หลายๆ ครอบครัวอาจเคยประสบปัญหาอันหนักใจอย่างหนึ่ง ก็คือ เมื่อคนในครอบครัวป่วยหนักจนเวลาเหลือน้อย ควรจะเลือกรักษาที่โรงพยาบาลต่ออีกหรือไม่ ในปี 2011 Huang Shengjian แพทย์ผู้เชียวชาญของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน 

        เขาเริ่มที่จะส่งเสริมวิธีการรักษาแบบ "การดูแลรักษาที่บ้าน" ซึ่งไอเดียนี้เกิดจากคำพูดของผู้ป่วยโดยคุณยายรายหนึ่ง

        แพทย์ผู้เชียวชาญคนนี้บอกกับนักข่าวว่า ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และหลายคนมีความหวังว่าจะสามารถสิ้นใจในบ้านของตัวเองได้ ก็อย่างกับคุณยายคนนี้ที่เคยพูดว่า "ฉันไม่อยากอยู่โรงพยาบาล ฉันอยากกลับไปอยู่บ้าน"

        ตอนแรก แพทย์ผู้เชียวชาญคนนี้แนะนำให้คุณยายรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล แต่ยายบอกว่า "คุณเห็นมั้ย บ้านของฉันอยู่ทางนั้น คุณสามารถไปรักษาฉันที่บ้านได้" หลังจากการพิจารณา สุดท้ายแพทย์คนนี้ก็เห็นด้วย และก็ได้ไปรักษาให้คุณยายถึงที่ตามที่คุยกันไว้ คุณยายก็ดูมีความสุขมากๆ

        แพทย์คนนี้พูดความจริงกับนักข่าวว่า เวลาของคุณยายเหลือน้อยแล้ว การไปรักษาให้เธอถึงที่เป็นเพียงความห่วงใยและความใส่ใจที่มีต่อเธอ เพื่อให้เธอรู้สึกสบายใจเท่านั้น แต่เธอก็ดูสดใสขึ้นและสภาพร่างกายก็ดีขึ้น ระยะเวลาในการอยู่รอดก็นานกว่าที่คาดไว้ จนแพทย์อยากจะให้เธอกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง

        แต่คุณยายกล่าวว่า "ขอขอบคุณสำหรับความห่วงใยของคุณ แต่ฉันบอกแล้วไง ถ้าให้ฉันกลับไปอยู่โรงพยาบาลอีก ฉันคงไม่ไหว ตอนนี้ลูกๆ ของฉันก็ไว้วางใจคุณมาก ไม่ต้องคิดไร เพราะว่าอีกไม่กี่วัน ฉันก็จะไปแล้ว" พอ 11 วันผ่านไป คุณยายก็จากไปอย่างเงียบสงบ

        ต่อมา แพทย์คนนี้ก็เริ่มจัดทีมแพทย์และพาพวกเขาไปเยี่ยมเหล่าผู้สูงอายุถึงบ้าน พวกเขานอกจากทำการรักษาให้ผู้สูงอายุที่บ้านแล้ว ยังได้โฆษณาโครงการของพวกเขา และได้ช่วยให้คนไข้หลายคนได้สิ้นลมหลายใจภายในบ้านตามที่พวกเขาต้องการ

        มีคุณยายอายุ 97 ปีคนหนึ่ง เคยเป็นโรคหลอดเลือดสมองมาแล้วสองครั้ง ลูกชายของเธอได้ขอความช่วยเหลือกับแพทย์คนนี้ว่า ให้ช่วยคุยกับแม่ของเขาหน่อย ดังนั้น แพทย์คนนี้จึงถามคุณยายว่า "ลูกชายของคุณกำลังปวดหัวว่า ถ้าอาการป่วยของคุณหนักขึ้น คุณจะให้ลูกชายของคุณทำยังไง" คุณยายกล่าวว่าตัวเองอยากจะอยู่บ้าน ไม่อยากไปอยู่โรงพยาบาล

        หนึ่งปีต่อมา น้ำหนักของคุณยายลดลงจาก 34 กิโลกรัมเหลือเพียง 31 กิโลกรัม ลูกชายของเธอถามแพทย์ว่า คุณแม่ไม่สามารถทานอาหารได้ ต้องให้อาหารทางสายยางมั้ย พอคุณยายได้ยินเท่านั้น เธอดุลูกชายเธอว่า "กล้าก็ลองดูซิ" ลูกชายฟังแล้วตอบทั้งน้ำตาว่าตามใจคุณแม่ แต่เธอกลับใจกว้างและพูดหยอกล้อว่า "ผอมดีแล้ว ตายแล้วจะได้บินขึ้นฟ้าง่ายๆ"

หลังจากฟังเรื่องราวของพวกเขาแล้ว รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ถึงจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้า แต่ก็ต้องขอบคุณคนกลุ่มนี้ พวกเขาได้ช่วยให้ความปรารถนาของผู้สูงอายุหลายคนกลายเป็นจริง ให้พวกเขาสามารถเลือกวิธีที่ตัวเองอยากจะจากไปได้ เพียงแค่นี้ก็สามารถทำให้ครอบครัวของพวกเขารู้สึกสบายใจขึ้นได้แล้ว