เปิดใจ "นักธุรกิจสาว" ยอมรับไม่มีสติ กว่าจะตาสว่างก็ถูก "ร่างทรงพ่อปู่" ตุ๋นเปื่อยเกือบ 50 ล้าน

LIEKR:

เรื่องนี้น่าเห็นใจ เอาจุดอ่อนของคนเป็นแม่มาเล่น แล้วหลอกเอาเงิน (ชมคลิป)

    เรื่องราวในวันนี้เกิดขึ้นกับ “นักธุรกิจสาว” ที่ถูกร่างทรงหลวงพ่อเปิ่น ที่อ้างว่าสามารถดลบันดาล-สื่อวิญญาณ ใช้จุดอ่อนนี้มาหลอก ว่าติดต่อลูกสองคนที่เสียไปแล้วได้ กว่าจะตาสว่างก็เสียเงินไปแล้วเกือบ 50 ล้านบาท

    เธอคนนี้มีชื่อว่า คุณกันย์ลภัส นิพัทธ์วีรกุล หรือ “สา เจ้าของธุรกิจทำหลังคา ที่แท้งลูกน้อยไป 2 คนถูกร่างทรงท่านนี้หลอก... เธอบอกว่าเงินทั้งหมดที่โดนไปมากกว่า 50 ล้าน โดยมีเงินสด 42 ล้านบาท บ้านอีก 4 ล้านบาท และเครื่องจักรในธุรกิจต่างๆ อีกมากมาย

 

Sponsored Ad

 

    เธอบอกว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2559 รู้จักกับ “ซิ้ม” หรือ ร่างทรงคนนี้ ผ่านเพื่อนคนนึง โดยครั้งแรกที่เจอกันคือที่วัดบางพระ จ.นครปฐม แล้วก็พากันไปทำบุญ เธอยอมรับว่าตอนนั้นไม่มีสติ และโง่ที่ไปหลงเชื่อ แต่ที่ออกมาพูดวันนี้เพราะไม่อยากให้คนอื่นถูกหลอกเหมือนเธอ  

 

Sponsored Ad

 

    เธอได้เล่าว่าเพื่อนของเธอเล่าให้ฟังว่า ซิ้มเคยเอาเด็กออก แล้วเด็กคนนั้นก็กลับมาสิงอยู่กับตัวซิ้ม ด้วยความที่เป็นคนเชื่ออะไรแบบนี้อยู่แล้ว แล้วเพื่อนก็ยืนยันว่าเป็นความจริง ก็เลยเชื่อทุกอย่าง ตอนที่รู้จักกันแรก ๆ ก็พากันไปทำบุญ หลังจากนั้นก็ห่างกันไป แต่พอมาวันนึงเธอกลับก็ได้ติดต่อกลับไปหาร่างทรงคนนี้ และวันนั้นเขาพาไปที่บ้านพร้อมกับขอยืมเงินเธอ 3 แสนบาท โดยอ้างว่าไม่มีเงิน เธอก็เลยให้ยืมไป 

    เหตุผลที่ให้ยืมเยอะขนาดนั้น เพราะวันนั้นเขาพาลูกที่พิการมาด้วย เธอเห็นเด็กแล้วสงสารก็เลยให้ไป เพราะถือว่าได้ช่วยเหลือเด็กคนนั้นด้วย การยืมเงินได้ทำสัญญาตามกฎหมาย แต่ทวงถามไปมา เขาก็บ่ายเบี่ยงที่จะคืน 

 

Sponsored Ad

 

    ต่อมาร่างทรงคนนี้ก็มาขอยืมเพิ่ม และสร้างสตอรี่ว่า เอาเงินไปปล่อยกู้ให้กับกลุ่มชาวนาที่หนองจอก โดยเขาจะให้เธอเป็นนายทุน เงินตรงนี้ก็ประมาณ 3 ล้านบาท ทุกอย่างสัญญาเขาเป็นคนจัดการทั้งหมด ทั้งที่เธอไม่เคยไปเจอหน้าชาวนาตรงนั้นเลย

