รู้จักเจ้าของ "อิเกีย" จากเด็กขายไม้ขีดไฟ สู่ "ราชา" แห่งอาณาจักรเฟอร์นิเจอร์มูลค่าแสนล้าน!

LIEKR:

ผู้ก่อตั้งอาณาจักร IKEA 'อิงวาร์ คัมพรัด' จากลูกชาวนากลายเป็นราชาแสนล้าน!

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

      "อิงก์วาร์ คัมพราด" ผู้ก่อตั้ง IKEA บริษัทยักษ์ใหญ่เฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ฉายแววนักธุรกิจตั้งแต่ 5 ขวบ เริ่มต้นจากเด็กชายขายไม้ขีดไฟ สู่วิถีอาณาจักร IKEA ในวัย 17 ปี ในระยะเวลากว่าเจ็ดทศวรรษ

      เขาทำให้อิเกียกลายเป็นผู้ค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ที่สุดของโลก มี 400 กว่าสาขากระจายอยู่ 50 ประเทศทั่วโลก มีพนักงานกว่า 200,000 คน เป็นมหาเศรษฐีชาวสวีเดนรวยติดอันดับท็อปเทนระดับโลก มีมูลค่าทรัพย์รวมกว่า 59 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

 

Sponsored Ad

 

      อิงก์วาร์ คัมพราด เกิดที่ประเทศสวีเดน ฐานะทางบ้านของเขาไม่ค่อยสู้ดีนัก เขาเริ่มหารายได้พิเศษ ให้แก่ตนเองด้วยการเป็นเด็กขายไม้ขีดไฟตั้งแต่อายุ 5 ขวบ พออายุ 7 ขวบเขาเริ่มขายกิจการด้วยการปั่นจักรยานตระเวนขายไปเรื่อย ๆ พร้อมกับไปซื้อไม้ขีดราคาส่งที่กรุง Stockholm ไป-กลับ ระยะทางรวมกว่า 500 กิโลเมตร เพื่อนำมาขายปลีกในราคาถูก และสามารถทำกำไรได้มากกว่า

 

Sponsored Ad

 

      พอเขาเริ่มมีทุนสะสม ในวัย 10 ขวบ ไอเดียก็เริ่มบรรเจิด เขาเริ่มขยายกิจการด้วยการนำไม้ขีดไฟและของจิปาถะ ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดพันธุ์ดอกไม้, การ์ดอวยพรวันเกิด, อุปกรณ์ตกแต่งต้นคริสต์มาส, ดินสอ, กรอบรูป, ถุงน่อง ฯลฯ โดยใช้จักรยานเป็นพาหนะกระจายสินค้าไปแต่ละหลัง

      จนกระทั่ง อิงก์วาร์ คัมพราด ในวัย 17 ปี ที่ถูกบ่มเพาะให้เป็นคนที่มีความขยันหมั่นเพียรและเรียนได้เกรดค่อนข้างดีแถมยังมีความอุตสาหะในการทำมาค้าขาย เขาจึงได้รับรางวัลจากคุณพ่อของเขาเป็นเงินจำนวนก้อนหนึ่ง เขาจึงได้นำเงินก้อนนั้นไปก่อตั้งธุรกิจ IKEA ในปี 1943 โดยตั้งชื่อตามตัวอักษรชื่อ-สกุลของเขา Ingvar Kamprad ชื่อฟาร์ม Elmtaryd และชื่อหมู่บ้านที่อาศัย Agunnaryd มารวมกันเป็น "IKEA"

 

Sponsored Ad

 

      โดยเขาได้เริ่มต้นด้วยการขายสินค้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน เช่น ดินสอ, กระเป๋า, นาฬิกา และเครื่องประดับต่าง ๆ ซึ่งวิธีทำการตลาดของเขาก็คือ การลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น โดยรวบรวมสินค้าหลากชนิดลงในแคตตาล็อก และให้ลูกค้าสั่งซื้อและส่งของทางไปรษณีย์เป็นวิธีการที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายที่สุด ณ ขณะนั้น โดยได้ยอดสั่งซื้อมาจากแคตตาล๊อกเป็นจำนวนมาก และต่อมาเขาเริ่มให้ความสนใจกับเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน

 

Sponsored Ad

 

      และต่อมาเขาก็ได้เปิดร้านเฟอร์นิเจอร์เต็มรูปแบบเป็นสาขาแรก โดยเปิดให้ลูกค้าสามารถรับชมและสัมผัสสินค้าได้ก่อนการสั่งซื้อ จึงทำให้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า และสามารถสร้างยอดขายได้อย่างมหาศาล และด้วยการที่เขาทำการขายเฟอร์นิเจอร์ในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งอยู่พอสมควร จึงทำให้เมื่อวันเวลาผ่านไปเพียง 2 ปี เหล่าบรรดาดีลเลอร์เฟอร์นิเจอร์ทั้งหลายพากันไปกดดันไม่ให้ทางผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ ส่งสินค้าให้กับ IKEA อีกต่อไป

      และจากเหตุการณ์นี้นี่เอง ที่ทำให้เขาหันมาออกแบบผลิตเฟอร์นิเจอร์เอง โดยได้สร้างคอนเนคชั่นใหม่ ๆ ด้วยการเสาะหาผู้ที่สามารถส่งวัตถุดิบจำพวกไม้และวัตถุดิบอื่น ๆ จนกระทั่งไปได้ซับพลายเออร์จากประเทศโปแลนด์ แถมยังได้ในราคาต้นทุนที่ต่ำกว่าเดิมซะอีก แต่ในครั้งนี้ อิงก์วาร์ คัมพราด ก็กำชับกับซับพลายเออร์ว่า ห้ามบอกให้ใครรู้เป็นอันขาด เพื่อป้องกันไม่ให้เหล่าบรรดาพวกดีลเลอร์ตามมากดดันไม่ให้ซับพลายเออร์ส่งสินค้าให้กับ IKEA เหมือนคราวที่แล้วอีก

