LIEKR:
หากพูดถึงน้ำหอม หลายคนคงนึกถึงน้ำหอมแบรนด์ต่างๆ ที่คุ้นชื่อคุ้นหูกันดี ซึ่งแบรนด์เหล่านั้น ล้วนแล้วแต่เป็นน้ำหอมที่ผลิตโดยชาวต่างชาติทั้งสิ้น ประเทศไทยเอง ก็มีน้ำหอมมาตั้งแต่โบร่ำโบราณแล้ว หลายคนอาจจะคิดถึง น้ำอบ แต่แท้ที่จริงแล้วน้ำหอมไทยมีชื่อเรียกว่า น้ำปรุง ต่างหาก
โดยน้ำอบกับน้ำปรุง มีความแตกต่างกันที่ น้ำอบ จะมีส่วนผสมของน้ำกับแป้ง เรียกได้ว่าเป็นหางน้ำหอมอย่างหนึ่ง ส่วน น้ำปรุง เป็นน้ำหอมสกัดจากไม้หอมล้วนๆ ถือว่าเป็นหัวน้ำหอม มีความเข้มข้นกว่ากันมาก อาจพูดได้ว่า น้ำปรุงก็คือน้ำหอมไทย นั่นเอง
Sponsored Ad
ทีมงาน มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณจ๊ะ-อณุพรรณ เครือมิ วัย 37 ปี เจ้าของ I Am Siam Thai Perfume แบรนด์น้ำหอมดอกไม้ไทย ที่กำลังได้รับความนิยมบนโซเชียลในขณะนี้
Sponsored Ad
คุณจ๊ะ ให้สัมภาษณ์อย่างเป็นกันเอง โดยเธอเริ่มเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนเธอเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องสินเชื่อธุรกิจของธนาคารแห่งหนึ่ง ทำได้ประมาณ 11 ปี ก็รู้สึกอิ่มตัว จึงตัดสินใจลาออก แต่ก็ยังไม่มีแผนชัดเจนว่าตนนั้นอยากจะทำอะไร
ประกอบกับเธอแต่งงาน ต้องย้ายไปอยู่แถวท่าเรือไปหลีเป๊ะ ก็สังเกตเห็นว่านักท่องเที่ยวที่มาขึ้นเรือที่ท่านี้ มักจะซื้อพวกยาดม ยาหอม และแป้งเย็น ติดขึ้นเรือไปกันด้วย เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนและเดินทางนานอาจทำให้เมาคลื่น
เธอจึงกลับมาคิดว่า น่าจะทำยาดมออกมาลองขายดูบ้าง เพราะเธอก็มีความรู้เรื่องดอกไม้และสมุนไพร ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากคุณปู่คุณย่า ที่อยู่ในวงการการทำเครื่องหอมของไทยมานาน จึงตัดสินใจทำยาดมสมุนไพรกลิ่นดอกไม้ขาย
Sponsored Ad
“เริ่มแรกที่ออกมาทำธุรกิจเอง เราเริ่มมาจากการทำยาดมสมุนไพรขาย โดยยาดมของเราแตกต่างจากยาดมทั่วๆ ไปคือจะเป็นยาดมสมุนไพรที่มีกลิ่นดอกไม้ เพราะโดยส่วนตัวคิดว่ามันต้องกลิ่นดอกไม้สิ ถึงจะหอม แล้วก็มีความแตกต่างจากคนอื่น มันจะได้เป็นเอกลักษณ์ของเรา วันแรกที่ทำออกมาขาย ขายได้แค่ 20 บาท ก็คือขายได้แค่ 1 ชิ้น เพราะที่วางขายเราอยู่มุมแอบๆ คนไม่ค่อยเห็น ก็เลยเปลี่ยนไปขายแถวๆ ทางลงเรือ ก็ขายดีขึ้น จนขยับการผลิตขึ้นมาเป็น 1,000 ชิ้นต่อวัน“
พอทำไปได้สักพัก คุณจ๊ะก็คิดว่าเธอควรไปร่วมงานกับภาครัฐ ซึ่งมีการให้คำแนะนำในการทำธุรกิจ อีกทั้งช่วยให้คำปรึกษาด้านการออกแบบ ดูแลมาตรฐาน และพาไปออกบู๊ธตามงานต่างๆ เธอเล่าต่อว่าตอนไปออกบู๊ธ มีคนให้ความสนใจกับเครื่องหอมที่เธอนำไปขายเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีกลิ่นที่หอมเป็นเอกลักษณ์ จนทำให้มีคนติดต่อให้ช่วยผลิตพวก สบู่, สครับ และยาดมให้ โดยใส่กลิ่นดอกไม้สูตรของคุณจ๊ะเข้าไปด้วย
Sponsored Ad
“ตอนนั้นเราก็ทำแบรนด์ให้คนอื่นมาเกือบ 2 ปี จนสะสมเงินทุนได้ก้อนหนึ่ง บวกกับเรามีเงินทุนอยู่แล้วอีกก้อน ตอนที่ลาออกจากธนาคาร ก็เริ่มคิดแล้วว่าอยากมีแบรนด์เป็นของตัวเองสักแบรนด์ แต่เราจะทำอะไรดีล่ะ ก็เลยดัดแปลงผลิตภัณฑ์ จากยาดมอโรม่าธรรมดา มาเป็นเครื่องหอมอย่าง น้ำหอม โดยยังคงกลิ่นดอกไม้ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของเราเอาไว้”
