ข่าวการแพร่ระบาดของไวรัส Covid - 19 ก็ยังคงไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ และมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศเกาหลีใต้และญี่ปุ่นที่นับว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงที่สุดนอกประเทศจีน แต่ถึงอย่างไรข่าวการแพร่ระบาดของไวรัสนี้ ก็ทำให้เกิดความสนใจในตัวผู้ชายคนหนึ่งขึ้นมาทันที หลังมีการออกประกาศภาวะฉุกเฉินไวรัส Covid – 19 บนเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่นในวันนี้ 

    จากผู้ว่าราชการจังหวัดฮอกไกโด ซึ่งนอกจากคำประกาศจะเป็นที่สนใจของคนทั่วประเทศญี่ปุ่นแล้ว ยังเป็นที่สนใจของชาวเน็ตไทยอีกด้วย โดยเฉพาะสาวๆ ที่ต่างแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่า ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนนี้ จะเป็นถึงระดับผู้ว่าฯ แห่งเกาะใหญ่ทางเหนือของญี่ปุ่น และต่างขุดรูปมาแชร์กันจนฟินในความหล่อผู้ว่าหนุ่มแดนซามูไรไปทั่วโลกออนไลน์

    สำหรับผู้ว่าฯ หนุ่มคนนี้มีชื่อว่า “นาโอมิชิ ซูซูกิ” (Naomichi Suzuki) เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2524 ก็อายุ 39 ปีแล้ว เป็นนักการเมืองชาวญี่ปุ่นซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ว่าการฮอกไกโด โดยก่อนหน้านี้เขาเคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองยูบาริเป็นระยะเวลา 2 สมัยติดต่อกันระหว่างปี 2554 - 2562 นอกจากนี้เขายังดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าสำนักงานอธิปไตยภูมิภาคของสำนักงานคณะรัฐมนตรีอีกด้วย เรียกว่าดีกรีทางการเมืองไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

    ผู้ว่าฯ ซูซูกิเกิดที่เมืองคาสุเกะ จังหวัดไซตามะ ชานกรุงโตเกียว และเติบโตในเมืองมิซาโตะในจังหวัดเดียวกัน จบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมมิซาโตะ โดยเขาอาศัยอยู่กับแม่เพียงลำพัง เนื่องจากการหย่าร้างของพ่อและแม่

    หลังจบการศึกษาระดับมัธยมปลายแล้ว เขาไม่มีโอกาสศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยทันทีเนื่องจากประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ และเมื่อตอนอายุ 18 ปีเขาสมัครและได้คัดเลือกเป็นพนักงานของที่ทำการกรุงโตเกียว เมื่อเดือนเมษายน 2542 จนกระทั่งปีเดือนเมษายนปี 2543 เขาได้ศึกษาระดับอุดมศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยโฮเซอิ และจบการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ในปี 2547 ซึ่งขณะที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย เขายังเป็นถึงกัปตันของชมรมมวยและแข่งขันจนได้รับรางวัลรองชนะเลิศในปี 2545 ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติอีกด้วย

    ช่วงที่เป็นพนักงานของโตเกียว เขาได้ร่วมงานกับสำนักงานสาธารณสุขของกรุงโตเกียว (ปัจจุบันคือสำนักงานอนามัยและสวัสดิการโตเกียว), สถาบันสาธารณสุขกรุงโตเกียว (ปัจจุบันคือศูนย์วิจัยความปลอดภัยและสุขภาพในนครโตเกียว), ศูนย์การแพทย์คิตะและสำนักอนามัยและสวัสดิการและกรมนโยบาย หลังจากดำรงตำแหน่งในแผนกควบคุมกองสวัสดิการกรมอนามัยและกิจการในฐานะหัวหน้าส่วนบริหารทั่วไป

    เดือนมกราคม 2551 เขาถูกส่งตัวไปยังเมืองยูบาริในฐานะเจ้าหน้าที่ประจำเมือง และปี 2553 เขาถูกย้ายไปทำงานขึ้นตรงกับสำนักงานยุทธศาสตร์อำนาจอธิปไตยภูมิภาคของสำนักงานคณะรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ากองงานทั่วไปของฝ่ายกิจการทั่วไปของสำนักงานใหญ่ผู้ว่าราชการโตเกียว (ปัจจุบันคือสำนักวางแผนนโยบายของรัฐบาลกรุงโตเกียว)

