"เจ้าชายวิลเลียม" ถูกควีนดุ หลังย่อตัวลงไปคุยกับ เจ้าชายจอร์จ ลืมไปชั่วขณะว่าตนเป็นเจ้าชาย

LIEKR:

แม้อยู่ต่อหน้าสาธารณชน เจ้าชายวิลเลียมก็ทรงเลือกทำแบบนี้

        ในฐานะคู่รักซึ่งได้รับการยกย่องจากสาธารณชนทั่วโลก เจ้าชายวิลเลียม (Prince William) และ เจ้าหญิงเคท มิดเดิลตัน (Kate Middleton) เริ่มตั้งแต่คบหากัน แต่งงาน จนตอนนี้เป็นพ่อแม่ การเปลี่ยนแปลงในทุกๆ ช่วงเวลา กลายเป็นที่พูดถึงของผู้คนมากมาย

        แต่สำหรับเรื่องสั่งสอนของลูกแล้ว กลับไม่ได้ผ่อนปรนไปกว่าพ่อแม่คนอื่นเลย การเป็นพ่อแม่ต้องเจอปัญหาเรื่องการเลี้ยงดูลูกทั้งวัน ซึ่งแม้แต่สมาชิกของราชวงศ์ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้

 

Sponsored Ad

 

        ไม่นานมานี้ทั้งคู่ไปร่วมกิจกรรมของ Cyberbullying เจอกับนักข่าว เจ้าหน้าที่หน่วยงานเยาวชน และผู้ปกครองมากมาย เจ้าชายวิลเลียมเปิดเผยว่าตัวเองก็มีความวิตกกังวลเหมือนผู้ปกครองคนอื่น กำลังปวดหัวกับคำถามที่ว่า “เด็กควรใช้เวลาเล่นเน็ตวันละเท่าไหร่”

ชมคลิป..

 

Sponsored Ad

 

        เจ้าชายวิลเลียมยังพูดถึงว่า เด็กสมัยนี้เติบโตขึ้นในสภาพแวดล้อมของสื่อสังคมออนไลน์ “นี่เป็นสิ่งที่เราก็ไม่รู้ว่าจะจัดการยังไง เราต้องการให้พวกเขาสอดคล้องกับโลก แต่เราก็ไม่ต้องการให้พวกเขาหมกมุ่นอยู่กับอินเตอร์เน็ตมากเกินไป” ทั้งสองยังยอมรับว่า ไม่เพียงแค่เด็กๆเท่านั้น ตัวเองก็ต้องเรียนรู็ “พวกเราปรึกษากันที่บ้านบ่อยๆ ลองวางมือถือลง มีสมาธิกับคนรอบข้าง”

在 Instagram 查看這則貼文

Kensington Palace(@kensingtonroyal)分享的貼文張貼

 

Sponsored Ad

 

        แม้ว่าจะบอกว่ามีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องการเรียนรู้ของลูก แต่การเลี้ยงดูแบบของเจ้าชายวิลเลียม และเจ้าหญิงเคทก็ยังเป็นที่เคารพของโลกภายนอก เดือนกันยายนปี 2016 เจ้าชายวิลเลียม และเจ้าหญิงเคทเดินทางไปแคนาดา เป็นทริปยาว 8 วัน โดยเจ้าชายจอร์จ และเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ได้ติดตามไปด้วย เมื่อทั้งสี่อยู่บนเครื่องบิน เจ้าหญิงเคทพบว่าเจ้าชายจอร์จรู้สึกอึดอัดที่ต้องเผชิญกับสื่อ ก็เลยรีบย่อตัวลงไปพูดกับลูกชายทันที การเคลื่อนไหวที่ละเอียดอ่อนนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า "ฟังอย่างกระตือรือร้น (Active listening)"

 

Sponsored Ad

 

        เรื่องราวคล้ายๆ กันเกิดขึ้นอีกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2017 เมื่อเจ้าหญิงเคทและลูกๆไปร่วมพิธีวิวาห์ของ Pippa Middleton และช่วยจัดเด็กถือดอกไม้ และลำดับงาน

 

Sponsored Ad

 

