช่วยเค้าและเงินที่ครอบครัวส่งมาให้ใช้

    ฉันถักตุ๊กตาขายเป็นรายได้เสริมในการใช้ชีวิตอยู่ที่สามเงา

    จนสุดท้ายเป็นอาชีพหลักที่หารายได้พอสมควรในการใช้จ่าย

    แต่......เหตุการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นกับชีวิตของฉัน

    คือแฟนของฉันแอบไปคุยกับผู้หญิงอื่น

    และปล่อยให้ฉันอยู่ห้องพักคนเดียวเพื่อรอให้เค้ากลับมา

    ตอนนั้นฉันจำได้ดีว่า ตอนเช้าฉันจะได้กินแค่นม

    มื้อเที่ยงเค้าจะซื้อข้าวกล่องมาวางไว้ให้ และมื้อเย็นก็ไม่ต่างกัน

    และไม่ไปส่งฉันกายภาพที่โรงพย าบาล

    กว่าจะกลับมาห้องก็ประมาณห้าทุ่มเที่ยงคืน ฉันถึงจะได้อาบน้ำ

    เป็นเวลาแบบนี้เกือบเดือนที่ฉันได้แค่รอ

    และสุดท้ายฉันก็ทนไม่ได้ ก็เลยตัดสินใจโทรหาผู้หญิงคนนั้น

    และฉันก็ได้คำตอบแน่นอนว่าฉันถูก หั ก ห ลั ง จากคนที่รัก

    เค้าแอบไปคุยกับผู้หญิงอื่น 

    เหตุผลข้อเดียวที่ฉันคิดได้คือ ฉันเดินไม่ได้

    ตอนนี้ที่ฉัน ถู ก ทิ้ ง เพราะฉันเดินไม่ได้ และดูไม่มีอนาคต

    ฉันหมดประโยชน์ต่อเค้าแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่ต้องมีฉันในชีวิต

    ความ เ จ็ บ ป ว ด มากกว่าการ ผ่ า ตั ด ของฉันวันนั้น

    ก็คือความ เ จ็ บ ป ว ด ที่ฉัน ถู ก ทิ้ ง ในวันที่ฉันกำลัง เ จ็ บ  ป่ ว ย

    วันนั้นฉันเหมือนตกลงดิ่งไปในหลุม และกำลังโดน ก ร ะ ทื บ ให้เหยียบจมลงไปในดิน

    ฉันไม่มีค่าใด ๆ และเป็นที่น่า รั ง เ กี ย จ สำหรับเค้า

    วันนั้นฉันรับรู้ตัวเองได้เลยว่า การ เ จ็ บ ป ว ด ที่สุดในชีวิตไม่ใช่ตอนที่ฉันประสบ อุ บั ติ เ ห ตุ

    แต่การ เ จ็ บ ป ว ด ที่สุดคือวันที่คนรักของฉัน ทิ้ ง ฉั นไปในวันที่ฉัน แ ย่ ที่สุด

    (เป็นเวลา 6 เดือนพอดีที่ฉันประสบ อุ บั ติ เ ห ตุ และฉันเข้ารับการักษาที่ โรงพย าบาลสามเงาเป็นเวลา 2 เดือน ปัจจุบันแฟนคนนี้ได้ เ สี ย ชี วิ ต แล้วเนื่องจากประสบ อุ บั ติ เหตุ ร ถ ช น ต้นไม่ ฉันขอ อ โ  ห สิ ก ร ร ม ในทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเคย ทำ ก ร ร ม ด้วยกันมาไม่ว่าจะชาติไหนหรือชาตินี้ ขอให้ ห ม ด เ ว ร ห ม ด ก ร ร ม กันแค่นี้ และของให้เค้าไปสู่สุขติที่ดี)

    ฉันตัดสินใจที่จะกลับเชียงใหม่ทันที และขอเข้ารักษาตัวต่อที่โรงพย าบาลสันทราย

    เมื่อฉันกลับมาที่โรงพย าบาลสันทราย ฉันได้ ห อ บ ความ เ จ็ บ ป ว ด กลับมาด้วย

    ฉันกลับมารักษาทั้งร่างกายและจิตใจ จนเพื่อนที่ ขั บ ร ถ ช น ด้วยกันกลับมาดูแลฉันอีกครั้ง

    เนื่องจากก่อนหน้านั้นไม่ได้เข้ามาดูแลและแฟนเก่าฉันก็ไม่ให้มายุ่งกับฉัน

    ฉันได้รับคำปฏิญาณจากผู้ชายคนนี้ว่า 

    เค้าจะรักฉันไม่ว่าฉันจะหายเดินได้ปกติหรือไม่ปกติก็ตาม

    ถึงแม้ฉันจะไม่สามารถไปเที่ยวที่ไหนกับเค้าได้เค้าจะเป็นคนมาเที่ยวหาฉันที่โรงพย าบาลเอง