 

Sponsored Ad

 

      ไอเดียของเขาก็บรรเจิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่บริษัทกำลังขนส่งโต๊ะให้ลูกค้า แล้วไม่สามารถนำส่งขึ้นรถได้ ต่อให้ขยับอย่างไรก็ตาม จึงจุดประกายให้เขาคิดค้นดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถถอดประกอบได้ แถมยังได้รับรางวัล Swedish Design ที่มีการออกแบบเฟอร์นิเจอร์มาแล้วอีกด้วย และนอกจากนั้นยังง่ายต่อการแพ็คสินค้านำส่ง สามารถลดต้นทุนการขนส่งได้อย่างมหาศาลเนื่องจากมีพื้นที่ในการขนส่งที่เยอะขึ้น ทำให้เขาสามารถแข่งขันกับรายอื่นได้อย่างสบาย ๆ แถมราคาสินค้าก็ถูกแบบชวนให้ซื้อ 

 

Sponsored Ad

 

      เขาเคยกล่าวเอาไว้ว่า.. “สำหรับเฟอร์นิเจอร์ดีไซเนอร์ การออกแบบโต๊ะราคา 1,000 ดอลลาร์เป็นเรื่องง่าย ๆ แต่การออกแบบโต๊ะที่สวยงามและใช้งานได้ดี ในราคา 50 ดอลลาร์ จะต้องใช้ความทุ่มเทอย่างที่สุดเท่านั้น” และทำให้ IKEA กลายเป็นเจ้าแรกที่ทำเฟอร์นิเจอร์แบบ flat packaging หรือ Ready to assemble โดยให้ลูกค้ากลับไปประกอบเองที่บ้าน

Sponsored Ad

      หลังจากนั้นมา IKEA ก็ได้มีการเปิดสาขาใหม่ ๆ หลายแห่ง มีสินค้ามากมายหลายพันชิ้น จนได้รุกเข้าสู่ตลาดใหม่อย่างกว้างขวางโดยใช้แนวคิดในการจัดจำหน่ายว่า เป็นเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านในราคาย่อมเยาว์ ในราคาที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้, มีประโยชน์ในการใช้สอย, คุณภาพดี, ดีไซน์สวยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยใส่ใจทุกแง่มุม ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นของ IKEA ที่ต้องการให้เป็น “Mass Products” สินค้าทุกชิ้นมีสไตล์ที่โดดเด่นเฉพาะตัว รวมทั้งประหยัดพื้นที่และลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง จวบจนปัจจุบัน IKEA สามารถขยายสาขาได้มากกว่า 400 สาขากระจายอยู่ 50 ประเทศทั่วโลก

      ซึ่งที่ผ่านมาไม่ว่าชีวิตของเขาจะมั่งคั่งร่ำรวยอย่างไร แต่เขาก็ยังคงใช้ชีวิตประจำวันอย่างเรียบง่าย มัธยัสถ์ ใช้รถยนต์เก่าที่มีอายุร่วม 20 ปี ใช้บริการสายการบินชั้นประหยัด พักในโรงแรมถูก ชอบซื้อสินค้าลดราคา และใช้เสื้อผ้าแบรนด์ธรรมดาทั่ว ๆ ไป

      โดยเขาเคยกล่าวเอาไว้ว่า “ผมซื้อเสื้อผ้าดี ๆ มาใส่ ทานอาหารร้านหรู ๆ บ้าง แต่การใช้ชีวิตอย่างสุรุ่ยสุร่ายมาก ๆ อาจจะกระทบต่อผู้อื่น เช่น ลูกน้องที่เลือกผมเป็นแบบอย่าง ซึ่งคนที่เป็นหัวหน้า ควรทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกน้อง ทั้งด้านการบริหารและชีวิตส่วนตัว”

      โดยเขาให้ความสำคัญกับทีมงานมาก ซึ่งไม่ได้มองว่าเป็น ลูกจ้าง แต่มองว่าทุกคนคือครอบครัวและมักปลุกพลังกระตุ้นพลังงานให้มีใจรักในงานที่ทำอยู่เสมอ โดยมีความเชื่อและมีความศัทธาในตนเอง ว่าทุกอย่างสามารถเป็นไปได้ สามารถเกิดขึ้นได้ และสามารถทำสำเร็จได้ ถ้าตั้งใจจริง

ชมคลิป..

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<

      แม้วันนี้เด็กชายขายไม้ขีดไฟ ผู้สร้างปรากฎการณ์สั่นสะเทือนอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ทั่วโลกจะจากไปแล้วอย่างสงบ ในวันที่ 27 มกราคม ปี 2018 ที่ผ่านมา แต่เรื่องราวของ อิงก์วาร์ คัมพราด นักธุรกิจชื่อดังชาวสวีเดนในวัย 91 ปี ก็ยังคงอยู่ในใจคนทั้งโลกตราบนานเท่านาน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเส้นทางชีวิต แนวคิดและการสร้างธุรกิจที่ไม่ธรรมดาของเขายังคงทรงคุณค่าให้กับคนในยุคปัจจุบันได้จดจำ โดยเฉพาะจิตวิญญาณแห่งความตั้งใจ อุตสาหะ มัธยัตถ์ และการบรรจงสร้างเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่ออกแบบมาจากความรัก จิตวิญญาณ จะสถิตย์อยู่ในเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นของ IKEA มิมีวันเสื่อมคลาย

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก blueoclock

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