    เดือนพฤศจิกายน 2553 เขาได้แสดงเจตจำนงที่จะลงสมัครเลือกตั้งในตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองยูบาริและออกจากราชการในโตเกียว ในฐานผู้สมัครอิสระ จนสุดท้ายในเดือนเมษายน 2554 ซึ่งเขามีอายุเพียง 30 ปี 1 เดือน ซูซูกิกลายเป็นนายกเทศมนตรีที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับการเลือกตั้งของประเทศญี่ปุ่น

    ต่อมาในเดือนมีนาคม 2556 ก็ได้รับเลือกให้เป็น "Young Global Leaders" โดย World Economic Forum ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดาวอส

    ในปี 2557 เขาเข้าร่วมในกระทรวงการคลังในสภาระบบการเงินในฐานะผู้เชี่ยวชาญ

    ในเดือนเมษายน 2558 เขาได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองยูบาริอีกสมัย และเดือนพฤศจิกายนเขาได้รับรางวัล "Best Dresser Award" จากสมาคมแฟชั่นผู้ชายญี่ปุ่น ว่าเป็นผู้ชายที่แต่งตัวดีที่สุดของประเทศด้วย

    ยูบาริ เป็นเมืองเล็กๆ นอกสายตาที่ตั้งอยู่กลางเกาะฮอกไกโด ผู้เมือที่คนญี่ปุ่นเองก็ยังไม่ได้ให้ความสนใจ ซูซูกิ และทีมผู้บริหารของเมืองรวมทั้งชาวเมือง ได้ช่วยกันทำงานอย่างหนักหลายปีเพื่อผลักดันให้เมืองเป็นที่รู้จักให้ได้ และสุดท้ายก็หาจุดขายของเมืองได้สำเร็จ โดยเป็นเมืองที่โด่งดังด้วยเมล่อนที่อร่อยที่สุดในประเทศ และงานเทศกาลสะดือ ที่กลายเป็นเทศกาลสำคัญของเมือง จนยูบาริกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวปักหมุดอีกแห่งของฮอกไกโดได้สำเร็จ

    หลังพ้นวาระการดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองยูบาริ เขาได้ลงสมัครเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้ว่าการฮอกไกโดเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2562 และในวันที่ 7 เมษายนปีเดียวกันนี้ เขาได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการฮอกไกโดเป็นสมัยแรกโดยเอาชนะผู้สมัครรวมพรรคฝ่ายค้านในการเลือกตั้งขาดลอย ส่งผลให้ซูซูกิเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น ด้วยอายุเพียง 39 ปี

    เมื่อชนะการเลือกตั้งปีเมื่อปี 2562 ผู้ว่าฯ ซูซูกิ ได้ขอเลือกที่จะพักในแมนชั่นแทนจวนผู้ว่าฯ เพื่อประหยัดค่าจัดการบ้านหลังใหญ่ให้รัฐได้ปีละสิบล้านบาท และจ่ายค่าเช่าส่วนต่างเดือนละสองหมื่นบาทเองอีกด้วย

    นับว่าเป็นผู้ว่าราชการที่มีโปรไฟล์แข็งแรงอย่างมาก และผ่านงานด้านสาธารณะสุขมาโดยตรง ซึ่งนี่จะเป็นโอกาสพิสูจน์ฝีมือของผู้ว่าฯ หนุ่มหล่อคนนี้ ที่ไม่ได้มีดีเพียงแค่หน้าตา ว่าจะสามารถพาเกาะสำคัญด้านการท่องเที่ยวอย่างฮอกไกโด ให้ผ่านพ้นวิกฤติไวรัส Covid – 19 ไปได้หรือไม่

จากโพสต์ต้นฉบับ

ข้อมูลและภาพ จาก เพจ Reporter Journey ตามติดชีวิตนักข่าว