คลิปสอนการออกกำลังกายด้วยความเร็วสูงภายใน 1 นาที:

เรื่องแรก: เรื่องแรกที่ต้องทำในทุกเช้าคือ ดื่มน้ำอุ่นผสมเกลือ 1 ถ้วย น้ำเกลือสามารถช่วยล้างลำไส้

อัตราส่วนในการผสมคือ น้ำ 100 มล. เกลือไม่เกิน 0.9 กรัม ดื่มน้ำเกลือในตอนเช้าสามารถช่วยขับถ่ายอุจจาระได้อย่างราบรื่น แล้วยังสามารถช่วยเติมน้ำและอิเล็กโทรไลต์ในปริมาณที่เหมาะสมให้กับร่ายกาย ดื่มในหน้าร้อนจะช่วยป้องการเป็นลมแดดได้อีกด้วย

เรื่องที่สอง: กินพุทราจีนอบแห้ง 12 เมล็ดในขณะท้องว่าง

การกินพุทราจีนอบแห้ง สามารถช่วยป้องกันผมร่วง ใช้ในการบำรุงเลือดและเป็นยาระบายได้ เมื่อนั่งอยู่ในออฟฟิศเป็นเวลานาน ใครที่อยากจะดื่มกาแฟ ลองมาเปลี่ยนเป็นชาเขียวดู และใส่พุทราจีนอบแห้งลงไปด้วย นอกจากจะช่วยบำรุงผิวหน้าให้ดูดีแล้ว ยังสามารถช่วยบำรุงเลือดและลดน้ำหนักได้

วิธีการทำชาเขียวพุทรา: พุทราจีนอบแห้ง 5-7 เมล็ด ใบชาในปริมาณที่เหมาะสม

วิธีทำ: ล้างพุทราให้สะอาด ใช้มีดผ่าครึ่ง นำไปใส่ในกาต้ม เติมน้ำแล้วต้มให้เดือด จากนั้นใช้น้ำต้มพุทรานี้มาชงชา

ความรู้เพิ่มเติม: ชาวจีนถือว่า พุทราจีนแห้งเป็นยา มีสรรพคุณในการบำรุงเลือด บำรุงประสาท และแก้อาการนอนไม่หลับ แก้อาการไอ บำรุงอวัยวะภายในและสมอง ช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบทางเดินอาหาร

เรื่องที่สาม: กินกล้วย 1 ลูก

กล้วย เป็นยาช่วยระบาย ในการลดน้ำหนักควรให้ความสนใจอย่างมากกับการล้างลำไส้และการขับถ่าย

สองวิธีในการกินกล้วยให้อร่อย: สลัดกล้วยหอม หั่นกล้วยเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นผสมกับน้ำสลัดนำไปใส่ในตู้เย็นแล้วแช่ไว้สักครู่ เพียงแค่นี้ สลัดกล้วยที่หอมหวานก็ได้แล้ว  ข้าวโอ๊ตกล้วยหอม เติมน้ำให้พอดีแล้วต้มข้าวโอ๊ตให้สุก จากนั้นนำกล้วยไปหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วใส่ลงไปในข้าวโอ๊ต และให้ใส่เก๋ากี่ตามลงไปด้วย ต้มต่ออีกประมาณห้าหรือหกนาทีก็เป็นอันเสร็จ

เรื่องที่สี่: ควรดื่มนมในมื้ออาหารเช้า

การดื่มนม 1 แก้วสามารถทำให้เรารู้สึกอิ่มท้องได้ ดังนั้นการดื่มนมจึงเป็นวิธีที่ดีในการลดน้ำหนัก

วิธีลดน้ำหนักด้วยการดื่มนม: ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้วในตอนเช้าก่อน จากนั้นดื่มนม 1 แก้วตามลงไป และกินอาหารเที่ยงตามปกติ แต่ไม่ควรกินอิ่มมากเกินไป ดื่มนมในตอนเย็นและกินแตงกวาอย่างเหมาะสม ไม่ควรกินอาหารอย่างอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่มีรสหวาน

4 ท่าออกกําลังกาย ฝึกทำเป็นเวลาหนึ่งเดือนจะสามารถลดความอ้วนได้เป็นอย่างดี

ท่าออกกําลังกาย 4 ท่านี้ จะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลกับปัญหาหลังหนาเอวใหญ่และพุงย้อยอีกต่อไป

ท่าที่หนึ่ง: ท่าแกว่งแขนและบิดเอว

ทำท่าแกว่งแขนและบิดเอวตามในรูปทำทั้งหมด 5 เซต เซตละ 30 ที ระหว่างเซตหยุดพัก 60 วินาที

ท่าที่สอง: ท่าสควอทและบิดหัวไหล่

ท่านี้จะช่วยบริหารกระดูกไหปลาร้าและส่วนหลังอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้หุ่นดูเพรียวและบอบบาง ทำทั้งหมด 5 เซต เซตละ 30 ที ระหว่างเซตหยุดพัก 30 วินาที

ท่าที่สาม: ท่าขยายหน้าอกและยกขา

ช่วยปรับปรุงอาการหลังค่อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถเร่งการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย ทำทั้งหมด 5 เซต เซตละ 25 ที ระหว่างเซตหยุดพัก 30 วินาที

ท่าที่สี่: ท่ายกทั้งมือและเท้า

ช่วยบริหารกล้ามเนื้อในบริเวณเอว ทำทั้งหมด 4 เซต เซตละ 25 ที ระหว่างเซตหยุดพัก 60 วินาที

นอกจากทำการออกกำลังกายแล้ว ท่านั่งในชีวิตประจำวันก็ควรระวัง เพราะท่านั่งที่ไม่ดีจะส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด ซึ่งนานๆ ไปจะนำไปสู่ปัญหาการอุดตันของไขมัน ทำให้ดูอ้วนมากขึ้นได้หลังที่เต็มไปด้วยไขมัน นอกจากดูแก่แล้วยังขาดความเซ็กซี่

ปกติก็ควรกินอาหารที่มีไขมันสูงน้อยลงเพื่อหลีกเลี่ยงไขมันสะสมในร่างกาย และควรออกกำลังกายทุกวัน หากเป็นไปได้แนะนำทำการออกกำลังกายเน้นส่วนหลังเพิ่ม 1-2 ครั้งในทุกสัปดาห์