 

Sponsored Ad

 

    เธอได้บอกว่าที่เริ่มเชื่อใจมากขึ้น ก็เพราะเขาเริ่มทรงให้เห็น ทรงเป็นปู่เปิ่นกับลูกของเขาที่เสียไป เวลาทรงก็เป็นเหมือนคนปกติ แค่เสียงที่เปลี่ยนไป ตอนนั้นไม่ได้เอะใจว่าเขาจะหลอก ทุกเช้าซิ้มหรือร่างทรงนี้แหละจะเป็นคนโทรมาหา โดยบอกว่าพ่อปู่โทรมาอวยพร และก็โทรมาแบบนี้ทุกวัน เหมือนสะกดจิตเธอ

    มีวันนึงซิ้มก็สร้างปาฏิหาริย์ในรถ ระหว่างที่ขับรถไปด้วยกัน จะไปทำบุญหลวงพ่อโสธร ก็มีกลิ่นหมากลอยเข้ามา ตอนนั้นซิ้มบอกว่า ปู่ 108 พระองค์จะมาลง วันเดียวกันนั้นซิ้มบอกว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิด พอขากลับก็เจอกับเปรตที่เดินข้ามรถ ไปฝั่งสุสาน ทำให้เธอเชื่อเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีก

 

Sponsored Ad

 

    เธอได้เล่าให้ฟังอีกว่า ส่วนเรื่องที่ซิ้มสามารถติดต่อกับวิญญาณลูกทั้งสองคนของคุณสาได้นั้น เธอได้เล่าว่า วันนั้นเธอไปดูดวง แล้วได้ทำพิธีตามความเชื่อที่บ้านของเธอ เป็นพิธีต่ออายุ เธอบอกว่าตอนั้นซิ้มกับทรงร่างพ่อปู่ แล้วทำพิธีย้ายดวงวิญญาณลูกทั้งสองของเธอลงหม้อ โดยบอกว่าถ้าทำแบบนี้แล้วเธอจะติดต่อกับลูกได้ตลอดเวลา

 

Sponsored Ad

 

    ซิ้มบอกว่าสามารถคุยกับลูกเธอได้ เวลาให้ลูกเธอมาก็จะเรียกเธอว่า แม่จ๋า ชวนให้เธอไปลงทุนธุรกิจและหลอกเงินเธอไป ตอนนั้นลูกได้บอกว่าให้เอาเงินไปลงเหมือนฝากขายที่ดินโดยให้เราเป็นนายทุน โดยเอาเงินให้ซิ้มกับสามีซิ้มไปดำเนินการแทน มีการพาไปชี้ที่ดิน แต่ไม่เคยเห็นโฉนดเลยสักครั้ง

    การทำธุรกิจต่างๆ เธอเป็นคนจ่ายเงินทั้งหมด ซิ้มและสามีซิ้มเป็นคนดำเนินการ เป็นคนทำสัญญา เธอบอกว่าที่ยอมให้ซิ้มจัดการเป็นเพราะลูกที่อยู่ในร่างเขา และพ่อปู่บอกไว้ ที่ทำตามเพราะหม้อวิญญาณลูกไปอยู่ที่บ้านซิ้มด้วย และอีกอย่างนึงก็คือไว้ใจซิ้ม

Sponsored Ad

    ด้านเคที่ลูกสาวอีกคนของคุณสา ได้ออกมาบอกว่า เธอเป็นคนที่แม่บอกให้ไปอยู่กับซิ้ม แต่ซิ้มดูแลเธอไม่ดี ให้เธอไปเป็นกรรมกรก่อสร้าง ตักปูน ฉาบปูน ผสมปูน โดยอ้างว่าทำงานหนักจะได้แข็งแรง เรื่องนี้แม่รับทราบดี