        เมื่อเห็นว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เจ้าหญิงเคทจะน้อมตัวลงมาคุยกับเด็กๆอย่างอดทน ซึ่งการกระทำนี้เป็นที่ชื่นชอบของชาวเน็ตเป็นอย่างมาก

        ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า “Active listening” สามารถทำให้เด็กสัมผัสได้ว่าตัวเองสำคัญ วิธีนี้ยังเหมาะกับการใช้เพื่อให้กำลังใจ และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน สร้างความมั่นใจและความภาคภูมิใจในตนเองมากขึ้น 

 

Sponsored Ad

 

        แต่ที่น่าสนใจก็คือ แม้ว่าวิธีการเลี้ยงลูกของทั้ง 2 พระองค์จะได้รับความนิยมอย่างสูง แต่ก็ต้องปวดหัวเช่นกัน

Sponsored Ad

        เดือนมิถุนายน ปี 2016 ประเทศอังกฤษจัดพิธีฉลองวันเกิดให้พระราชินีวัย 90 ปี มี ขบวนทหารสุดพิเศษ ในเวลานั้นสมาชิกราชวงศ์ต่างยืนดูด้วยความเพลิดเพลิน แต่ เจ้าชายวิลเลียมตื่นเต้นมาก และกระตือรือร้นที่จะคุยกับเจ้าชายจอร์จ จะเห็นได้ว่าเจ้าชายวิลเลียม มักจะย่อตัวลงไปหาเจ้าชายจอร์จ พระโอรสของเขาอยู่เสมอ โดยลืมไปชั่วขณะว่าตนเป็นเจ้าชาย นึกไม่ถึงว่าราชินี Elizabeth ที่อยู่ข้างๆจะ ตบไหล่บอกให้หยุด

        แม้ครั้งนี้ราชินี Elizabeth ถึงขั้นดุเจ้าชายวิลเลียม ขณะที่กำลังยืนอยู่ในพิธีการอันยิ่งใหญ่ต่อหน้าผู้คนนับร้อย แต่ตัวเจ้าชายวิลเลียมเองยังคงนั่งยองๆ ลง เพื่อพูดคุยกับลูกชาย อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญบอกว่ากลเม็ดนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

        เพราะเมื่อคุณนั่งลงต่อหน้าลูก คุณจะสามารถมองดวงตาของพวกเขาได้ง่ายๆ วิธีนี้ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเป็นเทคนิคการฟังที่ดี เพื่อให้เด็กๆ เห็นว่าคำพูดของพวกเขานั้นสำคัญกับพ่อแม่ของเขา อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความนับถือตัวเอง เพิ่มความไว้วางใจ และช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ได้พุดคุยกับลูกๆ มากขึ้นแม้อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากก็ตาม

        นักจิตวิทยายังแนะนำอีกว่า "พ่อแม่ควรจะหยุดกิจกรรมทุกอย่างสักครู่หนึ่งเพื่อมาคุยกับลูกเวลาที่พวกเขาคุยกับเรา เพื่อให้ความสนใจกับพวกเขา" และนี่ยังเป็น 1 ใน 30 วิธีการพูดกับลูก เพื่อให้ลูกทำตาม และไม่ต่อต้าน

        เพราะการประสานสายตาระหว่างพูดกับลูกนั้นก่อนที่จะเริ่มพูดกับลูกให้ประสานสายตากับลูกก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังฟังลูกอยู่และลูกก็จะฟังขึ้น แล้วนั่งลงอยู่ในระดับเดียวกับลูก และมองลูกด้วยสายตาแห่งความรัก

        แม้ว่าจะมียศเป็นถึงเจ้าหญิงและเจ้าชาย ทั้งเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคทล้วนมีความรักและความอดทนต่อเด็ก ไม่ต่างจากพ่อแม่ทั่วไป เป็นที่ชื่นชมของชาวเน็ต

        แม้ว่าการอบรมสั่งสอนจะเป็นเรื่องที่ต้องทำชั่วชีวิต แต่ด้วยความรักและความอดทนต่อเด็กๆ เชื่อว่าเจ้าชาญวิลเลียม และเจ้าหญิงเคทจะสามารถสอนคนอีกรุ่นให้ยอดเยี่ยมมากๆได้แน่นอน

ที่มา : amarinbabyandkids

บทความที่คุณอาจสนใจ