"มิสเวียดนาม" สาวชนเผ่า สู่อ้อมอกครอบครัว ฝ่าดราม่าดูแคลน ติด Top 5 มิสยูนิเวิร์ส 2018

LIEKR:

นี่แหละคือความสุขที่สุดแล้ว "มิสเวียดนาม" กลับบ้านพบครอบครัว ความเป็นอยู่เรียบง่าย ที่ไม่มีใครเคยเห็น! <3

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        ฉลองอย่างเรียบง่าย! ‘มิสยูนิเวิร์สเวียดนาม’ สร้างประวัติศาสตร์ติด 5 คนสุดท้ายของการประกวด กลับประเทศฉลองเพียงอาหารพื้นบ้าน (ชมคลิปท้ายข่าว)

        ดูแคลนจากเพื่อนนางงามเวที มิสยูนิเวิร์ส 2018 เรื่องการพูดภาษาอังกฤษไม่ดีนัก สาวห่างไกล เฮอ เฮิน เนีย นางงามเวียดนาม ก็ยอมรับตรงๆว่า มันเป็นเรื่องจริงที่ฉันไม่เก่งภาษาอังกฤษนัก…แถมบอก ไม่คิดว่าเป็นคำที่แรง ฉันไม่เข้าใจภาษาอังกฤษมากนัก อาจเป็นเรื่องดีก็ได้ (อ่านข่าวเพิ่มเติม : ถ้ารู้จักเธอคงไม่กล้าดูถูก! เผยประวัติ "มิสเวียดนาม" ที่ถูกดราม่าเรื่องภาษา ในมิสยูนิเวิร์ส 2018)

        ในกรณีนี้ถือเป็นตัวแทนเวียดนามคนแรก ที่ผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย สาวงามที่กำลังเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์อีกคน สาวแกร่งผมสั้น นางงาม เอเด เฮอ เฮิน เนีย ที่เจ้าตัวบอกว่า สิ่งที่จะนำกลับบ้านเกิด ไม่ใช่แค่ความภาคภูมิใจในฐานะตัวแทนเวียดนาม ที่สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายเป็นคนแรกเท่านั้น

        ความท้าทายหลักคือการเป็นแรงส่งเสริมการพิทักษ์สิทธิสตรี หรือ กระแสมีทู (#MeTooMovement) ในเวียดนาม โดยเฉพาะในเมืองดาลัด บ้านเกิดของเธอ

        การขับเคลื่อน มีทู สำหรับฉัน มันยังไปไม่ไกลพอ เพราะการคุ้มครองความเป็นอยู่ของผู้คนจากการล่วงละเมิดทางเพศ การพิทักษ์ผู้หญิง เป็นสิทธิอันล้ำค่า พวกเราทุกคนต้องการการคุ้มครอง ชีวิตเราจำเป็นต้องมีเสรีภาพ

        โดยมีคลิป มิสเวียดนาม สุดแกร่งผู้นี้ กับชีวิตในบ้านเกิดของตัวเอง ที่ห่างไกล ค่อนข้างทุรกันดาร ซึ่งเจ้าตัวยังได้แบกข้าวของไปแจกจ่าย พร้อมสวมกอด เป็นภาพที่สวยงามมากๆ บอกเล่าถึงตัวเธอได้เป็นอย่างดี โดยมีคนเข้าไปชมกันจำนวนมากเกือบ 5 ล้านครั้ง สมกับที่เธอได้ตำแหน่ง Top 5 มิสยูนิเวิร์ส 2018 อย่างมาก

        ได้รับการต้อนรับกลับบ้านอย่างอบอุ่นสำหรับสาวสู้ชีวิต “เฮอ เฮนนี” มิสยูนิเวิร์สเวียดนาม 2018 และ 5 คนสุดท้าย มิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่สร้างประวัติศาสตร์ผลงานที่ดีที่สุดให้กับประเทศชาติ แต่ต่อให้ขึ้นแท่นสาวฮอตสุดๆ ในเวลานี้ของเวียดนาม เธอก็ยังคงใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายเหมือนเดิม

        ล่าสุดเธอได้รับการต้อนรับจากชาวเวียดนามที่มารอรับที่สนามบินเยี่ยงวีรสตรีของชาติ หลังจากที่กลับมาถึงเธอก็มีคิวติดต่อรอสัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ยาวเหยียด

        โดยหลังจากที่กลับถึงสนามบิน เธอก็เดินทางต่อทันทีเพื่อกลับบ้านที่ จังหวัดดักลัก ถิ่นฐานของชนกลุ่มน้อยของประเทศ พร้อมกับสื่อมวลชนที่ติดตามไปเพียบ เมื่อกลับไปถึงบ้าน

        สิ่งแรกที่เธอทำคือฉลองกับครอบครัวแบบเรียบง่ายๆ ด้วยอาหารแบบบ้านๆ อาทิ ไก่ต้ม แกงจืด ฯลฯ ที่นั่งรับประทานกันแบบง่ายๆ วางที่พื้นบ้าน แบบที่เคยเป็น

        หลังจากนั้นก็ออกไปเก็บของป่า และนำของกิน ขนม ที่เธอได้เป็นของฝาก นำไปให้ชาวบ้านในหมู่บ้าน ที่สนิทสนมกันเหมือนครอบครัว เยี่ยมผู้สูงอายุ และน้องๆที่พิการ ที่เธอเคยให้การอุปการะมาก่อน

        ซึ่งเธอเต็มไปด้วยความสุข ที่ได้กลับบ้าน ซึ่งวันนี้เรามีคลิปชีวิตของเธอหลังได้กลับถึงบ้านอยู่พร้อมหน้ากับครอบครัว และออกช่วยเหลือคนรอบข้าง ซึ่งเป็นคลิปที่น่าประทับใจมากๆ

        นอกจากเธอจะกลายเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนเวียดนามนับตั้งแต่เธอได้รับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สเวียดนามแล้ว มาวันนี้ เธอกลายที่รู้จักของคนทั้งโลก ไม่เพียงเพราะภาพลักษณ์ของเธอเท่านั้น เรื่องราวที่มาของเธอก็ทำให้บรรดาสื่อต่าง ๆ ต่างรายงานว่า เธอมีเรื่องราวที่น่าสนใจที่สุด

        นางงามวัย 26 ปี ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศว่า เมื่อจบภารกิจในฐานะตัวแทนประเทศแล้ว จะเดินทางกลับภูมิลำเนา หมู่บ้านของชนชาวเขา “เอเด” ในแถบที่ราบสูงทางตอนกลางของเวียดนาม เพื่ออยู่กันพร้อมหน้ากับครอบครัวและญาติมิตร

.

.

.

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<<

อ่านข่าวเพิ่มเติม : 

        ถ้ารู้จักเธอคงไม่กล้าดูถูก! เผยประวัติ "มิสเวียดนาม" ที่ถูกดราม่าเรื่องภาษา ในมิสยูนิเวิร์ส 2018

ข้อมูลและภาพ จาก khaosod