คุณจ๊ะนำองค์ความรู้เรื่องการทำพวกน้ำปรุงและเครื่องหอมดอกไม้ สมุนไพรไทย มาต่อยอดผสมผสานเข้ากับน้ำหอมแบบฝรั่ง เป็นการนำกรรมวิธีการผลิตแบบโบราณผสมผสานกับความทันสมัย ทำให้น้ำหอมดอกไม้ไทยที่ได้ มีกลิ่นที่คงความเป็นไทย แต่ไม่ทำให้รู้สึกเชย
Sponsored Ad
กลิ่นที่ผลิตออกมาตอนแรกมีอยู่ด้วยกันถึง 6 กลิ่น คือกลิ่น กฤษณะกาลี, มหาหงส์ 2000 ปี, กุหลาบ, ทิวาราตรี, พลับพลึงพราย และกลิ่นหอมหมื่นลี้ แต่ปรากฏว่าขายไม่ได้เลย ถึงตรงนี้ คุณจ๊ะ เล่าให้ฟังว่า ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของการทำการตลาด เพราะเธอทำการตลาดไม่เป็น จนมานั่งปรึกษาคนในทีม วางแผนการตลาดใหม่โดยการค่อยๆ วางทีละกลิ่น ใส่เรื่องราว เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้กับกลิ่นนั้นๆ
“น้ำหอมดอกไม้ไทย แบรนด์ I Am Siam เป็นน้ำหอมกลิ่นดอกไม้ที่สกัดมาจากดอกไม้จริงๆ โดยกลิ่นเปิดตัวอย่าง กฤษณะกาลี หรือกลิ่นดอกบัวหลวง จะมีความเป็นไทยโมเดิร์น ประกอบกับช่วงที่วางขาย มีละครบุพเพสันนิวาสกำลังออนแอร์พอดี แล้วกฤษณะกาลีเป็นมนต์ที่มาจากละคร ซึ่งมนต์กฤษณะฯ ถือเป็นมนต์ที่ดี เราเลยเอามาตั้งชื่อน้ำหอมกลิ่นดอกบัว เพราะดอกบัวก็มีนัยความหมายดีเช่นกัน พอคนเห็นก็มาลองซื้อไปใช้กัน ส่วนกลิ่นกุหลาบ เรานำน้ำปรุงที่ปรุงด้วยชะมดเช็ด หรือมัสก์ธรรมชาติ เข้ามาเป็นส่วนผสม แล้วนำมาผ่านกรรมวิธีการทำเครื่องหอมแบบโบราณ จึงได้กลิ่นกุหลาบที่ไม่เหมือนใคร น้ำหอมของเรายิ่งเก็บไว้นานก็ยิ่งหอม และติดทนนานถึง 8 ชั่วโมง ถือเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นั่นเอง”
Sponsored Ad
คุณจ๊ะ ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันธุรกิจน้ำหอมดอกไม้ไทย แบรนด์ I Am Siam เพิ่งเริ่มกิจการมาเมื่อเดือนเมษายน 2561 และมีการพัฒนา เพิ่มกลิ่นน้ำหอมเข้ามาเพิ่มประมาณ 20-30 กลิ่น ทั้งกลิ่นปกติ อย่าง กลิ่นกฤษณะกาลี, มหาหงส์ 2000 ปี, กุหลาบ, ทิวาราตรี, พลับพลึงพราย และกลิ่นจำปีสีนวล กับกลิ่นฤดูกาล เช่น กลิ่นดอกปีบ, ดอกแก้ว, จำปา, โมก, มะลิ และดอกจันทน์กะพ้อ
น้ำหอมดอกไม้ไทยของคุณจ๊ะ ยังมีกลิ่นที่โดนใจชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นน้ำหอมที่ไม่มีกลิ่นฉุน แอลกอฮอล์มีค่าน้อยกว่า 20% ทำให้เด็กก็สามารถใช้ได้ อีกทั้งมีการส่งออกไปยังตะวันออกกลาง, อเมริกา, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านของไทย อย่าง สิงคโปร์, มาเลเซีย และกัมพูชา เป็นต้น
Sponsored Ad
ธุรกิจน้ำหอมดอกไม้ไทยนี้ สามารถทำยอดขายให้คุณจ๊ะได้ถึงหลักแสนต่อเดือน และส่วนใหญ่จะขายดีมากในช่วงก่อนเทศกาล เพราะคนในปัจจุบัน ชอบสั่งของจากออนไลน์ เพื่อซื้อไปเป็นของฝากนั่นเอง
“เราให้ความสำคัญกับสภาพคล่อง ถ้าธุรกิจที่ทำมีสภาพคล่อง มีกำไรทุกขณะที่ดำเนินธุรกิจ ทุกคนก็จะมีความสุขกับสิ่งที่ทำ” คุณจ๊ะ กล่าวทิ้งท้าย
หากใครสนใจ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เพจ น้ำหอมดอกไม้ไทย I Am Siam Thai Perfume -เจ้าของแบรนด์- หรือโทรศัพท์ (084) 256-5645
ข้อมูลและภาพ จาก sentangsedtee