    คุณสาก็ได้บอกอีกว่า ตอนนั้นซิ้มรับปากจะดูแลอย่างดี และปลอดภัย บอกกับเธอว่าจะฝึกให้เคที่ลูกสาวคนนี้รู้จักการทำงาน จะได้ฝึกกล้ามเนื้อ เพราะว่ากล้ามเนื้ออ่อนแรง แต่กลายเป็นว่าเขาทำมาร้ายร่างกาย พร้อมยกภาพมายืนยัน

    ต่อมาซิ้มก็มาบอกเธอว่า ซิ้มมาบอกว่าจะลงเครื่องจักรที่รีดหลังคา พร้อมเปิดเป็นบริษัทถูกต้องตามกฎหมาย โดนมีคุณสาเป็นเจ้าของ แต่ชื่อบริษัทเป็นชื่อของซิ้ม เพราะซิ้มอ้างว่าถ้าเป็นชื่อร่วมสองคนเวลาประมูลงานจะทำได้ลำบาก เนื่องจากคุณสาได้มีชื่อบริษัทตัวเองอยู่แล้ว หากมีชื่อคุณสาอีกบริษัทจะทำธุรกิจได้ลำบาก เธอบอกว่า ซิ้มเหมือนใช้ช่องโหว่ตรงนี้มาหลอกเงินเธอ

    ต่อมาเธอได้ไถ่ทวงเงินซิ้มก่อน 10 ล้าน แต่ซิ้มกับสามีซิ้มก็บ่ายเบี่ยงว่าตัวเองติดโควิดต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ไปโทรไปสอบถามที่โรงพยาบาลกลายเป็นว่าไม่มีชื่อในการรักษา เลยขับรถไปที่โรงงานไปสอบถามกับพนักงานก็รู้ว่า ซิ้มไม่ได้ไปไหน ซิ้มเข้าโรงงานทุกวัน แต่ตอนนี้ซิ้มได้ปิดโรงงานและเอาของทุกอย่างหนีไปหมดแล้ว

    คุณสาเธอได้เล่าต่อว่า ก้อนล่าสุดที่โดนหลอกไป คือ เงินกว่า 13 ล้านบาท เพราะซิ้มบอกว่าจะเอาไปวางศาล เพราะลูกสาวต้องใช้เงินสู้คดี แต่กลายเป็นว่าเขาทำทุกอย่างเพื่อตบทรัพย์ เขาหลอกทุกเรื่อง ให้โอนเงินไปให้คนนั้นคนนี้ โดนบอกว่าเป็นอัยการจะได้ช่วยเหลือเธอได้ เขาสร้างเรื่องขึ้นมาทั้งหมด 

    นักข่าวได้โทรไปถามกับซิ้มถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ซิ้มได้บอกว่าทุกอย่างไม่เป็นความจริง พร้อมจะส่งทนายสู้ นักข่าวได้จี้ถามเรื่องบ้าน จนซิ้มตัดสายทิ้ง คุณสาได้เล่าต่อว่า บ้านที่นักข่าวถามราคา 4 ล้านบาท ตอนนั้นจะซื้อเป็นชื่อตัวเอง ค่าโอน 4 แสน แต่พ่อปู่เข้าทรงสามีซิ้มแล้วมากราบเท้าบอกว่าให้ซื้อบ้านเป็นชื่อสามีซิ้ม แล้วชีวิตจะเจริญขึ้น

    ด้านหนุ่มกรรชัย ได้ถามคุณสาว่า สามีคุณสารู้เรื่องไหม ถ้าไม่ได้เงินคืนจะทำยังไง เธอได้บอกว่า สามีไม่รู้เรื่องเลย แต่พึ่งมารู้ความจริงตอนหลัง เธอยอมรับเป็นคนโง่ แต่ขอซิ้มอย่างเดียวว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก เธออยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์กับคนอื่นด้วย พร้อมทิ้งท้ายว่า คนดีต้องอยู่ในสังคม คนชั่วต้องอยู่ในคุก

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<<

ที่มา : รายการโหนกระแส

บทความที่คุณอาจสนใจ