เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาหลายประเทศต่างรับมือกับวิกฤตโควิด-19 ที่ยังคงขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ แต่กลับพบว่าหนึ่งในพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้ออย่างไต้หวัน กลับพบว่าแทบไม่มีปัญหาในการจัดการและการรับมือกับการระบาดครั้งนี้เลย แม้จะอยู่ใกล้กับจีนแผ่นดินใหญ่มากก็ตาม ส่วนหนึ่งเพราะที่นั่นมีการจัดการด้านข้อมูล และการกระจายอุปกรณ์ป้องกันอย่างหน้ากากอนามัยได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมสำหรับประชาชนทุกคน

     โดยเบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้ เกิดจากฝีมือของ “ออเดรย์ ถัง” (Audrey Tang) หรือ ถังเฟิ่ง (唐鳳) รัฐมนตรีกำกับดูแลงานด้านดิจิทัล ที่ได้ชื่อว่าเป็นรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุดในสภาฯ และเป็นรัฐมนตรีสตรีข้ามเพศคนแรกในประวัติศาสตร์ไต้หวัน แน่นอนว่าคำยกย่องเหล่านี้ ย่อมได้มาด้วยฝีมือของเธอทั้งสิ้น

 

 

    และเมื่อไม่นานมานี้ สื่อญี่ปุ่นถึงกับออกปากยกย่องว่า "ญี่ปุ่นไม่มีใครเก่งเหมือนถังเฟิ่งอีกแล้ว" โดยสื่อต่างประเทศต่างยกย่องเธอว่าเป็นบุคคลอัจฉริยะ ผู้มีส่วนสำคัญต่อการต่อการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในไต้หวัน และระบุว่ารัฐบาลญี่ปุ่นควรมาเรียนรู้จากงานของเธอ

 

 

 

ประวัติ ออเดรย์ ถัง โดยคร่าว

    1. ปัจจุบันออเดรย์ ถังอายุ 38 ปี  (เกิด 18 เม.ย. 1981)

    2. เธอมีไอคิวสูงถึง 180

    3. เขียนโปรแกรม Perl ตั้งแต่อายุ 12 ปี

    4. ขณะที่อายุ 14 ปี ออเดรย์ ถัง ได้ลาออกจากโรงเรียน เนื่องจากการเป็นเด็กอัจฉริยะเกิน จึงมักแตกต่างกับเพื่อนในห้อง เพราะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในโรงเรียนได้

    5. เมื่อตอนอายุ 15 ปี เริ่มศึกษาด้วยตัวเอง และหันมาพัฒนา Search Engine ในภาษาจีนแมนดารินได้สำเร็จ

    6.เมื่ออายุได้ 16 ปี ก็เริ่มก่อตั้งธุรกิจของตัวเอง

 

 

    7. อายุ 19 ปี สั่งสมประสบการณ์การเป็นนักพัฒนาที่ ซิลิคอนวัลเลย์(Silicon valley) ที่อเมริกา

    8.ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 100 นักคิดโลก โดย Foreign Policy เมื่อต้นปี 2019

    9. เมื่อตอนอายุ 35 ปีได้รับเชิญให้ร่วมสภาบริหารในตำแหน่งรัฐมนตรีด้านดิจิทัลทำให้เธอเป็นรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุดในสภาบริหาร

    10. ถังเป็น “รัฐมนตรีสตรีข้ามเพศคนแรก” ในรัฐบาลไต้หวัน

    11. ปัจจุบันได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 20 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกด้านรัฐบาลดิจิตอล (GovTech)

    ออเดรย์ ถัง ได้ทำงานร่วมกับสำนักงานประกันสุขภาพไต้หวัน ในการเผยแพร่ข้อมูลด้านอุปทานของหน้ากากอนามัยที่จำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไต้หวัน และประสานความร่วมมือกับบรรดาวิศวกรในการทำให้ข้อมูลเหล่านั้นสามารถเข้าถึงประชาชนได้ผ่านแพลตฟอร์มทางออนไลน์

 

 

ผลิตแอพฯ ที่สามารถเช็กได้ว่า จำนวนหน้ากากที่เหลืออยู่ในร้านขายยาแต่ละแห่งมีเหลืออยู่เท่าใด 

    แพลตฟอร์มดังกล่าวประกอบด้วยรายชื่อของทรัพยากรต่างๆ ที่ประชาชนสามารถใช้ในการค้นหาว่า หน้ากากอนามัยมีจำหน่ายอยู่ที่ใดบ้างและมีอยู่ในสต็อกของร้านขายยาแต่ละแห่งจำนวนเท่าใด ภายใต้ระบบการปันส่วนของรัฐบาล ที่รวมถึงแผนที่แบบอินเตอร์แอคทีฟ เพื่อให้ประชาชนทราบว่า จะสามารถหาซื้อหน้ากากอนามัยในท้องถิ่นได้จากที่ใดบ้างและโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถตอบกลับการสนทนาด้วยตัวอักษรแบบอัตโนมัติผ่านแอพพลิเคชั่น “ไลน์”

 

 

 ด้วยการใช้ระบบกูเกิล จีพีเอส (Google GPS) และ เพลส เอพีไอ (Place API) ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการเริ่มให้บริการ มันก็ได้รับความนิยมอย่างสูง ขณะที่ค่าใช้จ่ายสำหรับดำเนินการเว็บไซต์ ก็พุ่งขึ้นไปกว่า 6 แสนดอลลาร์ไต้หวัน

แผนที่ร้านขายยาที่จำหน่ายหน้ากากอนามัย

 

 

    นอกจากนี้ ถังได้ติดต่อกับหวูในวันเดียวกัน พร้อมกับทีมวิศวกรของกูเกิล เพื่อช่วยประคับประคองโครงการนี้ให้เดินหน้าต่อไปได้ ส่วนกูเกิลได้ยกเลิกการเก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมด ถังยังได้กล่าวของคุณบรรดาเภสัชกรที่ร่วมกันแบ่งปันข้อมูลสต็อกหน้ากากอนามัย และสถานภาพการทำงานให้ทราบอีกด้วย

    หน้าที่ของเธอยังรวมถึงการจัดหาข้อมูลที่สามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การจัดทำแผนที่ของสถานที่ทุกแห่งในไต้หวัน ที่ผู้โดยสารของเรือสำราญ “ไดมอนด์ ปรินเซส” เคยเดินทางไป เพื่อเตือนให้ชาวไต้หวันและนักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว

     โดยสื่อไต้หวัน ได้แชร์ข่าวนี้ในเฟซบุ๊ก พร้อมทั้งเรียกออเดรย์ ถัง ว่า เป็นบุคคลที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในทีมเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันการแพร่ระบาดแห่งชาติ และยกย่องเธอว่าเธอเป็นตัวอย่างของการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้เพื่อการป้องกันโรคระบาด

    นอกเหนือจากความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ เธอยังมีความเป็นนักเคลื่อนไหวขับเคลื่อนประชาธิปไตย โดยเฉพาะจุดยืนด้านเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนอีกด้วย

ข้อมูลและภาพจาก Audrey Tang 唐鳳