"ดีเจภูมิ" สอนอยากรวยต้อง "เข้าใจเงิน" เผยเคยส่งหนังสือพิมพ์ตอน 10 ขวบ หาเงินคืนแม่!

LIEKR:

ลองไปปรับใช้กับชีวิตเราดูค่ะ...เป็นกำลังใจให้ทุกคน

        หากเอ่ยถึง ดีเจภูมิ ภูมิใจ ตั้งสง่า เชื่อว่าหลายคนจะต้องนึกถึงดีเจหนุ่มที่มีไลฟ์สไตล์ชีวิตแสนหรูหรา ทั้งบ้านหลังใหญ่แสนสวย มีรถหรูยี่ห้อดังๆ อีกหลายคัน ของกินแพงๆ และการท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่ถึงแม้จะมีไลฟ์สไตล์ที่หรูหราขนาดไหน แต่ดีเจภูมิก็รู้จักการวางแผนใช้เงินมาตั้งแต่เด็กๆ

        แต่แน่นอนว่าคงไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ กว่าจะมีวันนี้ ดีเจภูมิเองก็ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานมามากเหมือนกัน ล่าสุดเขาก็ได้แชร์เรื่องการหาเงินและใช้เงิน พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ในวัยเด็กลงในอินสตาแกรม เพื่อเป็นข้อคิดให้กับหลายๆ คน

 

Sponsored Ad

 

        โดยดีเจภูมิ ได้เผยคำสอนเด็กรุ่นใหม่เข้าใจเงินว่า...

        "สำหรับเด็กๆ ที่อยากจะโตขึ้นมาแล้วมีเงิน.. อย่างแรกเราต้องเข้าใจเงินก่อนว่าหายังไง แล้วใช้ยังไง วิธีที่จะเข้าใจง่ายและเร็วที่สุดก็คือการลองไปทำงานหาเงินเอง แนะนำให้ไปฝึกงานช่วงปิดเทอม แล้วถ้าเป็นไปได้ ลองทำงานที่จ่ายค่าแรงเป็นแบบชั่วโมง 

 

Sponsored Ad

 

        (ตังค์ไม่ได้เยอะหรอก แต่บอกตัวเองว่า กูจะทนทำเพื่อที่จะได้วิชาการ “เข้าใจเงิน”) สมัยนี้พี่เห็นเด็กๆ ใช้เงินกันเก่ง (พี่เองก็เคยเป็นเหมือนกัน) แต่ที่เราใช้จ่ายแบบนั้น เพราะเรายังไม่รู้คุณค่าของเงิน เรารู้แค่ว่า ของแพงก็อ้อนพ่อแม่นานหน่อย ของถูกก็อ้อนเร็วหน่อย

View this post on Instagram

สำหรับเด็กๆที่ อยากจะโตขึ้นมาแล้วมีเงิน.. อย่างแรก เราต้อง”เข้าใจเงิน”ก่อน ว่าหายังไง แล้วใช้ยังไง... วิธีที่จะเข้าใจง่ายและเร็วที่สุดก็คือ การลองไปทำงาน หาเงินเอง แนะนำ ให้ไปฝึกงานช่วงปิดเทอม แล้วถ้าเป็นไปได้ ลองทำงานที่จ่ายค่าแรงเป็นแบบชั่วโมง (ตังไม่ได้เยอะหรอก แต่บอกตัวเองว่า กูจะทนทำเพื่อที่จะได้วิชาการ “เข้าใจเงิน”)... สมัยนี้พี่เห็นเด็กๆใช้เงินกันเก่ง (พี่เองก็เคยเป็นเหมือนกัน) แต่ที่เราใช้จ่ายแบบนั้น เพราะเรายังไม่รู้คุณค่าของเงิน เรารู้แค่ว่า ของแพงก็อ้อนพ่อแม่นานหน่อย ของถูกก็อ้อนเร็วหน่อย... สมัยพี่เด็กๆ วันนึงคุณแม่ได้พาลูกๆไปซื้อจักรยาน กันคนละคัน... มีงบประมาณให้คนละ 200บอน (ประมาณ 10,000บาท) สำหรับ 30ปีที่แล้วก็โครตหรูแล้ว! พี่น้องพี่ซื้ออยู่ในงบประมาณ แต่พี่เลือกคันที่เกินงบ (ทุกวันนี้ยังจำได้ดีอยู่เลย) จักรยานยี่ห้อ Muddy Fox รุ่น PathFinder ราคา 317 บอน คือมันหล่อมาก สำหรับเด็กๆก็ประมาณขี่แลมโบรอบหมู่บ้านนั่นแหละ.. แต่มันเกินงบมา 117 บอน (เกือบ 6000บาท).. วันนั้นพี่เลย ตกลงกับคุณแม่ว่าจะขอกู้เงินมาก่อน แล้ว ค่อยไปหางานมาทยอยจ่ายคือ.. แม่ก็คงงงว่าอีลูกคนนี้อายุ 10 ขวบมันจะไปหาตังที่ไหนมาคืนวะ แต่ยังไงก็ตามคุณแม่ก็ตกลง.. หลังจากนั้นพี่ก็ รับสมัครงานที่ร้านขายของชำเล็กๆแถวบ้านชื่อ Alandini’s Cave เพื่อที่จะปั่นจักรยานส่งหนังสือพิมพ์รอบหมู่บ้านทุกเช้า! ทางร้านให้เงิน วันละ 2 บอน แต่คุณแม่เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเลยให้พี่เลี้ยงปั่นไปด้วย เราเลยแบ่งค่าแรงกันคนละครึ่ง ซึ่งเท่ากับว่า พี่ได้เงินวัน 1 บอน... ฟังดูน้อยเนอะ ได้แค่วันละ 1 บอน... แต่จริงๆ ลองคิดดู 1 บอนต่อวัน ก็อาทิตย์ละ 7 บอน.. เดือนละ 30 บอน... เพียงแค่ 3 เดือนกว่าๆ พี่ก็ใช้เงินคืนคุณแม่ได้หมด แล้ว! ได้ขี่จักรยานที่หล่อที่สุดในโรงเรียน แลกกับการทำงาน 3 เดือนกว่าๆ โครตคุ้มมม! แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ บทเรียน... สิ่งที่เกิดขึ้นคือ พี่เริ่มมีความเข้าใจเงิน! จากทีก่อนหน้านี้เราซื้อโดยไม่เข้าใจมัน... ตอนนี้เราซื้อทุกอย่าง อย่างมีสติ 100% เช่น... อยากกิน Big Mac 1 ชิ้นต้องทำงาน 2 วัน... อยากเช่าหนัง VDO มาดู 1 ม้วนต้องทำงาน 3 วัน... อยาก ได้รถบังคับคันนึงต้องทำงาน 8 เดือน.... สัส... กูเลยกลายเป็นคนขี้งกขึ้นมาทันที!! แต่ก็ดีที่มีวันนั้น เพราะการเข้าใจเงิน เลยทำให้พี่มีวันนี้... ลองไปปรับใช้กับชีวิตเราดูนะ... เป็นกำลังใจให้ทุกคน 💕 #เข้าใจเงิน #djpoomphilosophy

