คู่รักปลดเกษียณ "ขายบ้าน" หอบเงินท่องโลก7 ปี หวนคืนความรักแบบ "ข้าวใหม่ปลามัน" อีกครั้ง

LIEKR:

การท่องเที่ยวที่สุดเหวี่ยงไปเลย

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

    เมื่อผ่านพ้นช่วงวัยกลางคนไปแล้ว ชีวิตแห่งการบั้นปลายก็เริ่มต้นขึ้น อะไรที่เมื่อก่อนไม่กลัว ภายหลังก็ไม่เสียใจ โปรดนำเรื่องราวนี้ส่งต่อให้คนที่คุณรู้จัก เพราะชีวิตไม่ใช่แค่ “ข้าวกล้อง น้ำมันกับเกลือเท่านั้น” เมื่อคุณชอบอะไรก็จงลงมือทำ เพราะทุกคนมีแค่ชีวิตเดียว!

ชีวิตตั้งแต่วัยเยาว์จนถึงแก่เฒ่า

 

Sponsored Ad

 

เป็นกฎเกณฑ์ของธรรมชาติที่ไม่อาจหลีกเหลี่ยงได้

แต่ทัศนคติต่อชีวิต

เราสามารถเลือกได้ด้วยตัวเอง!

"การเล่น"

เป็นวิถีชีวิตที่สง่างาม

เป็นความคิดของความอ่อนเยาว์

มันเป็นความลับที่ดีที่สุดในการชะลอความชรา!

"การเล่น" ก็คือ "เคล็ดลับอายุยืน"

ในความเป็นจริง คนชราที่มีอายุยืนยาวก็มีเคล็ดลับของตนเอง นั้นคือ “การเล่น”

    นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังของโลก เซอร์ไอแซก นิวตัน เมื่อแก่ชราลง สิ่งที่เขาชอบเล่นที่สุดก็คือ การหันหน้าเข้าหาแสงแดดแล้วเป่าฟองสบู่ นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เขาสนุกสนานมาก

 

Sponsored Ad

 

 

    นักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียง Yu Guang yuan เรียกตัวเองว่า "นักวิทยาศาสตร์การเล่นที่ยิ่งใหญ่" เขาได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับ "การเล่น" และนั้นได้กลายเป็นวิชาที่เขาถนัดเป็นอันดับสอง การเล่นคอมพิวเตอร์ การเขียนบล็อก และการเล่นเกมทางปัญญา เขาสู้คนหนุ่มสาวได้สบาย ฉะนั้นอย่าคิดว่า “การเล่น” มีไว้สำหรับคนหนุ่มสาวเท่านั้น

    เหมือนเช่นคู่รักวัยปลดเกษียณนี้ เริ่มต้นจากปี 2008 ภายใน 3 ปีข้ามเส้นศูนย์สูตรของโลก แบกเป้เที่ยวรอบโลกกว่า 35 ประเทศ และจบลงด้วยการเดินเท้าบนทวีปธารน้ำแข็งทวีปแอนตาร์กติก พวกเขาคือ “จางกวงจู่” และ “หวังจงจิน” ผู้สูงอายุสองคนที่มีอายุมากกว่า 60 ปี

 

Sponsored Ad

 

    การเขียนบล็อกและการเล่นเกมทางปัญญานั้นไม่เลวร้ายไปกว่าคนหนุ่มสาว

    สื่อจีน CCTV ได้ทำการสัมภาษณ์เรื่องราวการท่องเที่ยวของพวกเขา

 

Sponsored Ad

 

▲ทั้งสองได้ถ่ายรูปคู่ที่ Cape Agulhas ของแอฟริกาใต้

▲รอยยิ้มสดใส ก้าวเท้าว่องไว เดินทางท่องเที่ยวด้วยกันอย่างมีความสุข

 

Sponsored Ad

 

▲เล่นเหมือนกับคนหนุ่มสาว 

▲บางทีก็พบเจอคนบ้านเดียวกัน

▲เป็นย่ากระต่ายและปู่กระต่าย

    ทัศนคติในแง่ดีของพวกเขาที่มีต่อชีวิต ได้ส่งความสุขไปยังผู้คนนับไม่ถ้วน ชีวิตการเกษียณอย่างมีความสุขที่น่าอิจฉา พวกเขาได้แสดงออกเพื่อบอกผ่านเพื่อนๆในวัยเดียวกันว่า อะไรคือชีวิตหลังปลดเกษียณที่แท้จริง?

 

Sponsored Ad

 

(ซากปรักหักพังโบราณของอเมริกาใต้)

    อย่าเสียเวลาชีวิตเกษียณอยู่แต่ในชุมชนเล็กๆ ต้องเดินออกจากพื้นที่เหล่านั้น ถึงจะมีชีวิตชีวา

Sponsored Ad

    หลายคนถามคำถามพวกเขาว่า: ทำไมปลดเกษียณแล้วไม่นอนพักผ่อนอยู่ที่บ้าน แต่เอาเงินมาฟุ่มเฟือยทำสิ่งเหล่านี้ทำไม? หาเรื่องเหนื่อยเปล่าๆ คำตอบของทั้งสองค่อนข้างแน่นอนว่า “การเดินทางทั่วโลก ช่วยเปิดโลกทัศน์และทำให้พวกเขารู้สึกอายุน้อยลง”

   

    ก่อนที่จะปลดเกษียณจางกวงจู่และหวังจงจินทั้งคู่ใช้ชีวิตที่มีความมั่นคงมาตลอดชีวิต แต่พวกเขาไม่ต้องการมีชีวิตเกษียณแบบเรียบง่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนคนอื่น ๆ และไม่ต้องการที่จะใช้ชีวิตเกษียณในชุมชนและสวนเล็ก ๆเท่านั้น