    เค้าบอกว่าเค้าจะไม่ทำให้ฉัน เ สี ย ใ จ เหมือนที่เคย เ จ็ บ มา

    เค้าจะดูแลฉันให้ดีที่สุด ด้วยคำพูดของลูกผู้ชาย

    ความรักครั้งใหม่มันเหมือนจะสวยงาม 

    แต่เมื่อฉันเป็น ผู้ ป่ ว ย ที่ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากเท่าไหร่

    และการกายภาพของฉันยังไม่ค่อยก้าวหน้าเท่าไหร่

    สิ่งที่ฉันต้องกลับมาพบเจออีกครั้ง คือการ น อ ก ใ จ

    สุดท้ายคำพูดที่เค้าปฏิญาณไว้ทุกอย่าง เค้าทำไม่ได้

    สุดท้ายฉันก็แพ้ให้กับผู้หญิงคนอื่นเหมือนเดิม

    เพียงเพราะฉัน “เดินไม่ได้”

    (เป็นเวลา 1 ปี กับ 1 เดือนที่ฉันประสบ อุ บั ติ เ ห ตุ พอดีที่เค้า ทิ้ ง ฉันไป ปัจจุบัน ฉันไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้อยู่ที่ไหนของโลก และฉันก็ไม่รู้ว่าเค้ารู้สึกผิดบ้างมั้ย ที่ทำให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งจากที่เดินได้ปกติแต่กลับต้องมานั่ง วี ล แ ช ร์ และฟั น ฝ่ า อุ ป ส ร ร ค หลาย ๆ อย่างเพื่อให้เธอกลับมาใช้ชีวิตให้ปกติดังเดิมได้ แต่ฉันไม่ถือโทษ โ ก ร ธ เค้า เพราะฉันต้องขอบคุณเค้าที่เป็นตัวพลักดันให้ชีวิตฉันดีขึ้น และฉันได้ปล่อยคนไม่ดีออกจากชีวิตของฉันไปได้อีกหนึ่งคน นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ฉันเขียนเพจบันทึกจากวีลแชร์ เพียงเพราะตอนนั้นฉ้นต้องการร ะ บ า ย ความ เ จ็ บ ป ว ด ที่ฉันมีให้คนอื่นได้รับฟังฉันบ้าง)

    ความ เ จ็ บ ป ว ด ครั้งนี้ สอนให้ฉันรู้ว่าฉันควรรักตัวเอง 

    และทำเพื่อตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

    ฉันพาตัวเองอาสาช่วยทำงานในหอ ผู้ ป่ ว ย

    ไปพูดคุยกับ ผู้ ป่ ว ย และให้กำลังใจ

    ฉันกายภาพอย่างหนักเพื่อฟื้นร่างกายให้ได้มากที่สุด

    ฉันฝึกการใช้ วี ล แ ช ร์ เพื่อให้ วี ล แ ช ร์ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฉัน

    ฉันสร้างเพจบันทึกจาก วี ล แ ช ร์ เพื่อเขียนให้กำลังใจคนอื่นและตัวเอง

    ฉันถักตุ๊กตาขายเพื่อหารายได้เสริมให้กลับตัวเอง

    พาตัวเองออกไปทำกิจกรรมข้างนอก 

    พาตัวเองออกไปวิ่ง วิ่งในแบบที่ฉันใช้แขนวิ่ง

    ฉันฟังคำสอนของพระ ว.วชิรเมธี ทุกคืน

    ฉันอ่านหนังสือปรัชญาเป็นตั้ง ๆ เพื่อพัฒนาจิตใจและความคิดของตัวเอง

    (ทุกกิจกรรมที่ฉันได้ทำ มันทำให้ฉันรู้ว่า ความสุขที่แท้จริงของฉันคือ การทำประโยชน์เพื่อคนอื่น ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ทั้งฉันและคนที่ได้รับก็มีความสุขเหมือนกัน คำสอนที่ฉันได้คือ การทำดี ทำไปเรื่อย ๆ สักวันเราก็จะได้รับสิ่งดี ๆ ตอบแทนเอง และฉันก็ทำมันเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าฉันจะได้รับกลับคืนมาเมื่อไหร่ก็ตาม)

    และฉันก็พย าย ามพาตัวเองเพื่อให้กลับไปเรียนต่อให้จบได้

    ฉันได้รับการช่วยเหลือจากโรงพย าบาลสันทราย 

    คุณหมอ ชลาทิพย์ หมอเวชสาสตร์ฟื้นฟูที่รักษาฉัน

    พี่ ๆ และเพื่อนนักกายภาพ พี่นักกิจกรรม บำ บั ด โรงพย าบาลสันทราย

    และผู้ชายคนหนึ่งที่ติดตามเพจฉันตั้งแต่แรก

    จนวันหนึ่งมีผู้ชายคนนี้.................. : ) 

