LIEKR:
โยคะเป็นที่รู้จักกันมานานหลายศตวรรษและการวิจัยได้พิสูจน์แล้วว่าการฝึกโยคะเป็นประจำจะช่วยปรับปรุงสุขภาพร่างกายจิตใจและจิตวิญญาณของคุณ สร้างความยืดหยุ่น ความสมดุลและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ รวมถึงการเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลังอีกด้วย
และหลายครั้งเราทำแล้วก็ไม่แน่ใจว่าแต่ละท่านั้นบริหารกล้ามเนื้อส่วนใดกันแน่ วันนี้แอดมินไลค์เกอร์มีภาพที่แสดงให้เห็นชัดๆเลยว่า แต่ละท่าเน้นบริหารกล้ามเนื้อส่วนไหนกันแน่ มาเริ่มท่าแรกกันเลย...
Sponsored Ad
1. ท่าหมา
1.1 โน้มตัวลงนอนพักบนฝ่ามือ อย่างอขา โอนมวลกายสู่ส้นเท้า ผลลัพธ์จะเป็นท่าทางที่คล้ายกับตัวอักษร V คว่ำ
1.2 อย่าฉีกส้นเท้าออกจากพื้น
Sponsored Ad
1.3 ยึดมั่นในตำแหน่งนี้ ทำท่านี้ค้างไว้ 30 วินาที แนะนำทำ 5 ครั้ง
จะเห็นว่าท่านี้คุณจะได้บริหารกล้ามเนื้อส่วนใดได้บ้าง
2. ท่าแพลงก์
Sponsored Ad
นอนคว่ำ ชัดข้อศอกกับพื้น ยกลำตัวเป็นเส้นตรงขนานกับพื้น ทำค้างไว้ 30 วินาที แนะนำเพิ่มระยะเวลาไปเรื่อยๆ ทำ 5 ครั้ง
เป็นท่าที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องได้ดีและยังเหมาะแก่การบริหาร กล้ามเนื่อส่วนอื่นๆ อีกด้วย ท่านี้ใช้พลังงานส่วนของหน้าท้อง สะโพกและต้นแขนที่สำคัญ
3. ท่าไม้กระดานหันขึ้น หรือ ท่าลานบิน
Sponsored Ad
นอนหงาย ยกลำตัวให้เป็นทางลาดเอียงตั้งแต่หัวจรดเท้า โดยใช้มือทั้งสองข้างยัดพื้น ทำค้างไว้ 30 วินาที แนะนำทำ 5 ครั้ง ท่านี้บริหารกล้ามเนื้อเกือบทุกส่วนของร่างกายจริง
4. ท่ามุมสามเหลี่ยมด้านข้าง
Sponsored Ad
4.1 กางขาข้างซ้ายไปด้านข้างให้สุด ส่วนขาข้างขวาให้ชันเข่า 90 องศา
4.2 กางมือออกทั้งสองข้างให้สุด มือขวาวางกับพื้นตำแหน่งของไหล่ขวา แขนซ้ายให้เหยียดตรงชี้ฟ้า
4.3 ทำท่านี้ค้างไว้ 30 วินาที แนะนำทำ 5 ครั้ง
5. ต้นไม้ยืดหัวไหล่
Sponsored Ad
5.1 ท่านี้เริ่มด้วยการยืนตัวตรง ให้เท้าทั้งสองข้างชิดกัน ยืดหลังให้ตรง เปิดอก เปิดไหล่ หน้ามองตรง โดยให้แขนและมือแนบกับลำตัว
5.2 จากนั้นยกขาขวาขึ้นเหยียบต้นขาซ้ายด้านใน จากนั้นพนมมือไว้เหนือศีรษะ โดยต้องเหยียดแขนให้สุด ผลักแขนไปให้ไกลหลังใบหู หายใจเข้าให้ลึกๆ