     "ตามเงื่อนไขปัจจุบันการแพทย์พัฒนามากแล้ว การมีชีวิตจนถึง 80-90 ปี ถือเป็นเรื่องปกติมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลดเกษียณในอายุ 60 ปี และการมีอายุถึง 90 ปี หากคุณต้องการที่จะมีชีวิตแบบซ้ำซาก ก็เหมือนการมีชีวิตแบบรอคอยวันที่จะจากไปอย่างไงอย่างนั้น อีกอย่างการอยู่กับที่ก็ทำให้ป่วยได้ง่าย ไม่มีเรี่ยวแรง"  

    ในปี 2550 จางกวงจู่และหวังจงจินเดินทางไปยูนนาน พวกเขาเห็นชาวต่างชาติสองคนที่ไม่สามารถพูดภาษาจีนได้เลยถือหนังสือเดินทางและวิ่งไปที่จีนเพื่อเดินทางทั้งสองรู้สึกไม่มั่นใจทันทีและวางแผนการเดินทางครั้งแรกที่ยุโรป

    ทั้งคู่ได้เดินทางไปยังมณฑลยูหนาน ประเทศจีน และได้เข้าร่วมในงานเลี้ยงของชนกลุ่มน้อย  

    ทั้งคู่ได้ออกเดินทางตั้งแต่ปี 2008 ครั้งแรก 88 วันท่องเที่ยวยุโรป 16 ประเทศ ตอนนี้ผ่านไปแล้ว 8 ปี พวกเขาเดินทางไปแล้วกว่า 70 ประเทศทั่วโลก

    ชีวิตหลังปลดเกษียณต้องหวานชื่น ต้องเข้าใจแต่เนิ่นๆ ต้องรู้จักเสวยสุขให้เป็น

    สุดท้ายคนที่จะอยู่เคียงข้างร่วมกับคุณไปตลอดไม่ใช่ลูก พ่อแม่ พี่น้อง แต่เป็นคู่ชีวิต ก่อนหน้าที่จะปลดเกษียณพวกเขาทั้งคู่เคยอาศัยกันคนละที่ห่างกันไกลกันมากตลอด 8 ปีมีชีวิตเหมือนเป็นคนแปลกหน้า

    การท่องเที่ยวนี้ก็เหมือนเป็นการเริ่มต้นตกหลุมรักใหม่อีกครั้ง สิ่งนี้สำคัญยิ่ง มันทำให้ชีวิตมีความสุขมาก

    ในขณะเดินทางท่องเที่ยวนั้น หวังจงจินเกิดล้มป่วย ภรรยาของเขาก็อยู่เคียงข้างช่วยแบกสัมภาระให้เป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร

    หลายคู่เมื่อถึงช่วงบั้นปลายชีวิตก็มักจะไม่รู้จะคุยอะไรกับฝ่ายตรงข้ามดี แต่สำหรับพวกเขาพูดคุยกันจนไม่รู้จบ เหมือนคนกำลังจีบกันใหม่ๆเลย 

    แม้ภาษาจะไม่เป็น แต่นั้นก็ไม่ใช่อุปสรรค์สำหรับพวกเขาเลย หวังจงจินกล่าวว่า “ขอเพียงแค่มีความมั่นใจ แค่การวาดภาพก็สามารถแก้ไขปัญหาได้แล้ว” ขนาดอยากต่อรองราคาค่าห้องพักที่แพงเกินงบที่มี พวกเขาก็ใช้ภาษามือ สุดท้ายก็ต่อราคาสำเร็จ

    อย่ายึดติดกับความมั่งคั่ง จนต้องสูญเสียความสุขในชีวิต

    การแสวงหาอย่างกล้าหาญ จะได้ไม่ต้องรู้สึกเสียใจกับชีวิตนี้


    พวกเขาได้พกกาหม้อ ช้อน ซ้อมต่างๆ เพื่อความประหยัด บางทีก็ทำอาหารข้างทางกินกันเอง ค่าใช้จ่ายในการเที่ยวรอบโลกนั้นแม้จะเป็นจำนวนไม่น้อย แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจคือ พวกเขาขายบ้านที่มีอยู่เพื่อนำเงินไปเที่ยวรอบโลก

    นางจางกวงจู่กล่าวว่า “ฉันทราบดีว่าเป็นเรื่องงี่ง่าวมากสำหรับการเอาบ้านไปขายเพื่อไปท่องเที่ยว แต่สำหรับฉันมันคือประสบการณ์ที่เงินซื้อไม่ได้ ถ้าไม่ทำตอนนี้จะรอจนไม่มีแรงเดิน แล้วจะไปท่องเที่ยวอย่างไรล่ะ?”

    หวังจงจินกล่าวว่า “การท่องเที่ยวของเราก็คือมรดกมันล้ำค่าแก่ลูกหลาน ประสบการณ์ของพวกเรา ความรักและทัศนคติที่มีต่อชีวิตของเรานั้น เป็นทรัพย์สมบัติอันล้ำค่าสำหรับลูกหลาน พวกเขาต้องต่อสู้เพื่อตัวเอง เพราะเช่นนี้จะทำให้พวกเขาค้นพบความสุขอย่างแท้จริง”


.

        ชมคลิป

        คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<


ที่มา:nocancers

แปลและเรียบเรียงโดย Liekr

บทความที่คุณอาจสนใจ