    ได้แนะนำให้ฉันเขียนฎีกาถึงสมเด็จพระเทพฯ เพื่อกราบทูลขอกลับไปเรียนต่อ

    และสุดท้ายฉันก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพ ฯให้ฉันได้กลับมาเรียน

    ในวิชาชีพที่ฉันรักอีกครั้ง “วิชาชีพพยาบาล”

    ทางวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี เชียงใหม่

    ให้โอกาสฉันได้กลับมาฝึกงานที่เหลือให้จบ

    และดูแลฉันเป็นอย่างดีระหว่างที่ฉันต้องสอบจบของสถาบันราชชนก

    สอบจบของมหาวิทยาลับเชียงใหม่

    และสอบใบประกอบวิชาชีพ ให้ผ่านทั้ง 8 วิชา

    จนปัจจุบันฉันสามารถจบและกลับมาทำงาน 

    ในฐานะพย าบาลวิชาชีพ ที่โรงพย าบาลสันทราย

    และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติอย่างเคย

    แค่เพียงฉันมีเก้าอี้ส่วนตัว ที่ไม่ต้องมีใครมาแย่งเก่าอี้ของฉัน

    (ผู้ชายที่ติดตามเพจฉัน และแนะนำให้ฉันเขียนฎีกา คือ แฟนคนปัจจุบันของฉัน ที่เค้าติดตามเพจของฉันตั้งแต่แรก และค่อยให้กำลังใจฉันตลอดมาจนวันหนึ่งมีเหตุการณ์ ร ะ เ บิ ด ที่สามชายแดนใต้ ฉันเลยทักไปถามไถ่ เพราะเห็นว่าเค้าอยู่แถวนั้น ด้วยความที่เค้าค่อยเป็นห่วงเราเสมอมา เลยให้กำลังใจเค้าไป นั่นคือจุดเริ่มต้นความรักครั้งใหม่ของฉันอีกครั้ง กับผู้ชายที่ ก รี ด ยางอยู่ที่สาม ช า ย แ ด นใต้)

    เกือบจะ 3 ปี กับการเดินทางอันยาวนานของฉัน

    ฉันมีคุณย่ าที่อยู่ข้างฉันมาตลอด

    ตั้งแต่วันแรกที่ฉันประสบ อุ บั ติ เ ห ตุ 

    ย่ าจะพูดเสมอว่า “ถ้ายิวยังสู้ ย่ าก็จะสู้ไปกับยิว”

    นี่คือกำลังใจที่สำคัญที่ทำให้ฉันลุกขึ้นมาสู้ถึงทุกวันนี้

    ฉันต้องมาเรียนรู้กับร่างกายที่ต้องมีอุปกรณ์พิเศษ

    กว่ามันจะสวยงามแบบทุกวันนี้ 

    ฉันได้ผ่านความ เ จ็ บ ป ว ด มามากมาย 

    เพื่อแลกกับการประสบความสำเร็จของฉัน

    ฉันต้องใช้ น้ำ ต า  และความ อ ด ท นเพื่อแลกกับสิ่งที่มันคุ้มค่าที่สุดในชีวิตฉัน

    ฉันพุ่งชนหลายครั้ง เพราะฉันไม่มีทางเลือกอีกแล้ว

    ทุกการตัดสินใจกว่าที่ฉันจะประสบความสำเร็จ ฉันแลกมันมาด้วยคำว่า “ไม่ท้อ ไม่ถอย ไม่ถอดใจ”

    เดือนนี้เป็นเดือนพิเศษ เดือนพฤศจิกายน 

    สุขสันต์วันเกิดนะ กรรณิการ์ (23 พฤศจิกายน 2535 เธอ 26 ขวบบริบูรณ์)

    และขอแสดงความยินดีกับใบปริญญาใบแรกของเธอ เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร (29 พฤศจิกายน 2561)

    ต่อจากนี้ไปขอให้เธอพบเจอแต่สิ่งดีงาม

    ทำคุณประโยชน์ให้คนอื่นเหมือนที่เธอเคยปฏิญาณไว้ 

    และจงจดจำวันเวลาที่เธอเคยผ่านมา 

    เพราะทุกเรื่องราวที่เธอได้พบเจอ เป็นเรื่องราวที่ทำให้เธอมีวันนี้ได้

    กรรณิการ์ ศรีวิจา พย าบาลวิชาชีพ โรงพย าบาลสันทราย

เครดิตภาพ : @phromphon wohan

โพสต์จากบันทึกจาก วี ล แ ช ร์ : )

ขอบคุณข้อคมูลและภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก บันทึกจากวี ล แ ช ร์

บทความที่คุณอาจสนใจ