5.3 ทำสลับขา ทรงตัวให้ดี ต้องมีสมาธิ ทำท่านี้ค้างไว้ โดยหายใจเข้าออกช้าๆ 10 ลมหายใจ นับ 1 ครั้ง แนะนำทำ 5 ครั้ง
6. ท่านักรบ 1
Sponsored Ad
6.1 ชันเข่าขาขวา 90 องศา ส่วนเท้าซ้ายเหยียดตรง (เข่าซ้ายยืดตรงตลอดระยะเวลาการฝึกท่านี้) แล้วหันหน้าบิดสะโพกไปทางด้านหน้า
6.2 ยกแขนทั้งสองข้าง ขึ้นเหนือศีรษะ ผ่อนคลายคอและหัวไหล่ สายตามองตรงไปข้างหน้า
6.3 ทำท่านี้ค้างไว้ โดยหายใจเข้าออกช้าๆ 10 ลมหายใจ นับ 1 ครั้ง แนะนำทำ 5 ครั้ง จากนั้นทำสลับข้างซ้ำ
7. ท่านักรบ 2
7.1 ลดสะโพก ชันเข่าขาขวา 90 องศา ส่วนเท้าซ้ายเหยียดตรง (เข่าซ้ายยืดตรงตลอดระยะเวลาการฝึกท่านี้) แล้วหันหน้าบิดสะโพกไปทางด้านหน้า แขนกางอยู่ระดับหัวไหล่
7.2 กางแขนให้เป็นเส้นตรงอยู่ระดับหัวไหล่
7.3 ยืดอก หลังตรง สายตามองที่มือขวา
7.4 ทำท่านี้ค้างไว้ โดยหายใจเข้าออกช้าๆ 10 ลมหายใจ นับ 1 ครั้ง แนะนำทำ 5 ครั้ง จากนั้นทำสลับข้างซ้ำ
8. ท่านั่งหน้าผากจรดปลายเท้า
เริ่มต้นด้วยท่านั่ง เหยียดขาให้ตรง จากนั้นค่อยๆโน้มตัวไปข้างหน้า จนหน้าอกสามารถแตะโดนขาได้ หากในช่วงเริ่มต้นยังไม่สามารถทำได้ก็อย่าฝืนมากไป ค่อยๆฝึกทำไปเรื่อยๆ จนเส้นเอ็นเริ่มอ่อนตัว เมื่อโน้มตัวลงไปได้แล้ว ให้ใช้มือจับปลายเท้าเอาไว้ ทำท่านี้ค้างไว้ โดยหายใจเข้าออกช้าๆ 10 ลมหายใจ นับ 1 ครั้ง แนะนำทำ 5 ครั้ง จากนั้นทำสลับข้างซ้ำ
9. ท่าสะพาน
9.1 เริ่มต้นด้วยการนอนหงายราบลงกับพื้น กำหนดลมหายใจเข้าออก ให้จิตของคุณจดจ่ออยู่กับส่วนที่คุณต้องการผ่อนคลาย
9.2 จากนั้นชันเข่าขึ้นแล้วแยกเท้าให้อยู่แนวเดียวกับสะโพกของคุณ วางแขนไว้แนบกับลำตัว
9.3 ค่อยๆยกสะโพกขึ้นสูงจนก้นกบมาอยู่แนวเดียวกับหัวเข่าของคุณ ส่วนหน้าอกให้อยู่เหนือไหล่ โดยที่เท้าทั้งสองข้างสามารถขยับเข้าหาตัวคุณได้เล็กน้อย ท่านี้แน่นให้เกร็งหน้าท้องกับก้น
9.4 หายใจเข้าออกช้าๆเป็นจังหวะ 10 ลมหายใจ นับ 1 ครั้ง แนะนำทำ 5 ครั้ง จากนั้นทำสลับข้างซ้ำ
10. ท่าเด็กหมอบ
10.1 นั่งคุกเข่าเท้าชิดกัน ข้อเท้าหันไปด้านหลัง โดยนั่งบนส้นเท้า
10.2 หายใจออกพร้อมก้มตัวลง แล้ววางหน้าผากลงบนพื้น คอตรงไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ก้นอยู่บนส้นเท้า หากก้มไม่ได้ให้ยกก้นเล็กน้อย
10.3 เหยียดแขนสองข้างขึ้นไปข้างลำตัว ฝ่ามือแนบกับพื้น เหยียดแขนสองข้างไปที่ปลายเท้าให้มากที่สุด ค้างท่าไว้ 30 วินาทีแล้วจึงคลายท่า