 

Sponsored Ad

 

A post shared by Poomjai Tangsanga (@djpoom) on

ภาพจาก Instagram djpoom

        สมัยพี่เด็ก ๆ วันนึงคุณแม่ได้พาลูก ๆ ไปซื้อจักรยานกันคนละคัน มีงบประมาณให้คนละ 200 ปอนด์ (ประมาณ 10,000 บาท) สำหรับ 30 ปีที่แล้วก็โคตรหรูแล้ว พี่น้องพี่ซื้ออยู่ในงบประมาณ แต่พี่เลือกคันที่เกินงบ (ทุกวันนี้ยังจำได้ดีอยู่เลย) จักรยานยี่ห้อ Muddy Fox รุ่น PathFinder ราคา 317 ปอนด์ คือมันหล่อมาก สำหรับเด็ก ๆ ก็ประมาณขี่แลมโบรอบหมู่บ้านนั่นแหละ แต่มันเกินงบมา 117 ปอนด์ (เกือบ 6,000 บาท) วันนั้นพี่เลยตกลงกับคุณแม่ว่าจะขอกู้เงินมาก่อนแล้วค่อยไปหางานมาทยอยจ่ายคือ.. แม่ก็คงงงว่าอีลูกคนนี้อายุ 10 ขวบ มันจะไปหาตังค์ที่ไหนมาคืนวะ แต่ยังไงก็ตามคุณแม่ก็ตกลง

 

Sponsored Ad

 

.

        หลังจากนั้นพี่ก็รับสมัครงานที่ร้านขายของชำเล็ก ๆ แถวบ้านชื่อ Alandini’s Cave เพื่อที่จะปั่นจักรยานส่งหนังสือพิมพ์รอบหมู่บ้านทุกเช้า ทางร้านให้เงินวันละ 2 ปอนด์ แต่คุณแม่เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเลยให้พี่เลี้ยงปั่นไปด้วย เราเลยแบ่งค่าแรงกันคนละครึ่ง ซึ่งเท่ากับว่าพี่ได้เงินวัน 1 ปอนด์... ฟังดูน้อยเนอะ ได้แค่วันละ 1 ปอนด์... 

 

Sponsored Ad

 

        แต่จริง ๆ ลองคิดดู 1 ปอนด์ต่อวัน ก็อาทิตย์ละ 7 ปอนด์.. เดือนละ 30 ปอนด์... เพียงแค่ 3 เดือนกว่า ๆ พี่ก็ใช้เงินคืนคุณแม่ได้หมดแล้ว ได้ขี่จักรยานที่หล่อที่สุดในโรงเรียนแลกกับการทำงาน 3 เดือนกว่า ๆ โคตรคุ้มมม

        แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือบทเรียน... สิ่งที่เกิดขึ้นคือพี่เริ่มมีความเข้าใจเงิน จากที่ก่อนหน้านี้เราซื้อโดยไม่เข้าใจมัน ตอนนี้เราซื้อทุกอย่างอย่างมีสติ 100 เปอร์เซ็นต์ เช่น อยากกิน Big Mac 1 ชิ้น ต้องทำงาน 2 วัน อยากเช่าหนัง VDO มาดู 1 ม้วน ต้องทำงาน 3 วัน อยากได้รถบังคับคันนึงต้องทำงาน 8 เดือน เลยกลายเป็นคนขี้งกขึ้นมาทันที แต่ก็ดีที่มีวันนั้น เพราะการเข้าใจเงิน เลยทำให้พี่มีวันนี้... ลองไปปรับใช้กับชีวิตเราดูนะ... เป็นกำลังใจให้ทุกคน #เข้าใจเงิน

.

.

.

.


ข้อมูลและภาพจาก Instagram djpoom

บทความที่คุณอาจสนใจ