หลายคนคนส่วนใหญ่มักคิดว่าคนที่เกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ไม่สมบรูณ์ เป็นคนที่น่าสงสาร สังคมต้องช่วยเหลือ แต่ในทางกลับกัน เด็กชายคนนี้กลับไม่ได้คิดอย่างนั้น สื่อนอกเผย Liem Kaplan ผู้ที่มีจิตใจเมตตา และมีความกระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือผู้อื่น 

    และโชคดีมากที่เขาอยู่ในครอบครัวที่พร้อมสนับสนุนการทำดีของเขา ด้วยการช่วยเหลือเขาจัดตั้งโครงการช่วยคนไร้บ้านเรียกว่า Giving Hope Project

    Liem Kaplan เป็นเด็กกำพร้าชาวเวียดนาม และมีร่างกายที่ไม่สมบรูณ์เหมือนคนปกติ เขาถูกอุปการะเลี้ยงดูโดยครอบครัวหนึ่งในรัฐวอชิงตัน อเมริกา ซึ่งครอบครัวนี้ได้ขอรับเขามาเลี้ยงตั้งแต่อายุ 11 เดือน คอยให้ความรักและปลูกฝังสิ่งที่ดีๆ ให้กับเขาตลอดเวลา 

    ทำให้เมื่อเขาเติบโตขึ้นมากลายเป็นพลเมืองที่ทำคุณประโยชน์ให้สังคม โดยเริ่มช่วยเหลือคนไร้บ้านตั้งแต่ 6 ขวบ ปีนี้น้องอายุ 13 ปี เขาได้บริจาคหน้ากากอนามัยกว่า 5,000 ชิ้น พร้อมทั้งจัดหาอาหารและเสื้อผ้ากันหนาวให้คนไร้บ้านจำนวนมาก

    Liem Kaplan ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ฉันต้องการตอบแทนและฉันสนุกกับการทำสิ่งเหล่านี้” 

    Liem และทีมอาสาสมัครแจกถุงพลาสติกที่เต็มไปด้วยหน้ากากเจลทำความสะอาดมือขวดโหล เครื่องใช้อื่นๆ ที่จำเป็นแกคนไร้บ้าน และครอบครัวอื่นๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ

    Nancy Kaplan แม่ของ Liem เล่าว่า “ลูกชายกังวลว่า พวกเขาจะไม่มีหน้ากากสวมใส่ และไม่สามารถหาซื้อเจลทำความสะอาดมือได้”

    ความมุ่งมั่นของ Liem ทำให้ทีมงานรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนออกมาช่วยเหลือสังคม แม้จะต้องพบเจอกับความท้าทายที่มากมายก็ตาม พวกเขายังบอกอีกว่า แม้ว่าเขาจะเป็นเด็กที่มีมือไม่สมบรูณ์ แต่เขาก็ยังมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ที่อยากจะช่วยเหลือผู้อื่น

    Nancy Kaplan เล่าว่า  "Liem  ลูกคนสุดท้องในบรรดาลูกทั้ง 7 คน  และนิสัยของ Liem มีความโดดเด่นในการเป็นผู้นำโดยตลอดแม้จะอายุยังน้อย ตอนอายุ 6 ขวบเขาเริ่มทำเสื้อโค้ทและอุปกรณ์ตั้งแคมป์เต็นท์ สำหรับเด็ก"

.

    ช่วงวิกฤต Liem ก็ได้รวบรวมหน้ากากอนามัยเพื่อส่งมอบให้กับองค์กรที่สนับสนุนผู้คนที่ต้องเผชิญกับปัญหาคนเร่ร่อน และเขายังติดต่อ Facebook เพื่อขอความช่วยเหลือ ด้วยความพยายามขอให้ผู้คนบริจาคของใช้ต่างๆ ที่ยังอยู่ในสภาพดี และอื่นๆ จนสามารถจัดหาหน้ากากมากกว่า 5,000 ชิ้นได้

.

    นี่แหละนะต้นแบบเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีจิตสาธารณะและทำเพื่อประโยชน์ของสังคม โตขึ้นน่าจะได้มีบทบาทในการพัฒนาสังคมและเพื่อนมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่กว่านี้นะ

    ต้องขอบคุณครอบครัวที่เป็นแรงสนับสนุนและอยู่เบื้องหลังการทำความดีของน้อง ทำให้เราเห็นว่า การอุปการะเด็กคนหนึ่งนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าแค่ให้เขามีที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือการเลี้ยงดูให้เขาเติบโตมาเป็นคนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อสังคม และเสริมสร้างทัศนคติแง่บวกให้กับเด็กด้วย 

    และความดีเหล่านั้นจะส่งผลให้เด็กส่งต่อความดีความเมตตานั้นต่อไปในสังคม

    เป็นกำลังใจให้น้องนะคะ

ที่มา: @GratitudeDNA