หนุ่มศรีสะเกษ ยอมอายขอข้าวกิน ประกาศงดรับบริจาค เพราะเพียงพอแล้ว ที่เหลือเอาไปบริจาคต่อ

    จากกรณีหนุ่มศรีสะเกษตกงาน เหลือเงินติดตัว 5 บาท ล่าสุดเจ้าตัวเผยซึ้งน้ำใจของคนไทย ให้การช่วยล้นหลามยอดบริจาคร่วม 9 หมื่น (อ่านเพิ่มเติม : หนุ่มศรีสะเกษ เดินโซเซหลังตกงาน เดินหางานใหม่ไม่มีใครรับ เหลือเงินติดตัว 5 บาท ยอมอายขอข้าวกิน)

    ตามที่ได้มีการนำเสนอเรื่องราวของนาย ศราวุธ วงค์ที หรือ “ต้น” อายุ 22 ปี หนุ่มชาวศรีสะเกษ ในขณะเดินหางานมาตามถนนจนถึงย่านพัทยากลางด้วยท่าทางอ่อนเพลีย พร้อมตรงรี่มาขอให้ซื้อข้าวให้กินประทังความหิว โดยมีเงินติดตัวเพียง 5 บาท

    จนเป็นกระแสในโลกโซเชียล พร้อมส่งกำลังทรัพย์และกำลังใจให้การช่วยเหลืออย่างล้นหลาม ด้วยความที่เป็นผู้ไม่งอมืองอเท้า พยายามสู้ชีวิตจนถึงที่สุด ก่อนรู้สึกไม่ไหวแล้วจริงๆ ถึงได้ออกมาขอความช่วยเหลือคนอื่น

    ล่าสุด นายศราวุธ เดินทางมาพบบริษัทโสภณ เคเบิล ทีวี พัทยา พร้อมยกมือไหว้กล่าวขอบคุณที่นำเสนอข่าว จนได้รับความช่วยเหลือ มีผู้ใจบุญหลายคนชวนไปทำงานด้วยในหลายอาชีพ พร้อมโอนเงินผ่านเข้าบัญชีธนาคารยอดล่าสุด 89,281 บาท ตนต้องโพสต์หยุดรับบริจาค เพราะยอดเงินค่อนข้างเยอะไปสำหรับตน แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ไม่อยากได้มากไปกว่านี้ 

    และเกรงว่าจะมีเรื่องวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล แต่ก็ยังมีคนใจดีโอนให้มาเรื่อยๆ ตอนนี้มีคนที่ตกทุกข์ได้ยากกว่าอีกมากอย่างมูลนิธิ โรงพยาบาลต่างๆ อยากให้ไปช่วยเหลือตรงนั้นมากกว่า ส่วนเงินที่ได้มายังไม่กล้านำออกมาใช้ ยังอาศัยนอนอยู่ในบาร์ร้างกับเพื่อนๆ

.

    นายศราวุธ กล่าวอีกว่า สำหรับเงินที่ได้รับบริจาคมา จะนำไปหาบ้านเช่าราคาถูกอยู่อาศัย ส่วนหนึ่งจะส่งให้ลูกเมียที่บ้าน และจะเก็บไว้ใช้ส่วนตัวเล็กน้อย ส่วนที่เหลือ จะนำไปแบ่งปันเพื่อนๆ ที่ตกงาน และฝากไว้ที่ร้านขายอาหารตามสั่งทุกอย่าง 20 บาท ภายในซอยบริษัทโสภณ เคเบิล ทีวีพัทยา จำนวน 10,000 บาท สำหรับผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์สามารถไปสั่งกินได้ทันที และมอบให้ศูนย์ ศตคด. มูลนิธิพัฒนาการคุ้มครองเด็ก “บ้านครูจา” จำนวน 9,000 บาท และจากนี้ไปจะไปใช้ชีวิตเป็นหนุ่มโรงงานแถวจังหวัดระยอง โดยมีบริษัท ไทยอินเตอร์ เนชั่นแนล เลเบอร์ มารับอุปการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    นายศราวุธ กล่าวทิ้งท้ายให้กำลังใจผู้ที่กำลังประสบภาวะตกงานในขณะนี้ว่า เกิดเป็นคนอย่าอาย ยังมีน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ คอยหยิบยื่นให้ความช่วยเหลือ ดีกว่าไปลักเล็ก เลือกเส้นทางไม่ถูกต้องไม่สมควร ขอให้ทุกคนสู้อย่าท้อถอย

ที่มา : ข่าวชาวบ้าน - Thai TV Social