10.4 หายใจเข้าออกช้าๆเป็นจังหวะ 10 ลมหายใจ นับ 1 ครั้ง แนะนำทำ 5 ครั้ง จากนั้นทำสลับข้างซ้ำ
11. ท่างู
11.1 นอนคว่ำอยู่บนพื้น เท้าเหยียดไปด้านหลังแล้วกดเท้าเพื่อให้เท้าแนบพื้นให้มากที่สุด มือวางไว้ข้างลำตัวในระดับไหล่ หน้าหันไปข้างหน้า
11.2 หายใจเข้าพร้อมกับหันหน้าตรง เอาคางจรดพื้น มือยันพื้นและเหยียดข้อศอก ยกศีรษะ ไหล่ หน้าอก เอวให้สูงขึ้นเงยหน้าไปด้านหลัง โดยส่วนที่ยังกดอยู่บนพื้นคือบริเวณหัวเหน่า ต้นขาและเท้า โดยที่ไม่มีอาการปวดหลัง
11.1 ให้ทำท่านี้ค้างไว้ 10 ลมหายใจ นับ 1 ครั้ง แนะนำทำ 5 ครั้ง
12. ท่าคันศร
นอนคว่ำ กางขาออกประมาณช่วงไหล่ งอเข่าขึ้นมาทางด้านหลัง โดยและเอามือจับที่ข้อเท้า หายใจเข้า ดึงขาขึ้น และยืดอกขึ้น ขมิบตะโพกป้องกันการปวดหลังส่วนล่าง มองตรงหรือมองด้านบน แต่ไม่มีการเกร็งที่คอ หายใจเข้าออกลึกช้าๆ เป็นจังหวะ ให้ทำท่านี้ค้างไว้ 10 ลมหายใจ นับ 1 ครั้ง แนะนำทำ 5 ครั้ง
13. ท่าเรือ
13.1 นั่งบนพื้น เท้าเหยียดตรง มือยันพื้นข้างสะโพก เหยียดแขน
13.2 หายใจออกและเอนลำตัวไปข้างหลัง ยกขาขึ้นจากพื้นทำมุม 45-55 องศากับพื้น ปลายเท้าอยู่เหนือศีรษะ
13.3 ยกแขนขึ้นเหยียดตรง ขนานกับพื้นและอยู่ในแนวระดับหัวไหล่ สังเกตมือจะอยู่ในระดับใกล้เข่า
13.4 ให้ทำท่านี้ค้างไว้ 10 ลมหายใจ นับ 1 ครั้ง แนะนำทำ 5 ครั้ง
14. ท่าปลา
14.1 เริ่มต้นด้วยการนอนหงายบนพื้น เหยียดกดปลายเท้า
14.2 ตอนนี้สูดดมยกอุ้งเชิงกรานของคุณเบา ๆ จากพื้นเลื่อนมือทั้งสองข้างด้านล่างก้นของคุณด้วยการวางฝ่ามือคว่ำลง
14.3 อย่ายกบั้นท้ายออกจากมือจนกว่าท่านี้จะเสร็จ จากนั้นกดที่สะบักไหล่เข้ากับหลังของคุณ เกร็งหน้าท้อง ดังภาพ
14.4 ให้ทำท่านี้ค้างไว้ 5 ลมหายใจ นับ 1 ครั้ง แนะนำทำ 5 ครั้ง
15. ท่ากอดเข่าขับลม
ท่านี้ช่วยในการปล่อยก๊าซพิษออกจากระบบร่างกายของคุณ
15.1 นอนลงบนเสื่อโยคะ โดยหลังนอนราบกับ (สังเกตอย่าให้ช่วงหลังมีช่องว่าง)
15.2 ขณะที่หายใจออกให้ยกเข่าไปที่หน้าอก จากนั้นสองมือกอดเข่าไว้ค้างไว้ 60 วินาที
15.3 หายใจออกช้าๆปล่อยมือ ให้เท้าอยู่ในท่าเตรียม แนะนำทำ 5 ครั้ง
ที่มา:brightside
แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR